มั่นใจในตัวนายกฯเศรษฐา ว่าเขาจะนำพาประเทศได้ เขามีจุดแข็งคือ มีเครือข่ายในกรุงเทพฯที่ดี และเหมาะสมอย่างยิ่งในช่วงการเมืองที่มีการเปลี่ยนผ่านในช่วงที่มีพรรคการเมืองหลายพรรค เพราะมีประสบการณ์แน่น
“ทักษิณ ชินวัตร” โชว์วิสัยทัศน์ และ ออกปากเอ่ยชม “นายกฯนิด ” เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ในการประชุมพรรคเพื่อไทย หลังเพิ่งเสร็จสิ้นการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ที่ในการอภิปรายที่ยังคงมีคำครหา “นายกฯตัวจริง” ถูกถามในที่ประชุมสภาฯ ถือได้ว่า เป็นการปิดจ็อบบอกเองโดยตรงว่า “นายกฯนิด” เป็น “นายกฯตัวจริง” และ เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเมืองในห้วงเวลานี้อย่างยิ่ง
และในฐานะ “ผู้นำจิตวิญญาณของพรรค” ต้นตำรับ “คิดใหม่ ทำใหม่” “อดีตนายกฯทักษิณ” โชว์วิสัยทัศน์ทางเศรษฐกิจ แบบไม่ทิ้งลาย “ทักษิโณมิกส์” โดยเฉพาะประเด็น “ดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บ.” ที่ถูกทวงถามถึงความชัดเจนบ่อยครั้ง โดยย้ำในที่ประชุมผ่านวิดีทัศน์ อ้างอิงผลงานเดิม ทั้งเรื่องระบบประกันสุขภาพ และการกระจายเงินสู่ชุมชน และเรื่อง “ดิจิทัล วอลเล็ต” จะเป็นเรื่องใหม่อีกเรื่องที่พรรคเพื่อไทยจะต้องปรับตัวและทำให้ได้
แล้ววันนี้เพื่อไทยกำลังจะทำดิจิทัล วอลเล็ต โทษนะ โคตรใหม่เลย ไม่ใช่ใหม่ธรรมดา วันนี้เราไม่อยู่กับเรื่องโบราณแน่นอน เพราะโลกกำลังหมุนไปเปลี่ยนไปพรรคเพื่อไทยก็ต้องปรับตัวเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
“นายกฯนิด” ในฐานะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ปลุกใจ ในที่ประชุมพรรค และหวังทวงคืนชัยชนะในการเลือกตั้งกลับมาให้ได้ ในอีกราสว 3 ปีครึ่ง ข้างหน้าที่จะมีการเลือกตั้งใหม่
“เศรษฐา” ยอมรับว่า การพ่ายแพ้เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ช่างบีบหัวใจเหลือเกิน แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่าการเลือกตั้ง ครั้งล่าสุด ได้ 141 เก้าอี้ จาก 500 เก้าอี้ และพร้อมน้อมรับผิดชอบ ในฐานะสมาชิก พรรคและแคนดิเดตนายกฯ ที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งการไม่ไปดีเบต และเข้าถึงประชาชนไม่มากพอ โดยพร้อมน้อมรับผลแต่ก็ประกาศว่า “ตนเองเป็นคนที่ไม่แพ้ไปตลอดกาล”
ผมบอกทุกคนว่า ผมต้องชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่มีอะไรที่จะมาทำให้ผมไม่สามารถทำได้ จะทุ่มเทกายและใจ ในอีก 3 ปีครึ่งข้างหน้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทุกคนในพรรค เพื่อไปถึงจุดนั้นให้ได้
ไม่เพียงเท่านี้ ที่ “อดีตนายกฯทักษิณ” จะเอ่ยปากชม แต่เลือดเนื้อเชื้อไข และมี DNA ตระกูลชินวัตร ไหลเวียนอยู่เต็มอก และรับสืบทอดตำแหน่งทายาททางการเมืองในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าจะนำพาพรรคพลิกเกมกลับมาชนะเลือกตั้งได้
ไม่ได้มาเชียร์ลูกนะ “อุ๊งอิ๊ง” สามารถนำทีมพลิกเกมได้ เพราะมี DNA ผสมกันระหว่างตนและคุณหญิง เพราะเอาส่วนที่ เข้มแข็ง อดทน เด็ดขาด มาจาก “คุณหญิงพจมาน” และเอาความ Out going ชอบพบปะผู้คน เข้าใจการเมือง จากผม เรียนรู้จากแม่และพ่อ เชื่อว่าเป็นผู้นำที่ดีได้ ผมทำได้ DNA ผมก็ทำได้ และเขามี DNA แม่เขาด้วย ต้องทำได้ดีกว่า
เรียกได้ว่า ปลุกเร้าพลังใจ กันเต็มที่ แต่ก็มีเรื่องมากเบรกอารมณ์ หยุดความฮึกเหิมได้ เมื่อ นโยบาย “ซอพต์พาวเวอร์” เทศกาลสงกรานต์ในการกระตุ้นท่องเที่ยวที่ทำให้ได้แต่ขำแห้ง ๆ โดย เมื่อปรากฎคลิปในสื่อสังคมออนไลน์ ที่ “หนุ่มจีนรายหนึ่ง” บินลัดฟ้า เมื่อถึงกรุงเทพฯควงปืนฉีดน้ำลงมาหน้าห้างดังกลางกรุงฯ หวังจะเล่นน้ำสงกรานต์ให้ชุ่มฉ่ำแต่กลับเจอแต่ความอ้างว้าง เพราะยังไม่มีคนมาเล่นน้ำสงกรานต์
โดยหนุ่มจีนคนนี้ ตั้งคำถามในช่วงท้ายคลิปว่า “ควรเล่นกับใครดี เห็นบอกว่าจะจัดตั้งแต่วันที่ 1 – 21 เม.ย. คิดไว้ซะ อย่างดี แต่ไม่เหมือนช็อตแรกของเทศกาลสาดน้ำเลย หวังว่าประเทศไทยจะมีคำตอบให้ได้”
“พรรคเพื่อไทย” ปลุกไฟนักสู้กันเต็มที่ แต่อีกฟาก “พรรคก้าวไกล” อดีตคนเคยรัก กับมีสถานการณ์ไม่สู้จะดีนัก โดยเฉพาะ “ทิม” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.ก้าวไกล และ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล
ที่เหมือนจะเปิดใจยอมรับสภาพกลางสภาฯ ในระหว่างกล่าวปิดการอภิปรายทั่วไป ม.152 วานนี้ว่า อนาคตทางการเมืองของเขาใกล้จะจบลง หลังศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณาคำร้องของ กกต.ในพิจารณา “ยุบพรรค” ก้าวไกล จากกรณีล้มล้างการปกครอง
ผมไม่เคยเสียใจด้วยว่าในการอภิปรายในครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการเมืองของผม ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องความลับอะไร ทุกคนทราบดีอยู่ว่าชีวิตทางการเมืองของผมตอนนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่ผมพร้อมที่จะเดินจากไปอย่างผู้ชนะ ไม่ได้มีอะไรติดค้างใจต่อไป
ไม่เพียงเท่านี้ พรรคก้าวไกล ยังคงมี “อาฟเตอร์ช็อก” หลังการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อ “กกต.”ได้ส่งศาลรัฐธรรมนูญเพิกถอนสิทธิ และสั่งชดใช้ค่าจัดเลือกตั้งใหม่ “นครชัย ขุนณรงค์” อดีต สส.ระยอง เขต 3 พรรคก้าวไกล กรณีเคยต้องคำพิพากษาคดีลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าตัวย่อมรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์สมัคร สส.แต่ยังลงสมัคร สส.นอกจากจะต้องชดใช้ค่าจัดการเลือกตั้ง และถูกเพิกถอนสิทธิ ก็จะถูกดำเนินคดีอาญาด้วย
ข้ามฝั่งมายัง ความขัดแย้ง 2 บิ๊ก “วงการสีกากี” ระหว่าง”บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และ “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.
“พล.ต.อ.วินัย ทองสอง” ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย บอกว่าจากการเชิญผู้เกี่ยวข้อง มาสอบถามเกือบ 30 ราย โดยผลตรวจสอบเบื้องต้นฝั่งของ “บิ๊กโจ๊ก” ออกแล้ว และหากข้อมูลเสร็จสิ้นทั้งหมดก็จะทยอยส่งให้ “นายกฯนิด” พิจารณา โดยไม่ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงฝั่ง “บิ๊กต่อ” เพราะหากไม่ทัน 60 วัน ก็สามารถขยายระยะเวลาต่อไปได้ แต่ก็ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ดังนั้น แม้ว่าจะเสร็จศึก อภิปรายทั่วไป ม.152 เบรกดีกรีความร้อนแรงทางการเมืองไปอีกสักพัก แต่ก็ยังต้องจับตาในวันที่ 10 เม.ย.ก่อนจะหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า “ดิจิทัล วอลเล็ต” จะมีความคืบหน้าและชัดเจนอย่างไร …โปรดติดตาม