วันนี้ (3 พ.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย ร่วมกับศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน และกองทัพธรรม ยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติของ นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าก็ต้องติดตามกันต่อไป ตนคิดว่าเรามีการตรวจสอบคุณสมบัติว่าที่รัฐมนตรีทุกคนอยู่แล้ว แต่ผ่านกฤษฎีกาแล้ว
เมื่อถามต่อว่าเรื่องการตรวจสอบจริยธรรม สุดท้ายแล้วอาจถึงขั้นส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย นายกรัฐมนตรี บอกตนไม่ทราบเรื่องขั้นตอนส่วนนี้ แต่หากมีการส่งก็คงต้องส่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าจากกรณีของนายพิชิต ทำให้มีการตั้งคำถามตามมาถึงเรื่องจริยธรรมของคนที่จะเป็นรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี มองว่า ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ แต่ต้องให้โอกาสคนที่ถูกพาดพิงด้วยเหมือนกัน ก่อนยืนยันทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย
ส่วนกังวลหรือไม่ว่าจะกระทบต่อนายกรัฐมนตรีเองในฐานะผู้เสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่าไม่กังวล
เมื่อถามว่าอาจจะมีการยื่นร้องต่อ ป.ป.ช.ด้วยนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
อ่านข่าว : “เศรษฐา” เตรียมนำ ครม.ใหม่ เข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ 3 พ.ค.นี้
เตรียมจัดรายการทอล์ก 1 ชม.เต็ม โชว์ผลงานรัฐบาล
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเตรียมจัดรายการนายกฯ พบประชาชน ผ่านหน้าจอโทรทัศน์ช่อง 11 และสถานีวิทยุ อสมท. ว่า ตนไม่แน่ใจว่าจะใช้ชื่อรายการว่า รายการอะไร แต่อยากสื่อสารให้พี่น้องประชาชนแบบให้สม่ำเสมอ ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะเป็นทุกสัปดาห์ หรือเป็นรายเดือน ซึ่งช่วงกลางสัปดาห์หน้าจะเป็นครั้งแรก ซึ่งรูปแบบรายการก็อาจจะมีการปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้เบื่อ ซึ่งอาจจะมีการไปถ่ายนอกสถานที่บ้าง เพราะเรามีการลงพื้นที่ด้วย ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
ส่วนจะเป็นรายการสด หรือบันทึกเทปนั้น ต้องรอพิจารณา ซึ่งทีมงานจะเป็นผู้ไปดูอีกครั้งหนึ่ง ก่อนพิจารณาอีกครั้ง แต่รูปแบบจะเป็นการพูดคุยแบบเป็นกันเอง
ขณะที่ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เบื้องต้นจะเป็นการจัดรายการ 1 ชั่วโมง ในรูปแบบการเล่าเรื่อง หาประเด็นมาพูดคุย ซึ่งจะได้ร้อยเรื่องเรื่องราวเชื่อมโยงในแต่ละประเด็นที่เป็นผลงานรัฐบาล ว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว และในอนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีอยากจะให้มีพิธีกรคู่ และจะมีการสลับพิธีกรไปเรื่อยๆ ในทุกเทป เพื่อไม่ให้ประชาชนเบื่อ ซึ่งจะเป็นพิธีกรชื่อดังจากหลายสถานีโทรทัศน์ร่วมรายการ ส่วนรายละเอียดรายการจะมีการพิจารณากันอีกครั้งหนึ่ง
สั่งการ สตช. ช่วยดูคดีไฟไหม้โรงงานสารเคมี
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ลาออกจากตำแหน่ง ว่า รับทราบจากข่าว และมีการเชิญนางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรมมาพูดคุยในการขับเคลื่อนงานแล้ว แต่ไม่ได้พูดคุยกับอธิบดีฯ หรือปลัดกระทรวงการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมที่จะไปพูดคุย
นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ไม่แน่ใจว่าการกดดันให้ลาออกนั้นหมายความว่าอย่างไร แต่หากเป็นเรื่องการตามงาน สั่งงาน หรือการให้ความสำคัญกับปัญหาที่เกิดขึ้น หากเป็นคนนั้นอาจจะกดดัน แต่ส่วนตัวมองอีกแบบที่เน้นเรื่องเนื้องานเป็นหลัก
ส่วนที่มีการเชื่อมโยงถึงวันที่นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัดระยอง นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ก็มีความชัดเจนเรื่องการสั่งงาน และมองว่ากรณีพบปัญหาอุตสาหกรรม และโรงงานสารเคมีหลายที่ไม่เกี่ยวกับการลาออก หรือไม่ลาออก แต่เป็นเรื่องของเนื้องานที่ต้องติดตามรากฐานของปัญหา และมีการเชื่อมโยงของปัญหาที่เกิดขึ้นหรือไม่ โดยวานนี้ได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจเข้าไปดูแล หลังจากที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมสงสัยข้อสังเกต และสงสัยอาจเป็นการวางเพลิง เพื่อปกปิดเรื่องสารเคมี ซึ่งเรื่องนี้ได้ต่อสายกับหน่วยงานความมั่นคงแล้ว
ส่วนจะมีมาตรการอย่างไรที่จะทำให้ผู้ประกอบการตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่าพูดไปไกลว่าผู้ประกอบการไม่ตระหนักถึงเรื่องนี้ เพราะยังมีหลายบริษัทที่ให้ความสำคัญ ซึ่งก็ต้องดูความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นกลุ่มบุคคลเดียวกันหรือไม่ และยืนยันว่า จากการลงพื้นที่ ของรัฐบาลที่มีการสั่งงาน ติดตามงาน ไม่ว่าจากตัวรัฐมนตรีอุตสาหกรรมเอง ที่ได้ให้ความสำคัญ และลงพื้นที่มาโดยตลอด และวันนี้ก็ได้เข้ามาทำเนียบรัฐบาลเพื่อขอความช่วยเหลือในเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง
อ่านข่าว :
จับกระแสการเมือง 2 พ.ค.67 : “ชลน่าน” จากใจคนช้ำ “เศรษฐา” นำทัพ รมต.ป้ายแดง-คนเดิมเริ่มงาน
ด่วน อธิบดีกรมโรงงานฯ ประกาศลาออก กลางวงประชุม กมธ.อุตสาหกรรม