วันนี้ (16 เม.ย. 2567) เวลา 09.50 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ใช้วันหยุดราชการในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เข้าพบ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า เพื่อรดน้ำขอพร
นายกรัฐมนตรีได้ลดกระจกลงเพื่อทักทายสื่อมวลชน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และสวมเสื้อโปโลสีขาว และสวมกางเกงยีน ท่ามกลางกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรีรัฐบาลเศรษฐา 2
ทั้งนี้เมื่อเข้าไปในบ้านพักนายเศรษฐาได้เข้าไปอวยพรรดน้ำดำหัว พร้อมมอบพวงมาลัย ให้แก่นายทักษิณ ในขณะที่นายทักษิณ ที่สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีขาวลายสีฟ้าให้การต้อนรับด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โดยได้รับไหว้และกล่าวขอบคุณนายเศรษฐา ก่อนที่จะได้พูดคุยเป็นการส่วนตัว
ทั้งนี้นอกจากรถยนต์ประจำตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่เข้าไปในบ้านจันทร์ส่องหล้าแล้ว ยังมีรถหรูอีก 2 คนที่เข้าไปด้วย
นายกฯ ลั่นไม่ติดอะไรหลัง “รัฐมนตรี” แห่พบ “ทักษิณ”
นายเศรษฐา กล่าวภายหลังได้เข้าพบ นายทักษิณ ว่า มาตามประเพณีไทย มาสวัสดีปีใหม่และรดน้ำอวยพร และเอาพวงมาลัยมาไหว้ และกราบท่าน ซึ่งนายทักษิณได้อวยพรให้สุขภาพแข็งแรงและเป็นกำลังใจในการบริหารบ้านเมือง
นอกจากนี้ยังกล่าวถึงกระแสการเปรียบเทียบภาพถ่ายนายกรัฐมนตรีที่อยู่กับครอบครัว ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และภาพถ่ายของคณะรัฐมนตรีที่เดินทางเข้าพบกับนายทักษิณ ที่ จ.เชียงใหม่ โดยนายกรัฐมนตรี ย้อนถามกลับสื่อมวลชนว่า “ท่านต้องเป็นคนบอกผมว่าท่านมองอย่างไร ต้องถามมาตรง ๆ ผมจะได้ตอบได้”
ส่วนกรณีภาพที่ออกมาปรากฏว่ารัฐมนตรีส่วนใหญ่เดินทางไปพบกับนายทักษิณ ที่ จ.เชียงใหม่ นั้น นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐมนตรีรู้จักกับนายทักษิณ มานานกว่าตน และนายทักษิณก็เป็นผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม
นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนคงไม่ต้องเอ่ยชื่อทุกคน เพราะรัฐมนตรีทุกคนรู้จัก นายทักษิณมานานกว่าตน และให้การเคารพกันมาอย่างยาวนาน และนายทักษิณเองก็อายุมากกว่ารัฐมนตรีทุกคนอยู่แล้ว จึงเป็นธรรมดาและตนก็ไม่ได้คิดอะไร และเคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ หากพยายามจะบอกว่า นายทักษิณได้รับความนิยมชมชอบมากกว่าตนก็ไม่ติดอะไร และรับได้อยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร
ส่วนวันสงกรานต์ถือเป็นวันครอบครัว และ จ.เชียงใหม่ ก็เป็นจังหวัดที่น่าเที่ยว การรดน้ำดำหัวถือเป็นประเพณีพื้นฐานอยู่แล้ว และนายทักษิณก็เป็นคนที่คนในพรรคให้ความเคารพ
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึง กระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 2 ว่า ยังไม่มี แต่อย่างไรก็ตามมันก็ต้องปรับในวันหนึ่ง ไม่อยากให้รัฐมนตรีที่มีรายชื่อออกมาขณะนี้หวั่นไหว มองว่าควรเร่งทำงานกันดีกว่า เพราะทุก ๆ วันมีค่า แทนที่จะวิ่งเต้นวิ่งเซ่นมาหาท่านนั้นท่านนี้
ส่วนการมาพบนายทักษิณ ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องดังกล่าว เป็นการพูดคุยเกี่ยวกับปัญหาบ้านเมืองธรรมดา ปัญหาเรื่องข้าวโพด เรื่องการเผาป่า และเรื่องของความสะอาดของบ้านเมือง เป็นเรื่องธรรมดา รวมทั้งเรื่องของเมียนมาก็ได้มีการพูดคุยกัน
“เศรษฐา” ลั่นภูมิคุ้มที่ดีที่สุดคือการทำงาน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนพูดมาตลอดช่วงเวลา 1 เดือน ที่มีข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี และบอกตรง ๆ ว่า ภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดคือการทำงาน การทำงานที่ถูกต้อง ดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลและของแต่ละกระทรวงก็มีนโยบายเรือธงอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง
พรรคร่วมรัฐบาลได้มีการส่งสัญญาณมาถึงนายกรัฐมนตรีหรือยัง โดยเฉพาะบางพรรคที่ต้องการปรับ ครม. นายเศรษฐา กล่าวว่า ทุกคนก็ทราบดีอยู่แล้วและเป็นสิทธิของแต่ละคน แต่คงไม่โทรไปถามว่าใครอยากปรับใครบ้าง เช่นพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. ยังมีเก้าอี้เหลือ 1 เก้าอี้ แต่ยังไม่มีการส่งสัญญาณอะไรมาถึงตน และยังไม่มีการพูดคุย
อ่านข่าวอื่น ๆ
ตร.คุมตัว “วัยรุ่นออสซี่” แทงบาทหลวงเจ็บสาหัสคาโบสถ์ขณะมิสซา
“ลอรี-จอร์จ” แฝดศีรษะติดกันที่อายุมากที่สุดเสียชีวิตแล้วในวัย 62 ปี
สิงคโปร์เตรียมผลัดใบ “ลี เซียน ลุง” ส่งไม้ต่อ “ลอว์เรนซ์ หว่อง”