‘อรรถพล ใหญ่สว่าง’ อดีตอัยการสูงสุดเป็น ปธ.บวงสรวง เปลี่ยนเครื่องทรงองค์พระแม่ธรณีวัดชมภูเวก โบราณสถานสำคัญ
วันที่ 25 เม.ย. ที่วัดชมภูเวก สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี,ศ.พิเศษ อรรถพล ใหญ่สว่าง อดีตอัยการสูงสุด เเละนายกสภามหาวิทยาลัยพะเยา เป็นประธานในพิธีบวงสรวงและเปลี่ยนเครื่องทรงองค์พระแม่ธรณี โดยมี พระสมุห์สุทธิพงษ์ศิริวัฒโน เจ้าอาวาสวัดชมภูเวก พล.ท.พงษ์ศักดิ์ พานิชเกรียงไกร พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ พัชรนิตยธรรม นายวีรพงศ์ เกษดำรงพาณิชย์ และคณะ ร่วมพิธี เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา
ศ.พิเศษ อรรถพล กล่าวว่าวัดชมภูเวก เป็น วัดมอญ สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย มีเนื้อที่วัด 24ไร่ 2 งานโดยชาวมอญเป็นผู้สร้าง ชาวมอญเป็นชนชาติที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า มีศรัทธาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อไปตั้งบ้านเรือนที่ใดก็จะต้องสร้างวัดขึ้นเป็นสถานที่เคารพสักการะเป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจ ปัจจุบันมีพระสมุห์สุทธิพงษ์ สิริวฑฺฒโน เป็นเจ้าอาวาสคนที่13 และ วัดชมภูเวกเป็นวัดที่กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานเมื่อปี 2505 ปัจจุบันมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่ 22 รูป เเละมีพระแม่ธรณีที่สวยที่สุดในโลก
และรอยพระพุทธบาทจำลองที่จำลองมาจากสระบุรีเป็นพระพุทธบาท สมัยสุโฃทัย ที่ตั้งอยู่ด้านหลังอุโบสถหลังเก่า สร้างเพื่อประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง ลักษณะการสร้างตามแบบศิลปมอญ ขนาดกว้าง 5 เมตร ยาว 8 เมตร หน้าบันเป็นลวดลายปูนปั้นแบบพรรณพฤกษาใบไม้ดอกไม้ ประดับด้วยถ้วยลายครามและเบญจรงค์ ยอดหน้าบันติดลายปูนปั้นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนแทนช่อฟ้า ภายในวิหารสร้างเป็นมณฑปไม้ครอบพระพุทธบาท ไว้อีกชั้นหนึ่ง ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบเดียวกับอุโบสถ ขณะนี้ภาพต่างๆได้ชำรุดลบเลือนไปมากประกอบกับตัววิหารก็ชำรุดทรุดโทรมมาก จึงย้ายมณฑปไม้ไปไว้ที่มณฑปสร้างใหม่ ซึ่งการก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ
ในส่วนลักษณะเฉพาะของโบสถ์หรือวิหารขนาดย่อมที่ก่อเป็นผนังทึบ ไม่มีหน้าต่าง และเจาะช่องประตูด้านหน้าเป็นทางเข้าออกเพียงด้านเดียว นิยมสร้างในสมัยอยุธยา เพื่อประสงค์ให้พระสงฆ์ทำสังฆกรรมอย่างมีสมาธิ หรือให้เกิดความขลังในการประกอบพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะพิธีปลุกเสกพระเครื่องหรือวัตถุมงคล