คุยกับ ‘มาดามออม’ ศรีโสภา โกฏคำลือ ผู้จัดการทีมเชียงใหม่ ยูไนเต็ด และ สส.เพื่อไทย อีกหนึ่งผู้หญิงเก่งในวงการฟุตบอลไทย ว่าด้วยบทบาทที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ในวันที่วงการฟุตบอลกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย และผู้หญิงกำลังค่อย ๆ มีบทบาทมากขึ้นในทุกแง่มุมของวงการนี้
เรื่อง : THE GLOCAL – ท้องถิ่นเคลื่อนโลก
ภาพ : วิศรุต แสนคำ
ปัจจุบันผู้หญิงกำลังมีบทบาทมากขึ้นในทุกแง่มุมของเกมการแข่งขันฟุตบอล โดยเฉพาะบทบาทในการบริหารทีมฟุตบอลชาย เช่น ‘มาดามออม’ ศรีโสภา โกฏคำลือ ผู้จัดการทีมสโมสรฟุตบอล เชียงใหม่ ยูไนเต็ด ทีมในไทยลีก 2
โลกของลูกหนังที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เร้าใจ ความทุ่มเทและแน่นอนว่าภาพเหล่านี้มักมีแต่ ‘ผู้ชาย’ เป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันวงการฟุตบอลกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ ยุคสมัยที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ‘ผู้หญิง’ กำลังค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้นในทุกแง่มุมของวงการนี้ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเป็นแค่แฟนบอล หนึ่งในบทบาทที่น่าจับตามอง คือการเป็น ‘ผู้บริหารทีมฟุตบอล’ จึงชวนมาทำความรู้จัก ‘มาดามออม’ ในบทบาทผู้จัดการทีมเชียงใหม่ ยูไนเต็ด
ในช่วงฤดูกาล 2564/2565 ของการแข่งขันไทยลีก ‘มาดามออม’ ศรีโสภา โกฏคำลือ ได้รับการแต่งตั้งจากสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ดให้ดำรงตำแหน่งผู้จัดการทีม ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่เธอจะได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเชียงใหม่ต่อมาในปี 2566
มาดามออม จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน จาก Kingston University London มีประสบการณ์ในสายงานบริหาร โดยเป็นอดีตหุ้นส่วนผู้จัดการ ‘กลุ่มบ้านตาลพัฒนา’ ธุรกิจของครอบครัว ก่อนที่จะเข้ามาบริหารทีมเชียงใหม่ ยูไนเต็ด และก้าวสู่แวดวงการเมืองระดับชาติสังกัดพรรคเพื่อไทย
ฟุตบอลกับการเมืองสำหรับประเทศไทยนั้น มีการวิเคราะห์ว่านักการเมืองระดับชาติและระดับท้องถิ่นมองว่าฟุตบอลสามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์และการติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับประชาชน นอกจากนี้การสนับสนุนและเข้าถือครองสโมสรฟุตบอลท้องถิ่นยังช่วยให้นักการเมืองระดับท้องถิ่นสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดีต่อประชาชน ซึ่งย่อมมีผลต่อการเลือกตั้งบ้างไม่มากก็น้อย และในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ‘มาดามออม’ สังกัดพรรคเพื่อไทย ซึ่งลงในเขตเลือกตั้งที่ 10 ประกอบด้วยอำเภออมก๋อย อำเภอดอยเต่า อำเภอฮอด และอำเภอแม่แจ่ม (ยกเว้นตำบลแม่นาจร ตำบลแม่ศึกและตำบลช่างเคิ่ง) สามารถเอาชนะเลือกตั้งได้ โดยเธอเป็น 1 ใน 2 สส.เชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทย ท่ามกลางกระแสฟีเวอร์ของชาวเชียงใหม่ที่มีต่อพรรคก้าวไกล โดยพรรคก้าวไกลได้ สส.เชียงใหม่ไปถึง 7 ที่นั่ง จากจำนวนทั้งหมด 10 ที่นั่ง
มุมมองของมาดามออม ต่อเรื่องฟุตบอลและการเมืองนั้น เธอชี้ว่าสำหรับนักการเมืองการเกี่ยวข้องกับทีมฟุตบอลอาจไม่ใช่ปัจจัยสำคัญเพียงอย่างเดียวในการได้รับเลือกตั้งเป็น สส. ดังที่มาดามออมระบุการทำทีมฟุตบอลไม่สามารถช่วยให้ประสบความสำเร็จในด้านการเมืองได้ 100% เสมอไป
แม้ว่านักการเมืองจะได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อหรือปรากฏตัวในสนามฟุตบอล เนื่องจากพื้นที่เขตเลือกตั้งที่มีความหลากหลาย รวมถึงการที่นักการเมืองอาจไม่ได้ลงทุนสร้างทีมในเขตเลือกตั้งของตน ซึ่งอาจส่งผลต่อการได้รับเลือกตั้งเป็น สส.ในที่สุด
“สำหรับฟุตบอลกับการเมือง คืออาจจะใช่ในการที่คนรับสื่อโซเชียลอาจจะรู้จักออม แต่ไม่ได้หมายความว่ามันจะทำให้ออมเป็น สส. ในพื้นที่เชียงใหม่เขต 10 ได้ เพราะว่าคนส่วนใหญ่ในพื้นที่เชียงใหม่เขต 10 เอง ไม่ได้ออกมาตามเชียร์ทีมเชียงใหม่ยูไนเต็ดที่ส่วนใหญ่แข่งในตัวเมืองเชียงใหม่” มาดามออม กล่าว
ผู้หญิงต้องพิสูจน์ตัวท่ามกลางผู้ชายในวงการฟุตบอล
การที่มาดามออมเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในทีม แม้จะมีข้อจำกัดความรู้ด้านฟุตบอล แต่ก็พยายามเรียนรู้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งต้องพิสูจน์ตัวเองเช่นเดียวกับการที่เธอเป็นผู้หญิงในวงการการเมือง โดยต้องสร้างความเคารพจากนักฟุตบอลและสื่อสารให้พวกเขาเข้าใจถึงวินัยที่ต้องมี แม้ว่าออมเองจะไม่ใช่นักฟุตบอล
แต่ด้วยประสบการณ์การบริหารธุรกิจครอบครัวก็ช่วยให้เธอสามารถปรับตัวได้
“ต้องเข้าใจด้วยว่าออมเป็นผู้หญิงคนเดียวในทีม บอกตรงๆ ออมอาจจะไม่มีข้อมูลฟุตบอลเยอะเท่ากับคนในทีม มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่ออมจะรู้มากกว่าหลายคนอยู่ในวงการฟุตบอลมาเกินกว่า 10 ปี ตั้งแต่สมัยเป็นนักฟุตบอล การที่ออมมาอยู่ในทีมบอล มันทำให้ออมต้องพิสูจน์ตัวเองหลายเรื่อง เหมือนที่ออมเป็นนักการเมืองเหมือนกัน แต่มันคนละแนว ออมต้องเรียนรู้ให้เร็วเกี่ยวกับเรื่องกติกาฟุตบอล ออมต้องคุยกับนักฟุตบอลให้ได้ว่าวินัยของคุณต้องมี ถึงแม้ว่าออมจะไม่ใช่นักฟุตบอลแต่ออมก็ต้องคุยให้เขาฟังออมแล้วเคารพ ซึ่งคำว่าเคารพมันไม่สามารถสั่งให้ใครเคารพได้” มาดามออม กล่าว
นอกจากนี้ประธานสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ‘พิชัย เลิศพงษ์อดิศร’ ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ด้วย ถือเป็นบุคคลสำคัญที่คอยผลักดันให้มาดามออมรับบทบาทการบริหารทีม
“ก่อนที่ออมจะมาเป็นผู้จัดการทีม ออมก็บอกกับท่านประธานสโมสรโดยตรงเลยว่าออมไม่แน่ใจว่าออมจะทำได้ดีหรือเปล่า เพราะว่าพื้นฐานของออมเองไม่ดีเท่าท่าน แต่ท่านเองก็เชื่อว่าออมเป็นคนเรียนรู้เร็วท่านเชื่อว่าออมจะทำได้ เพราะว่ามันก็เป็นการบริหารเหมือนกัน เพราะว่าออมก็ผ่านจากกาบริหารธุรกิจของครอบครัวมาด้วยในระดับหนึ่ง” มาดามออม กล่าว
ต้องเสริมศักยภาพผู้หญิง และผลักดันให้เข้าสู่วงการฟุตบอลมากขึ้น
เป็นที่รู้ๆ กันว่าแวดวงฟุตบอลไทยในมุมมองของการเป็นธุรกิจที่สร้างกำไรนั้นถือเป็นเรื่องยาก ซึ่งมาดามออมมองว่ายังคงมีช่องว่างที่ห่างกันอยู่ของทีมใหญ่และทีมเล็กอยู่ คนที่จะยืนหยัดในวงการนี้นั้นต้องใช้ใจและความรักในกีฬาชนิดนี้เป็นพิเศษ
“คนที่อยู่วงการนี้ต้องรักจริงๆ เพราะส่วนใหญ่เขาไม่ได้อยู่เพราะผลกำไร อันนี้ต้องยอมรับเลย เท่าที่สังเกตทีมใหญ่ๆ ที่อยู่ได้อาจเป็นอีกเรื่อง คือทีมใหญ่มักมีผู้สนับสนุนทีมเป็นธุรกิจที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทีมจึงมีฐานะมั่นคง ส่วนทีมเล็กๆ อย่างเรามันมักจะเป็นการอยู่ด้วยใจ ต้องรักทีมด้วยคือมันต้องใช้ใจเยอะมาก และเป็นสาเหตุที่ทำให้ออมชื่นชมคนที่ยืนหยัดอยู่วงการนี้” มาดามออม กล่าว
สำหรับจุดเด่นของผู้หญิงในการเป็นนักบริหารที่สามาถนำมาใช้และผลักดันแวดวงฟุตบอล มาดามออมมองว่า คือ การมีมุมมองที่แตกต่าง มีทักษะเฉพาะตัว และความคิดสร้างสรรค์ซึ่งสามารถช่วยพัฒนาธุรกิจฟุตบอลได้ในหลายด้าน ผู้หญิงมักมีทักษะการสื่อสารที่ดี สามารถสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนักเตะ สต๊าฟฟ์ และแฟนบอล ผู้หญิงยังมีความเข้าอกเข้าใจผู้อื่นสามารถจัดการกับปัญหาความขัดแย้ง สร้างบรรยากาศที่ดีภายในทีม
นอกจากนี้ผู้หญิงมักใส่ใจรายละเอียด สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจอย่างรอบคอบ วงการฟุตบอลไทยนั้นมีความเปิดกว้างอยู่แล้ว หากผู้หญิงคนอื่นๆ อยากจะเข้ามาทำทีมฟุตบอลก็ควรหมั่นเสริมศักยภาพและไม่หยุดพัฒนาตนเอง
“อยากบอกว่าผลงานกับความสำเร็จมันเป็นแรงจูงใจที่ดีและอยู่กับเราค่อนข้างถาวร ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ สามารถบริหารได้เป็นเรื่องที่น่ายินดีด้วยซ้ำ อยากจะเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่อาจจะอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆ กับออมหรือกำลังที่อยากเข้ามาในวงการฟุตบอล ก็อยากจะให้ทุกคนอย่าหยุดที่จะพัฒนาตัวเองแล้วก็เรียนรู้ไปตลอดเวลา เพราะว่าโลกเรายังมีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะ การที่เราอยู่กับบริหารแบบนี้แล้วจะเปลี่ยนไปอีกแบบหนึ่ง ก็อย่ามองว่ามันเป็นเรื่องแย่ เราจะต้องเปลี่ยนตัวเองมามองว่ามันเป็นแง่ดีที่เราต้องปรับตัวและพัฒนาไปสู่ระดับที่ดีขึ้น” มาดามออม กล่าวทิ้งท้าย