หน้าแรก Thai PBS กมธ.อุตสาหกรรม ตั้งข้อสงสัย “ไฟไหม้โรงงาน” ซ้ำซาก

กมธ.อุตสาหกรรม ตั้งข้อสงสัย “ไฟไหม้โรงงาน” ซ้ำซาก

87
0
กมธ.อุตสาหกรรม-ตั้งข้อสงสัย-“ไฟไหม้โรงงาน”-ซ้ำซาก

วันนี้ (2 พ.ค.2567) กรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายอัครเดช วงศ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ แถลงผลการประชุม เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีวินโพรเสส อ.บ้านค่าย จ.ระยอง

นายอัครเดช กล่าวว่า กมธ.อุตสาหกรรม มีความเป็นห่วงสถานการณ์ไฟไหม้โรงงานเก็บสารเคมีที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง จึงได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม ทั้งกรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายอำเภอบ้านค่าย จ.ระยอง

ซึ่งเพลิงไหม้ที่โรงงานวินโพรเสส 3-5 วัน สร้างมลภาวะในพื้นที่ชุมชนรอบโรงงานอย่างหนัก โดยได้รับรายงานว่า มีผู้ป่วยลงทะเบียนกว่า 600 ราย ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ จึงเป็นการตอกย้ำว่า มาจากไฟไหม้โรงงานวินโพรเสส

“นายอำเภอบ้านค่ายรายงานว่า ควบคุมเพลิงได้แล้ว 100 % แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือยังมีกลุ่มควันเกิดขึ้นบางส่วนที่อาคาร 4 ส่วนอาคาร 3 มี Aluminum dose 5 พันตัน เป็นลาวาที่พร้อมจะปะทุ ตอนนี้อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังและเข้าไปดูแลเยียวยาพี่น้องประชาชน และฟื้นฟูสภาพแวดล้อมดังกล่าว” นายอัครเดช กล่าว

นายอัครเดช กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ประชาชนที่อยู่โดยรอบพื้นที่ เพราะได้รับก๊าซพิษ แล้ว เมื่อวานนี้ไปตรวจวัดก็พบว่า ค่าของสารหลายตัวเกินมาตรฐาน ดังนั้น สภาพอากาศรอบโรงงานในช่วงนี้เป็นช่วงที่ยังไม่ปกติ กมธ.อุตสาหกรรม จึงได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง อย่าให้มีเหตุเพลิงไหม้ซ้ำซ้อนอีก

ส่วนจะมีการสอบถามความเชื่อมโยง ระหว่างโรงงานที่ระยอง และโรงงานอยุธยาหรือไม่ นายอัครเดช กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเพลิงไหม้ที่ อ.ภาชี ตอนนั้นยังไม่ทราบ เพราะเหตุเกิดในช่วงเย็น แต่ได้รับทราบว่า โรงงานทั้ง 2 แห่งเชื่อมโยงกัน เนื่องจาก กมธ. เคยลงพื้นที่ไปศึกษาหน้างานที่ อ.ภาชี มาแล้วเมื่อต้นปี เพราะได้รับการร้องเรียนจาก สส.ในพื้นที่

ก็พบว่า มีการเก็บสารอันตรายเป็นจำนวนมาก และเก็บไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมโรงงานฯ จึงได้สั่งปิด ต่อมาได้รับทราบว่า มีเหตุเพลิงไหม้ โดยสาเหตุคล้ายกับการวางเพลิง

หลังจากนั้น กมธ.ก็ไม่ได้ติดตามต่อ จนมาทราบว่า มีไฟไหม้เมื่อวานหลังจากประชุมเสร็จ ดังนั้น วันที่ 15 พ.ค. จะออกหนังสือเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุม เพราะกรณีนี้ถือว่าไม่ปกติ

นายอัครเดช กล่าวต่อว่า เราทราบว่าโรงงานทั้ง 2 แห่งมีความเชื่อมโยงกัน แต่เชื่อมโยงลักษณะไหนต้องรอวันที่ 15 พ.ค. จะว่าดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดอย่างไรได้บ้าง ไม่เช่นนั้นจะเกิดพฤติกรรมการเลียนแบบ

การทิ้งกากอุตสาหกรรมหรือสารเคมี ตามกฎหมายจะไม่มีโทษปรับ ดังนั้นทำให้ผู้ประกอบการไม่เกรงกลัว กมธ.อุตสาหกรรม จึงได้ยื่นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขให้โรงงานอุตสาหกรรม เพิ่มความผิดอาญา ให้จำคุก 5 ปี กลับจาก 2 แสนบาทเป็น 1 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการเกรงกลัวกฎหมาย

นายอัครเดชกล่าวว่า เป็นข้อสังเกตได้ว่า เหตุไฟไหม้เป็นการเลี่ยงกฎหมายใหม่หรือไม่ กมธ.อุตสาหกรรมจึงมีความเป็นห่วง เราอยากให้หน่วยงานที่กำกับดูแลเข้าไปตรวจสอบโรงงานที่มีกากของเสียทุกแห่ง เพราะหากมีการวางเพลิงจริง จะเกิดการเลียนแบบ

ส่วนใครต้องรับผิดชอบนั้น นายอัครเดช กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ที่มีหลายกระทรวงเข้าไปดูแล ไม่ใช่เรื่องกระทรวงอุตสาหกรรม เพียงกระทรวงเดียวแล้ว แต่ประกอบไปด้วยผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกระทรวงสาธารณสุข รวมไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

“ผมก็บอกท่านนายกรัฐมนตรีไปแล้วว่า มันเป็นวาระแห่งชาติ ที่ต้องเข้ามาดูเรื่องนี้อย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหาแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า” นายอัครเดช กล่าว

ส่วนกรณีที่นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลาออกจากตำแหน่ง ได้มีการสอบถามสาเหตุหรือไม่ นายอัครเดชระบุว่า เมื่อวานนี้มีการสั่งเรียกเอกสาร เราขอท่านอธิบดีให้ดำเนินการ

ท้ายประชุม อธิบดีก็แจ้งว่า ครั้งหน้าไม่สามารถมาให้เอกสารได้ เพราะได้ลาออกแล้ว ตนและที่ประชุมก็ตกใจ เพราะตลอดเวลาที่ประชุมก็ไม่มีวี่แววว่า จะลาออก ตนก็ได้ถามปลัดกระทรวงฯ ว่า ได้ยับยั้งหรือไม่ แต่ปลัดกระทรวงฯ ก็มีท่าทีตกใจ บอกว่ายังไม่ทราบ ยอมรับว่าเสียดาย ไม่ได้ช่วยแก้ต่างให้ เพราะอธิบดีก็เป็นลูกหม้อ ทำงานดี

ตนได้ถามว่าจะไม่ทบทวนหรือ แต่อธิบดีก็ไม่เปลี่ยนใจ ต้องยอมรับว่าปัญหาเหล่านี้หมักหมมมานานแล้ว ทั้งเรื่องข้อกฎหมายและงบประมาณ เพราะฉะนั้น การจะแก้ปัญหานี้ได้ ไม่ใช่แค่อธิบดีกรมเดียว

“เมื่อวานนี้ท่านก็ไม่ได้บอกเหตุผลอะไรนะครับ แต่ตอนนี้เราก็พอทราบว่า เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเยอะ ภาระแรงกดดันความคาดหวังจากพี่น้องประชาชนและสังคมไปที่ตัวท่านอาจจะมากเป็นพิเศษในช่วงนี้ อาจจะมีแรงกดดันหลายเรื่อง ก็เคารพการตัดสินใจของท่าน แต่ก็เสียดายในฐานะที่ท่านเป็นข้าราชการที่ทุ่มเททำงานตลอดระยะเวลาที่ได้สัมผัส ผมเชื่อว่าแรงกดดันมีอยู่แล้ว แต่ว่าแรงกดดันจากไหน ผมไม่ทราบ” นายอัครเดช กล่าว

อ่านข่าว : ปทส.จ่อออกหมายจับ “ผู้เช่าโกดังภาชี” พบพิรุธไฟไหม้สารเคมีซ้ำ

ด่วน อธิบดีกรมโรงงานฯ ประกาศลาออก กลางวงประชุม กมธ.อุตสาหกรรม

เพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมีใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่