หน้าแรก Thai PBS “ศิริกัญญา” เปิด 3 แหล่งเงิน “ดิจิทัลวอลเล็ต” อัดรัฐบาลขายผ้าเอาหน้ารอด

“ศิริกัญญา” เปิด 3 แหล่งเงิน “ดิจิทัลวอลเล็ต” อัดรัฐบาลขายผ้าเอาหน้ารอด

76
0
“ศิริกัญญา”-เปิด-3-แหล่งเงิน-“ดิจิทัลวอลเล็ต”-อัดรัฐบาลขายผ้าเอาหน้ารอด

วันนี้ (3 เม.ย.2567) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.ก้าวไกล อภิปรายผลงาน 3 เดือนของรัฐบาล ว่า หลายเรื่องดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่หลายโครงการอยู่ระหว่างขับเคลื่อน ยังไม่มีผลเป็นรูปธรรม แต่นำมาบรรจุเป็นผลงานเรียบร้อยแล้ว และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลงาน 6 เดือนของรัฐบาลเศรษฐา พบว่ามีการผลิตซ้ำ นำผลงานเมื่อ 3 เดือนก่อนมาเป็นผลงาน 6 เดือน โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับการลดรายจ่าย พบว่าไม่มีเรื่องใหม่ ส่วนการเพิ่มรายได้พบว่ามีเพิ่มมา 2 เรื่อง เป็นต้น ซึ่งจาก 3 เดือนมา 6 เดือนผลงานที่เพิ่มขึ้นมามีน้อยมาก

นอกจากนี้มาตรการลดรายจ่ายทั้งหมดของรัฐบาลกำลังทยอยหมดอายุ เช่น ลดค่าไฟ ลดภาษีน้ำมันเบนซิน ลดภาษีน้ำมันดีเซล รวมถึงตรึงราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งหลังจากนี้จะมีแนวทางต่ออย่างไรกับมาตรการลดค่าครองชีพ หรือจะเป็นการลดแบบชั่วคราวที่ยังไม่มีการแก้ปัญหาระยะยาว สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือภาระในหน่วยต่างๆ เช่น กองทุนน้ำมัน ที่ปัจจุบันนี้ทำหน้าที่ “เดอะแบก” สถานะกองทุนเคยอยู่ในแดนบวกตอนเริ่มรัฐบาลใหม่ๆ แต่ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าติดลบไปแล้วเกือบ 100,000 ล้านบาท ขณะที่ยอดเงินกู้ก็มีกว่า 100,000 ล้านบาทเช่นกันจนใกล้เต็มเพดาน

จึงอยากถามว่า จะมีแผนจัดการกับสถานะของกองทุนน้ำมันอย่างไร และจะมีการออก พ.ร.ก.ขยายวงเงินกู้ยืมให้กับกองทุนน้ำมันอีกหรือไม่ รวมถึงจะมีพื้นที่ทางการคลังเหลือเพียงพอหรือไม่

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล

น.ส.ศิริกัญญา ยังกล่าวถึงมาตรการ “วีซาฟรี” โดยระบุว่า ไม่ช่วยอะไร หากพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเปลี่ยนไป ถือเป็นโครงการคิดใหญ่ ทำเล็ก เพราะผลเทียบไม่ได้กับสเกลปัญหาที่เจออยู่ในขณะนี้ เพราะไตรมาสแรกของปี 2567 จำนวนที่นั่งในเที่ยวบินจากจีนมาไทยลดลงจากช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ขณะที่ญี่ปุ่นแซงประเทศไทยมีจำนวนที่นังของเที่ยวบินมากกว่า 80% และเกาหลีใต้ที่หายใจรดต้นคอโดยมีจำนวนที่นั่งของเที่ยวบินสูงขึ้นเรื่อยๆ พร้อมตั้งคำถามว่านโยบาย Tourism Hub จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร จะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพานักท่องเที่ยวจีนมากเกินไปได้อย่างไร

“ศิริกัญญา” ฉะ “ดิจิทัลวอลเล็ต” จากพายเรือในอ่าง สู่ออกทะเล

ส่วนเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” โครงการนี้มีปัญหาในเรื่องรายละเอียดมาโดยตลอด และครั้งนี้มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายละเอียดเป็นครั้งที่ 5 แล้ว โดยเฉพาะเรื่องแหล่งที่มาของเงินเรื่องแหล่งที่มาของเงิน ซึ่งล่าสุดคาดว่าจะมีการใช้แหล่งเงินจาก 3 แหล่ง คือ งบกลางปี 67, เบ่งงบปี 68 และการกู้ ธกส. นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องจำนวนคนที่จะได้รับสิทธิประโยชน์ วันเริ่มโครงการ รวมถึงแอปพลิเคชันหรือช่องทางการดำเนินโครงการ

น.ส.ศิริกัญญา ยังวิเคราะห์แหล่งที่มาของงบดิจิทัลวอลเล็ต ว่า เมื่อวันที่ 2 เม.ย.ที่ผ่านมา ครม.ได้ทบทวนกรอบการคลังระยะปานกลาง โดยให้เพิ่มงบปี 68 เป็น 3.75 ล้านล้านบาท กู้ชดเชยขาดดุล 865,700 ล้านบาท เพิ่มเป็น 150,000 ล้านบาท ก็คาดว่าอาจมีการเบ่งงบปี 68 เพื่อนำมาใช้ในโครงการนี้

สำหรับงบกลางปี 67 ซึ่งรัฐบาลสามารถออก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม (งบกลางปี) โดยการกู้ชดเชยขาดดุลจนเต็มเพดานอีก 100,000 ล้านบาท และอาจโอนเปลี่ยนแปลงงบกลางอีก 40,000 ล้านบาท ซึ่งวิธีการ หลายคนอาจงงว่า ออกงบปี 67 แต่จะไปใช้ในปี 68 ได้อย่างไร ซึ่งก็มีทริกว่าเอาไปใส่ไว้ในกองทุน เพราะบรรดากองทุน หรือเงินทุนหมุนเวียนของรัฐบาล สามารถใส่เงินไปแล้วไม่ต้องส่งคืนคลัง ซึ่งจะใช้เมื่อไหร่และใช้กับอะไรก็ได้ ซึ่งคาดว่ากองทุนนั้นคือกองทุนประชารัฐเพื่อสวัสดิการ ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจนว่าต้องให้คนที่มีฐานะยากจนหรือมีรายได้น้อย

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.พรรคก้าวไกล

ส่วนการกู้ ธกส. มีวิธรการคือให้ ธกส.ดำเนินนโยบายแทนตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง เพื่อแจกเงินดิจิทัลให้ครัวเรือนเกษตรกร 210,000 ล้านบาท

เป็นความพยายามที่เรียกได้ว่าเลือดเข้าตา จากเดิมที่เคยพายเรือในอ่าง กลับไปเริ่มที่ศูนย์ใหม่เรื่อยๆ วันนี้เรากำลังออกทะเลกันไปไกล

น.ส.ศิริกัญญา ย้ำว่า มูลค่า 500,000 ล้านบาทที่กำลังจะเกิดขึ้นมาจากการกู้ เพียงแต่เป็นการกู้ที่อาจจะสามารถทำให้ถูกกฎหมายได้ พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่าการที่รัฐบาลแก้ไขรายละเอียดแบบเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแสดงถึงการไม่มีความพร้อมมาตั้งแต่เริ่มต้น จึงต้องขายผ้าเอาหน้ารอดเป็นรายวัน ขณะเดียวกันก็ทำให้เกิดความเสียหาย โมเมนตั้มทางเศรษฐกิจหรือพายุหมุนที่รัฐบาลอยากให้เกิดขึ้นก็จะไม่เกิด เพราะคนไม่มีความเชื่อมั่นและก็ยังไม่รู้ว่าโครงการนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่

“จุลพันธ์” รับ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เปลี่ยนตามข้อกฎหมาย

ด้านนายจุลพันธ์ อมวรวิวัฒน์ รมช.คลัง ลุกขึ้นชี้แจงระบุว่า กรณีที่มีการอภิปรายตัดเกรดการทำงานของรัฐบาลสามารถทำได้ แต่ขอชี้แจงว่าขณะนี้ยังอยู่ระหว่างกระบวนการ ดังนั้นการตัดเกรดควรรอให้เสร็จกระบวนการก่อน ซึ่งยินดีให้ตรวจสอบการทำงานและเมื่อครบวาระ หากจะมาตัดเกรดอีกทีก็หวังว่าจะได้ A

ส่วนกรณีโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อยากให้ลดการคาดเดา เพราะอีกไม่กี่วันจะถึงวันที่ 10 เม.ย.ที่จะมีความชัดเจน สาเหตุที่พูดวันนี้ไม่ได้เพราะยังต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายของคณะกรรมการนโยบาย จึงขอให้รอความชัดเจนก่อนและทุกอย่างจะจบสมบูรณ์

ขณะที่บางเรื่องที่มีการถามมานั้น เช่น กรณีแหล่งเงินในการทำงาน ในชั้นอนุกรรมการฯ มีหน้าที่สำรวจว่ามีตัวเลือกให้สำหรับเดินหน้าโครงการได้ ซึ่งต้องเปิดกว้างทุกทางเลือกที่มีความเป็นไปได้และรับฟัง ซึ่งการเดินหน้าอำนาจอยู่ที่คณะกรรมการนโยบาย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง

รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงสภาพัฒน์ หน่วยงานเหล่านี้อยู่ในคณะกรรมการทั้งหมด ซึ่งโครงการนี้ถูกตรวจสอบอย่างเข้มงวด พร้อมรับฟังคำแนะนำ ชี้แจงทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญ

พร้อมย้ำว่า วันที่ 10 เม.ย.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบาย ซึ่งยืนยันว่าภายในปีนี้ทั้งตัวเงิน แหล่งเงิน แอปพลิเคชัน จะมีความพร้อม เติมเงินได้ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี ขออย่าเดาเพราะจะยิ่งทำให้เกิดความสับสน

“ดิจิทัลวอลเล็ต มีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งตามที่มีการอภิปรายจริง ในหลายมิติ ทั้งจำนวนคน กลไก รายละเอียดและแหล่งเงิน ซึ่งการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งไม่ได้อยากเปลี่ยน แต่เปลี่ยนตามข้อกฎหมาย และเปลี่ยนแปลงตามข้อแนะนำและข้อเสนอแนะของหน่วยงาน เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้เปลี่ยนถึง 5-6 ครั้งตามที่มีการอภิปราย แต่เป็นการคาดเดาของผู้อภิปรายและออกไปยังสื่อ ซึ่งไม่ได้ออกมาจากคณะกรรมการ หรือจากนายกฯ หรือตน ซึ่งอาจทำให้สับสนบ้าง แต่ก็ขอบคุณที่อยากให้โครงการนี้เดินหน้าต่อไปได้” นายจุลพันธ์ กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เริ่มแล้ว ! อภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ฝ่ายค้าน-รัฐบาล เต็มห้องประชุม

“จุรินทร์” ซักฟอกเดือดนายกฯ เซลล์แมน-รัฐบาลอีเวนต์

“ทวี” โต้ “จุรินทร์” อย่าใช้อคติอภิปรายปม “ทักษิณ” ติดคุกทิพย์

“จุลพันธ์” ยืนยันประเทศไทยมี “เศรษฐา” เป็นนายกฯ คนเดียว

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่