วันนี้ (2 เม.ย.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัม ภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า สื่อมวลชนพูดถูก ข่าวลือก็ต้องจบที่ข่าวลือ ส่วนกระแสข่าวดึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เข้าร่วม ครม. ยังไม่เคยมีการพูดคุย อีกทั้งเคยบอกว่า 314 เสียงก็พอแล้ว ซึ่งสามัคคี และร่วมกันทำงานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐ จะมีการเพิ่มโควตาจะมีการขยับคนพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอให้อยู่กับความเป็นจริงในวันนี้ดีกว่า และยังคงโควตารัฐมนตรีให้พรรคร่วมรัฐบาลในสัดส่วน เพราะเป็นข้อตกลงที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ส่วนกรณีพรรคพลังประชารัฐ เหลือโควตารัฐมนตรี 1 เก้าอี้ เป็นโควตาที่เหลือมานานแล้ว รวมถึงพรรคเพื่อไทยก็เหลืออีก 1 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม วันนี้เน้นย้ำเรื่องการใช้งบเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ รวมถึงดูแลประชาชนให้ดีที่สุด
อ่านข่าว “ธรรมนัส-สุทิน” มั่นใจไม่ถูกปรับครม.-ปัดเสียโควตาให้ ปชป.
นอกจากนี้ ยังระบุว่า กรณีที่การเรียกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยบางส่วนขึ้นไปหารือบนตึกไทยคู่ฟ้า ไม่มีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการปรับ ครม.
กระแสข่าวที่ออกมาไม่ทราบ ไม่ให้ความสำคัญ รัฐมนตรีทุกคนก็ทำ งานเพื่อประชาชน หากมีกระแสข่าวจะถูกตัดออกไป ก็จะเกิดความกังวล เชื่อว่าการที่ทุกคนอยู่ตรงนี้ นำประชาชนเป็นที่ตั้งและทำงานอย่างเต็มที่
“อนุทิน” ถามกลับจะเอาคนไม่โหวตเข้าร่วมรัฐบาล
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัว หน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรเกษตรและสหกรณ์ ระบุโควต้าของ นายไผ่ ลิกค์ เข้ามาว่า ที่ประชุม ครม.ไม่ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว ส่วนการปรับ ครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี
ส่วนกระแสข่าวที่พรรคประชาธิปัตย์ จะมาร่วมรัฐบาลนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ทราบเลย เพราะคนที่จะเข้ามาหรือปรับอะไร ก็อยู่ที่นายกรัฐมนตรี
เมื่อถามหากมีการปรับ ครม.พรรคภูมิใจไทย จะต้องมีโควตาเท่าเดิมใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลชุดนี้ 300 กว่าเสียง เป็นพรรคที่โหวตให้นายเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี การที่จะเอาคนที่ไม่ได้โหวตเข้ามา ก็ต้องดูว่า จะทำความเป็นธรรม อย่างไรให้เข้าร่วมรัฐบาลที่เขาตั้งใจให้นายเศรษฐา เข้ามา เป็นนายกรัฐมนตรี
อ่านข่าว
สว.เห็นชอบให้ “มณเฑียร เจริญผล” เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน คนใหม่