วันนี้ (10 เม.ย.2567) นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่หลายครั้งถูกสังคม นักวิชาการวิพากษ์วิจารณ์ ยอมรับว่าการถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่วิจารณ์แล้วทำให้บ้านเมืองสงบ และเป็นที่ยอมรับ บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้หรือไม่ ปัญหาไม่ได้ขึ้นอยู่กับการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะเป็นเรื่องจำเป็น
- ศาล รธน.รับคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ให้ชี้แจงภายใน 15 วัน
- กกต.ยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ถึงศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
ยอมรับคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างเต็มที่ แต่จะต้องเป็นไปโดยสุจริต และไม่เป็นการดูถูกเหยียดหยามองค์กรตุลาการ อย่าใช้คำหยาบคาย เพราะจะมีโทษตามกฎหมาย
อ่านข่าว จับตา “พรรคก้าวใหม่” นับถอยหลังยุบพรรค “ก้าวไกล”
เมื่อถามว่าหลังจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะมีการวินิจฉัยคดีสำคัญทางการเมือง ซึ่งจะมีแรงกระแทกจากสังคมหรือไม่ นายนครินทร์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ อีกมุมหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่าศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่ยอมรับ เพราะข้อขัดแย้งทางการเมืองไม่ได้ลดลง
หากพรรคการเมืองสามารถตกลงเจรจากันได้ในสภา คดีก็จะไม่มาถึงศาลแต่เมื่อสภาตัดสินใจยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แสดงให้เห็นว่า ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นที่พึ่ง และพร้อมรับฟังข้อโต้แย้งของทั้ง 2 ฝ่าย และพิจารณาตามข้อกฎหมายแล้วจึงตัดสินใจ
ยืนยันว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีธงในการตัดสินคดีและการวินิจฉัยคดีก็ชี้ขาดได้เพียงซ้ายหรือขวา หรือชอบหรือไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ
ประธานศาลรัฐธรรมนูญยังกล่าวถึง กรณีกรณีที่พรรคก้าวไกลขอยื่นขยายเวลาการส่งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา คำร้องยุบพรรค เนื่องจากข้อกล่าวหาการล้มล้างการปกครองในวันที่ 17 เม.ย.นี้ ในการประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะนำวาระเข้าพิจารณา ซึ่งอยู่ที่ดุลพินิจของตุลาการ
เบื้องต้นอนุมัติให้ขยายเวลา 15 วัน และอาจจะขยายได้อีกตามเหตุสมควร โดยพร้อมรับฟังผู้ขอจะต้องชี้แจงเหตุผล หรือหากจะยื่นพยานหลักฐาน ก็สทำได้เพื่อให้ที่ประชุมได้พิจารณา
อ่านข่าว “ชัยธวัช” เตรียมแถลงใหญ่สู้คดียุบพรรคก้าวไกล ยัน สส.ไม่ไขว้เขว
กระบวนการยุบก้าวไกลไม่ทัน เม.ย.นี้
ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า กระบวนการวินิจฉัยชี้ขาดคำร้องยุบพรรคก้าวไกล ยังไม่เกิดเกิดขึ้นภายในเดือน เม.ย.นี้ เพราะการขอขยายเวลาจากพรรคก้าวไกลตามกรอบเลยเดือนเม.ย.นี้ ยังไม่ทราบว่าจะมีการไต่สวนหรือไม่
หากทางพรรคก้าวไกลขอมาก็จะรับไว้พิจารณาว่าจะต้องไต่สวนเรื่องอะไร และที่ประชุมจะต้องพิจารณา ซึ่งปกติจะมีการไต่สวนเรื่องหลักฐาน และบุคคลโดยตุลาการเองก็พร้อมที่จะรับฟังความเห็น โดยอาจจะให้ผู้รู้ที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างพยานเข้ามาชี้แจงมาเป็นลายลักษณ์อักษรโดยไม่จำเป็นต้องมาที่ศาลทั้งหมด
ส่วนที่มีการคาดการณ์ฟันธงว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบนั้น นายนครินทร์ ระบุว่า เป็นที่คาดการณ์เช่นนั้น แต่ข้อกฎหมายคนละข้อ การตัดสินครั้งที่ผ่านมาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ม.49
ส่วนการยุบพรรคเป็นไปตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองซึ่งเป็นคนละส่วนกัน และอธิบายเพิ่มเติมว่า คำร้องนี้กับกรณีกรณีการยุบพรรคไทยรักษาชาติเป็นคำร้องคนละอย่างกัน
เราชอบคิดว่าข้อเท็จจริงเหมือนกัน แต่มันไม่เหมือนกัน มันต่างกันมาก แค่ชื่อของตัวแสดงทางการเมือง หรือตัวแสดงในคดีก็ต่างกันอยู่แล้วไม่ใช่ตัวแสดงคนเดียวกัน
ขณะเดียวกัน ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าการประชุมครั้งถัดไปจะพิจารณากรณีที่รัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหน้าที่ ของรัฐสภาเกี่ยวกับการทำประชามติรัฐธรรมนูญว่าจะต้องทำกี่ครั้ง