วันนี้ (12 เม.ย.2567) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ จ.ลำพูน ร่วมงานประเพณีเทศกาลสงกรานต์ “อุโมงค์ จุ่มใจ๋ ปี๋ใหม่เมือง” พร้อมกับได้รดน้ำดำหัวผู้สูงอายุในพื้นที่ด้วย จากนั้นช่วงบ่าย นายพิธา จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามการส่งผู้สมัครลง นายกฯ อบจ.ที่มีการเปิดตัวก่อนหน้านี้ โดยไปไหว้พระ และให้กำลังใจผู้ว่าฯ เชียงใหม่
นายพิธา ยืนยันว่าการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ไม่ได้มาตามนายทักษิณ ชินวัตร แต่มาตามว่าที่ผู้สมัคร อบจ.และพี่น้องประชาชน โดยมาใช้วันสุดท้ายก่อนปิดยาวช่วงสงกรานต์ให้เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังต้องการใช้โอกาสนี้สื่อสารผ่านสื่อมวลชนเพื่อเชิญชวนประชาชนไปเลือกตั้ง อบจ. ให้ความสำคัญเท่ากับการเลือกตั้งระดับชาติ อยากให้มาใช้สิทธิเพราะหากคนมาใช้สิทธิน้อย ก็ไม่ตรงตามหลักประชาธิปไตยและเสียดายงบประมาณในการเลือกตั้งด้วย ที่ครั้งหนึ่งใช้งบประมาณจำนวนมาก
ส่วนการเดินทางมา จ.เชียงใหม่ ในช่วงเดียวกับนายทักษิณถึง 2 ครั้งแล้ว อาจถูกเชื่อมโยงได้ นายพิธา กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นความบังเอิญ เพราะครั้งที่มาในครั้งแรกเพื่อต้องการเรียนรู้การดับไฟป่า และเป็นช่วงที่ จ.เชียงใหม่ ประสบปัญหาสภาวะทางอากาศสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ โดยพรรคก้าวไกลมี สส.จำนวน 7 คนจาก 10 คน และก็ได้รับคะแนนความไว้วางใจเป็นอันดับ 1 ก็ต้องลงมาช่วย สส.ทำงาน เพื่อที่จะนำกลับไปอภิปรายได้อย่างถูกต้อง
นายพิธา ระบุว่า คิดว่านักการเมืองถ้ายึดโยงกับประชาชนก็ขึ้นมาทั้งนั้น เข้าใจว่า รมว.สาธารณสุข รมว.มหาดไทย ก็เพิ่งลงพื้นที่ ซึ่งตนเองในฐานะฝ่ายค้านต้องมาทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาลดังนั้นจึงเป็นปกติอยู่แล้ว ไม่มีนัยทางการเมืองแต่อย่างใด
สำหรับกระแสของพรรคก้าวไกล จะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ ท่ามกลางเจ้าถิ่นอย่างพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่าไม่ได้คิดว่าพรรคไหนเป็นเจ้าถิ่นของใคร ประชาชนไม่ใช่สมบัติ ของนักการเมืองท่านไหน แต่ตอนมีความรับผิดชอบกับเชียงใหม่ เพราะเขาเลือกผมมาถล่มทลาย มาเป็นอันดับ 1 ของเชียงใหม่และจำนวน สส. ที่มีอยู่ และพื้นที่ที่มีไฟป่าเยอะก็เป็นเขตของพวกผมทั้งนั้น เพียงแต่ว่าพอเป็นสส.แล้ว ไม่มีงบประมาณ ทำได้แค่ตรวจสอบรัฐบาลหรือเสนอแนะ ก็ต้องลงพื้นที่เพื่อให้สสทำงานได้ เพราะ 10 ปากว่าไม่เท่าตาเห็น
ขณะที่การเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ขณะนี้เกิดการแข่งขันกันหลายกลุ่มทั้ง พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และกลุ่มทัศนีย์ บูรณประกร นายพิธา กล่าวต่อว่า เป็นสีสันทางการเมือง การแข่งขัน ย่อมเป็นเรื่องดี แต่ตนคิดว่ายังเร็วเกินไป หลังจากนี้ก็จะมีเรื่องนโยบายและไดนามิคทางการเมือง ช่วงนี้ตนขอสื่อสารให้คนมาเลือกตั้งอบจให้เยอะก่อน อยากให้รู้ว่าการเลือกตั้ง อบจ.มีศักดิ์มีศรีไม่แพ้ สส.