วันนี้ (6 เม.ย.2567) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในวาระครบรอบ 78 ปีก่อตั้งพรรค ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์ เป็นสถาบันการเมืองอยู่คู่ประเทศไทยไปอีกนาน และต้องมีการปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์โลก สิ่งที่เห็นชัดเจน คือ พรรคสดใสขึ้น และเห็นถึงหัวใจของการเปลี่ยนแปลงคือการตั้งศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการสื่อสาร ซึ่งจะเป็นการเปิดโลกให้กับพรรคฯในแง่การสื่อสารถึงประชาชน นำเสนอสิ่งต่าง ๆ สู่สังคม วันนี้โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี จึงต้องขับเคลื่อนให้ทันโลก
นายเฉลิมชัย กล่าวถึงกรณีที่ประกาศในการสัมมนา สส.และกรรมการบริหารพรรค ที่ จ.ชลบุรี เมื่อสัปดาห์ก่อนว่าะมีการระดมศิษย์เก่าของพรรคที่ลาออกกลับบ้าน ว่า มีการพูดคุยกันอยู่ตลอด เพียงแต่รอการประชุมสามัญใหญ่ประจำปีที่จะมีขึ้นในปลายเดือนนี้ ที่จะมีการแก้ไขข้อบังคับพรรค ในเรื่องสัดส่วนการเลือกกรรมการบริหารพรรคให้เกิดความชัดเจน เพื่อเปิดกว้างให้กับคนรุ่นใหม่ และสร้างความมั่นใจให้กับสมาชิกพรรคที่จะย้ายกลับมาว่าวันนี้พรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว และจะก้าวอย่างมั่นคง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งกรรมการบริหารแต่อย่างใด
นายเฉลิมชัย ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคประชาธิปัตย์จะไปร่วมรัฐบาลอยู่ด้วยนั้น ว่า การปรับครม.ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี เพราะอำนาจอยู่ที่ท่าน ส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ประเด็นที่บอกว่ามีการพูดคุย ตนได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่า
ต้องบอกมาให้ชัดเจนว่าใครไปคุยอะไร ที่ไหนอย่างไร หากพูดไม่ชัดเจน ประชาธิปัตย์เสียหาย และประชาธิปัตย์เป็นองค์กร ความเป็นประชาธิปัตย์มันมากกว่าตำแหน่งของท่าน การพูดในสิ่งที่ไม่ชัดเจนไม่ดีกับทุกฝ่าย
เมื่อถามว่ามีสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ไปพูดคุยแต่ไม่ได้บอกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคใช่หรือไม่ นายเฉลิม กล่าวยืนยันว่า ไม่ทราบ แต่ในส่วนของตนไม่มีไม่เคยคุยอะไรกับใคร ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับและหลักเกณฑ์อยู่ ตนพูดตลอดนักการเมืองเวลาคุยกัน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อย่าไปตีความว่ามีการพูดคุย เพราะนี่คือการพูดคุยปกติ ไม่ว่าพรรคอะไรเป็นพรรคการเมืองคุยได้ทั้งหมด พร้อมยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการร่วมรัฐบาล
ส่วนหากจะต้องร่วมรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์มีเงื่อนไขต้องได้กระทรวงใดหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า มีกระบวนการในการพิจารณาดังนั้นตนคิดว่าต้องเข้าสู่กระบวนการก่อนถึงจะพิจารณาได้
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตนมั่นใจ ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์เป็นคนปล่อย ส่วนจะปล่อยเพื่อดิสเครดิตหรือไม่ขอให้ไปคิดดู ประชาธิปัตย์ก้าวข้ามการเมืองน้ำเน่าแบบนี้ไปแล้ว ก่อนย้ำว่า ไม่มีเพราะหากก้าวไม่ข้ามประเทศไทยก็เดินหน้าให้คิดดูว่าจังหวะเวลาที่ปล่อยข่าว แล้วออกมาพูดมีการรับลูกกัน ใครควรจะเป็นคนปล่อย แต่ไม่ใช่พรรคประชาธิปัตย์
อ่านข่าวอื่นๆ
หลายจังหวัดลงพื้นที่ตรวจหัวจ่ายน้ำมัน สร้างความมั่นใจ ปชช.เดินทางช่วงสงกรานต์