วันนี้ (29 เม.ย.2567) นายปกรณ์ มหรรณพ กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการคัดเลือก สว.ว่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะมีจำนวนผู้สมัครในระดับอำเภอมากน้อยแค่ไหนจากทั้งหมด 928 อำเภอ แต่จะมีผู้สมัครอยู่ 2 ประเภท คือสมัครเพื่อที่จะเข้ามาเป็นสว.จริงๆ กับสมัครเพื่อที่จะใช้สิทธิในการเลือกสว.โดยประเภทที่ 2 ต้องจับตามองอย่างยิ่ง
ทั้งนี้จะเห็นภาพชัด เมื่อเข้าสู่การคัดเลือกในระดับจังหวัด ซึ่งจะเหลืออยู่ราว 50,000 คน ก่อนจะขึ้นมาในระดับประเทศ เหลือประมาณ 3,000 คน และจะมีการเลือกให้เหลือ 200 คนสำรองอีก 100 คน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องบริหารจัดการให้ได้โดยเฉพาะในเรื่องของคุณสมบัติ และการใช้สิทธิ
วันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) จะมีการพิจารณาเรื่องบัตรเลือก สว. ซึ่งเป็นเรื่องยากเพราะการเลือกไขว้ตั้งแต่ระดับอำเภอจนถึงจังหวัด ยังไม่รู้ว่าในจำนวน 5 กลุ่มที่จะถูกแบ่งเป็นหนึ่งสายจะประกอบไปด้วยกลุ่มใดบ้าง
อ่านข่าว กกต.เปิดศูนย์ต้าน Fake News ถึงฤดูข่าวลวงรับเลือกตั้ง สว.
นัดถกวางเกณฑ์ต้องห้าม
โดยกลุ่มแรกจะเลือกตัวเองและคนในกลุ่มไม่ได้ เพราะเท่ากับว่าจะต้องทำบัตรเลือกตั้งสำหรับคน 4 กลุ่ม ซึ่งบัตรเลือกสว. ทุกอำเภอจะต้องทำให้มีความสอด คล้องกัน รวมทั้งการตรวจคุณสมบัติทั้ง 928 อำเภอ จะเป็นไปอย่างมีประสิทธิ ภาพ โดยตั้งงบให้สำนักทะเบียนกลาง 20 ล้าน แต่จะได้เพียงข้อมูลเบื้องต้น
การตรวจสอบคุณสมบัติ โดยเฉพาะลักษณะต้องห้าม 26 ข้อ ถือเป็นเรื่องหนักใจของกกต.เช่น เป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือไม่ มีตำ แหน่งในพรรคการเมืองหรือไม่ หรือเคยต้องโทษจำคุก แต่เป็นความผิดประเภทใด
ร.ต.อ.ชนินทร์ น้อยเล็ก รองเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ชี้แจงว่า ถ้าสมัครโดยที่ขาดคุณสมบัติ หรือไม่มีสิทธิสมัคร ก่อนสมัครก็ควรที่จะเคลียร์ตัวเองให้เรียบร้อยก่อน จะได้ลงสมัครด้วยความสบายใจ
อ่านข่าว หน้าร้อนสร้างเงิน “ช่างแอร์” ลูกค้าแน่นรายได้พุ่งสูง 5 เท่า
ขณะที่ นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวว่า หลักการพิจารณาการถือหุ้นของ กกต. คือดูวัตถุประสงค์ของการประกอบกิจการ สื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ถ้าไม่มีในวัตถุประสงค์ก็จบในแบบ สบช.3 เพิ่งจะเห็นว่ามีรายได้ในการประกอบกิจการถ้าไม่มีรายได้ของการประกอบกิจการสื่อมวลชน
ส่วนคนที่จะสมัคร สว.ถ้ารู้ว่าถือหุ้นที่เกี่ยวกับสื่อมวลชน หรือไม่ใช่เพื่อหลีกเลี่ยง ต้องโอนหุ้นให้กับบุคคลหนึ่งบุคคลใด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อนการสมัคร
อ่านข่าวอื่นๆ
หย่อมความร้อนคลุมไทย 7 วันร้อนจัดแตะ 43 องศาฯ
ร้อง “ทัวร์ทิพย์” ลวงเที่ยวต่างแดนนับ 100 คนสูญ 30 ล้านบาท
