หน้าแรก Thai PBS ป.ป.ช.ชี้ “ศุภชัย” ผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีถือครองที่ดิน จ.นครพนม 220 ไร่

ป.ป.ช.ชี้ “ศุภชัย” ผิดจริยธรรมร้ายแรง คดีถือครองที่ดิน จ.นครพนม 220 ไร่

72
0
ปปชชี้-“ศุภชัย”-ผิดจริยธรรมร้ายแรง-คดีถือครองที่ดิน-จ.นครพนม-220-ไร่

วันนี้ (25 เมษายน 2567) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญเกี่ยวกับกรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีกล่าวหา นายศุภชัย โพธิ์สุ รมช.เกษตรฯ และ สส.นครพนม ยึดถือครอบครองและเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน น.ส.2 หรือ ใบจอง ในโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่ แปลงป่าดงพะทาย ท้องที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม โดยการซื้อที่ดินและไม่มีหลักฐานใบจองที่ดิน จำนวน 40 แปลง เนื้อที่ 220 ไร่

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า นายศุภชัย โพธิ์สุ ได้ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.นครพนม เมื่อวันที่ 22 ม.ค.2551 กรณีเข้ารับตำแหน่งรมช.เกษตรฯ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.2552 และกรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.นครพนม เมื่อวันที่ 25 พ.ค.2562 โดยแจ้งว่าครอบครองที่ดินประเภทใบจอง (น.ส. 2) ในท้องที่ ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จำนวน 40 แปลง เนื้อที่รวม 220 ไร่ จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อปี พ.ศ.2532 – พ.ศ. 2534

อ่านข่าว ป.ป.ช.ฟัน “สุชาติ ภิญโญ” ถือครองที่ดินวังน้ำเขียวมิชอบ 

นายศุภชัย โพธิ์สุ ซึ่งเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการจัดสรรที่ดินและเป็นผู้ไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินและใบจองในโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่แปลงป่าดงพะทายได้ซื้อที่ดินโดยทำสัญญาซื้อขายและสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินกับประชาชนผู้ได้รับจัดสรรที่ดินและได้รับใบจอง (น.ส. 2) ให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินชั่วคราวในโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่แปลงป่าดงพะทาย ท้องที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จำนวน 40 แปลง เนื้อที่รวม 220 ไร่ ทั้งที่ที่ดินดังกล่าวไม่สามารถโอนหรือซื้อขายเปลี่ยนมือได้ เว้นแต่ตกทอดโดยมรดก

มติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด

มติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด “ศุภชัย” อดีต รองประธานสภาฯณ ถือครองที่ดิน จ.นครพนม 220 ไร่ ครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่คำนึงประโยชน์ส่วนรวม กีดกันผู้ไม่มีที่ดินเป็นการผิดจริยธรรมร้ายแรง

หลังจากที่มีการส่งมอบใบจองและการครอบครองที่ดินให้นายศุภชัย โพธิ์สุ แล้ว นายศุภชัย โพธิ์สุ ได้เข้าทำประโยชน์โดยปลูกต้นยางพาราเต็มพื้นที่ต่อเนื่องเรื่อยมา แม้ว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมจะมีคำสั่งให้ผู้ที่ได้รับการจัดที่ดินและใบจองเดิมสิ้นสิทธิในที่ดินและออกจากที่ดินและจำหน่ายสิทธิใบจอง ตามมาตรา 32 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินแล้ว เมื่อวันที่ 16 ต.ค.2556 วันที่ 5 ก.ย. 2565 และวันที่ 22 ก.ย.2565 (ภายหลังมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ

อ่านข่าว จับกระแสการเมือง: 21 ก.ย.2566 5 สาวถูกตัดสิทธิ ประหารชีวิตทางการเมือง 

รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินและหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ใช้บังคับการที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ซึ่งดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ และ สส.นครพนม และยังดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 มีหนังสือ เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2566 และวันที่ 12 ก.ค.2566 ขอสละสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ในที่ดินแปลงที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้มีคำสั่งจำหน่ายใบจองที่ดินดังกล่าว จึงไม่มีผลให้การยึดถือ ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินประเภทใบจอง (น.ส. 2) ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐในโครงการจัดที่ดินผืนใหญ่แปลงป่าดงพะทาย โดยการซื้อที่ดินและไม่มีหลักฐานใบจองที่ดิน (น.ส. 2) รวมทั้งไม่มีคุณสมบัติในการที่จะได้ที่ดินตามระเบียบว่าด้วยการจัดที่ดินเพื่อประชาชน ลงวันที่ 24 ส.ค.2498 ซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมายของนายศุภชัย โพธิ์สุ ไม่เป็นความผิดแต่อย่างใด

มติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ และ อดีต สส.นครพนม ถือครองที่ดิน จ.นครพนม 220 ไร่ ครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่คำนึงประโยชน์ส่วนรวม กีดกันผู้ไม่มีที่ดินเป็นการผิดจริยธรรมร้ายแรง

มติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ศุภชัย โพธิ์สุ อดีตรองประธานสภาฯ และ อดีต สส.นครพนม ถือครองที่ดิน จ.นครพนม 220 ไร่ ครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่คำนึงประโยชน์ส่วนรวม กีดกันผู้ไม่มีที่ดินเป็นการผิดจริยธรรมร้ายแรง

คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาแล้ว มีมติดังนี้ การกระทำของนายศุภชัย โพธิ์สุ เป็นการครอบครองที่ดินของรัฐเพื่อประโยชน์ของตนเองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม และส่งผลกระทบต่อการบริหารจัดการทรัพยากรที่ดินและป่าไม้ของรัฐ 

ทั้ง ยังเป็นการกีดกันผู้ที่ไม่มีที่ดินเป็นของตนเองหรือมีอยู่แล้วแต่เป็นจำนวนน้อยไม่พอเลี้ยงชีพ ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดำรงตำแหน่ง รมช.เกษตรฯ และ สส.อันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการ

อ่านข่าว ศาลฎีกา ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต “ธณิกานต์” เซ่นเสียบบัตรแทน

ศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ. 2561 ข้อ 7 และข้อ 17 ประกอบข้อ 3 และข้อ 27 และข้อบังคับว่าด้วยประมวลจริยธรรมของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและกรรมาธิการ พ.ศ. 2563 ข้อ 9 และข้อ 10 ให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ต่อไป

อ่านข่าว

เปิดคำพิพากษาศาลฎีกา “พรรณิการ์” ตัดสิทธิการเมืองตลอดชีวิต 

“ปารีณา” รอดคดียื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ปกปิดบัญชีพระเครื่อง 

จับกระแสการเมือง: วันที่ 31 ต.ค.2566 “สิระ-ปารีณา” ทิ้งการเมือง ควงสากตำส้มตำ

 

 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่