วันนี้ (4 เม.ย.2567) นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นอภิปรายกว่า 30 นาที ถึงนโยบายของรัฐบาลที่ดำเนินการล้มเหลวหลายเรื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรีได้พูดเรื่องนี้ เราก็อยากให้ราคายางเป็นแบบนี้ไปตลอด แต่พี่น้องชาวสวนยางอย่าประมาทว่าราคายางจะดีตลอด เพราะอีกในอนาคตข้างหน้ามันจะปรากฏผลออกมา เช่น ในสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ราคายางเคยขึ้นถึง 120 บาท
เวลาขึ้นมันไม่ได้ขึ้น เพราะรัฐบาล แต่มันทุกประเทศ ไม่อยากให้หลงทางแล้วแต่จากนั้นรัฐบาลจะโดนตำหนิว่าหลอกชาวบ้าน อยากให้รัฐบาลทำงานถี่ถ้วน รอบคอบ เพราะเหตุร้ายหลายรอบเกิดจากความไม่รอบคอบ แล้วยากที่จะแก้ไข
อ่านข่าว จับกระแสการเมือง 4 เม.ย.67 : สภาเดือดฉายหนังม้วนเก่า อัดกันยับไม่มีใครยอม วาทกรรมเกลื่อน
ปัญหาชายแดนใต้ มี.ค.50 ครั้ง
นายชวน กล่าวถึงปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า รัฐบาลไม่ได้เขียนนโยบายเกี่ยวกับภาคใต้ไว้เลย ซึ่งต้องเอาชีวิตคนเป็นหลัก ความผิดพลาดจากนโยบายในอดีต ทำให้สูญเสียชีวิตคนไปจำนวนมาก ต้องห่วงใยพี่น้องทุกคน ทั้งพุทธ มุสลิม หากอยากรู้ว่าเหตุการณ์นี้รุนแรงแค่ไหน ให้ไปดูข่าวในพระราชสำนัก จะเห็นผู้ว่าฯ จังหวัดต่างๆ เป็นตัวแทนพระองค์ไปมอบสิ่งของ วางพวงมาลาตลอด
จะมีมาตรการป้องกันความเสียหาย พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร พื้นที่นี้เป็นด้ามขวาน ถ้าไม่มีเรื่องความไม่สงบจะกลายเป็นด้ามทอง อุดมไปด้วยธรรมชาติ แต่ความไม่สงบทำให้มีคนตาย
เมื่อปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมามีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้นกว่า 50 ครั้ง นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เหตุการณ์ดีขึ้นต่อว่าได้โทรไปหานายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จึงถามท่านว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา เป็นเหตุในประเทศหรือระหว่างประเทศ นายกฯมาเลเซีย แนะนำหรือเสนอว่าอย่างไรบ้าง
เรื่องปัญหาความไม่สงบ ถ้าไม่แน่ใจอย่าไปทดลอง เพราะถ้ามันพลาดแล้วเอาคืนยากมาก เหมือนอย่างวันนี้ ก็ขอให้กำลังใจคนแก้ปัญหาบางเรื่องต้องให้เกียรติคนที่หวังดี
ชื่นชมผู้ว่าแบงก์ชาติกล้าติงดิจิทัล
นอกจากนี้ ขอชื่นชมคนนอกหลายคน เช่น ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ไม่ใช่นักการเมือง แต่ได้ท้วงติงนโยบายแจกเงิน ท่านไม่ได้เป็นนักการเมือง เพราะฉะนั้น ความคิดท่านไม่ได้เกี่ยวกับคะแนนเสียง แต่เป็นความคิดที่หวังดีต่อชาติ เหมือนกับแม่ทัพภาค 4 ที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่เขาอยู่ในพื้นที มันเป็นภาพที่เสียใจมาก พระบิณฑบาตต้องมีทหารเดินนำหน้า ครั้งหนึ่งต้องตายทั้งคู่
นายชวน กล่าวถึงนายกรัฐมนตรี ที่พูดว่าลงพื้นที่ภาคใต้ 2 วัน 3 คืนไม่เห็นมีใครใส่เสื้อเกราะ หรือทหารขับรถถังตามมา เพราะมั่นใจว่าไปด้วยเจตนาที่ดี ไปด้วยใจจริง เพราะพรรคเพื่อไทยไม่มี สส.ที่นั่น ขออย่าไปเชื่อวาทกรรมที่ผู้นำบางท่านพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ สนามบิน จ.ภูเก็ต พรรคเพื่อไทยไม่มีสส.แต่ลงทุนไปหลายหมื่นล้านบาท
เพราะประโยคนี้ เรื่องต้องอธิบาย ขอฝากไว้ด้วยความเคารพ เมื่อเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าไปคิดว่ามี สส. เพื่อไทยอยู่หรือไม่ หน้าที่ต้องไป ไปนิดเดียวอย่าทวงบุญคุณ
กรีด “เศรษฐา” เสดสา
นอกจากนี้ นายชวน ย้ำว่า นั่นคือหน้าที่อยู่แล้ว ท่านลงพื้นที่ภูเก็ต เข้าใจครับ ความจริงท่านไปก่อนแล้ว เพราะมีบริษัทของท่านไปทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่นั่น แต่สิ่งที่อยากกราบเรียนก็คือว่า ภูเก็ตเป็นเมืองที่ทำรายได้ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของต่างจังหวัด รองจากกรุงเทพ ต้องช่วยพัฒนาเพราะรายได้นั้นคือภาษีที่จะมาเลี้ยงประเทศเรา นายกฯ เศรษฐา
วันนี้เรียกชื่อไม่ผิดนะครับ ท่านไม่ใช่นายกฯ อีแอบนะครับ ท่านเป็นนายกฯ มาครึ่งปีแล้ว ผมก็ติดภาษาใต้ ขออภัยด้วยครับ ภาษาใต้เขาเรียกว่า เสดสา แปลว่าลำบาก แม่บอกว่ากรีดยางทั้งวันได้นิดเดียว เหนื่อย ชีวิตเสดสา ชีวิตเสดสา คือชีวิตลำบาก
อ่านข่าว “สุทิน” ตอกกลับ “ก้าวไกล” อย่าลืมเคยหนุนซื้อ “เรือฟริเกต”
นอกจากนี้ นายชวน ตั้งคำถามด้วยที่ท่านบอกว่าผู้นำบางคนพูดว่าเพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ ไปเอามาจากไหน ไม่เคยพูด พูดในวันแถลงนโยบายว่า ภาคใต้ถูกเลือกปฏิบัติ คนที่เลือกปฏิบัติเขาไม่ได้ทำโดยแอบทำ เป็นอีแอบหรืออะไรก็ตาม เขาก็พูดตรงไปตรงมาว่า เมื่อได้รับเลือกตั้งมาจากประชาชน
ขอพูดตรงๆ เราพัฒนาจังหวัดที่เลือกเราก่อน คือจังหวัดพรรคไทยรักไทยก่อน จังหวัดอื่นไว้ทีหลัง นายกรัฐมนตรี ไม่ทราบว่าคนพูดคือใครจะบอกให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นคนพูด ไม่ได้แอบพูด แต่ประกาศกับประชาชนตรงๆ
ทำให้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.พรรคเพื่อไทย ประท้วง ในฐานะ สส.เชียง ใหม่ พรรคเพื่อไทย ว่า อย่าเอ่ยถึงคนนอก ที่เขาไม่มีสิทธิมาชี้แจง เพราะเรื่องพวกนี้กระทบกับบุคคลภายนอก เมื่อสักครู่ได้พูดถึงอดีตนายก ว่าเลือกปฏิบัติในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ไม่เป็นความจริง พาไปดูในเรื่องงบประมาณที่ลงไปในช่วงที่นายกรัฐมนตรีแต่ละท่าน ได้ดำรงตำแหน่งจะเห็นตัวเลขที่ชัดเจนว่าการพัฒนาเกิดขึ้นในช่วงใด ขอความกรุณาอภิปรายอยู่ในกรอบพิจารณา และละเว้นการเอ่ยชื่อคนนอก ทำให้นายชวน สวนกลับไปว่า
“ ไม่มีใครอยู่ในกรอบเท่าผม”
พร้อมกล่าวต่อว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีกลับไปบอกกับนักธุรกิจที่พูดในวันนั้นว่าไม่เป็นความจริง นายชวนไม่เคยพูดว่า เพื่อไทยไม่เคยให้ความสำคัญกับภาคใต้ นายชวนพูดว่า ถูกเลือกปฏิบัติ และขอความเป็นธรรมให้ภาคใต้ โดยชดเชยให้ ย้ำว่าตนไม่ใช่คนพูดพล่อยๆ แบบบ้านน้ำลายรายวัน
อ่านข่าว
บีทีเอส 3 สาย “ผู้สูงอายุ” ขึ้นฟรี 13-15 เม.ย.นี้
เทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เงินสะพัด 4.2 หมื่นล้าน นักท่องเที่ยวแห่ใช้จ่าย