‘สส.หนองบัวลำภู เพื่อไทย’ เชื่อมั่นรัฐบาลเศรษฐา เอาจริงปราบยาเสพติด เปิด 4 มาตรการ ป้องกัน – ปราบปราม – ยึดทรัพย์ -รักษา คืนลูกหลานสู่ครอบครัว
3 พ.ค. 2567 ในงาน ‘10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10’ ของพรรคเพื่อไทย งานแสดงวิสัยทัศน์ และความคืบหน้าในนโยบายต่างๆ พร้อมประกาศเป้าหมายการทำงานในอนาคต นายณพล เชยคำแหง สส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย กล่าวย้อนถึงเหตุโศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. ด้วยความเชื่อมั่นว่า ‘พรรคเพื่อไทย’ คือพรรคเดียวที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้สำเร็จ เพราะในสมัยรัฐบาลไทยรักไทย เคยประกาศชัยชนะเหนือยาเสพติดสำเร็จ ปัจจุบันรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ประกาศวาระแห่งชาติปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด ภายใต้ ‘4 มาตรการ’ สำคัญ ได้แก่
1.มาตรการป้องกันปัญหายาเสพติด ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้เยาวชนรู้เท่าทันพิษภัยยาเสพติด ทั้งในโรงเรียน ชุมชนและท้องถิ่น ปัจจุบันมีนักเรียน 220,000 คนจาก 8,000 กว่าโรงเรียนผ่านการเรียนการสอนหลักสูตร D.A.R.E ในภาคการศึกษาที่ผ่านมา และมีการ รณรงค์สร้างการมีส่วนร่วมในหมู่เยาวชน 20,000 หมู่บ้านทั่วประเทศ
2.มาตรการปราบปรามขั้นเด็ดขาด นับแต่เดือนตุลาคม 2566 ถึง 31 มีนาคม 2567 ได้จับกุมผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติดได้มากกว่า 52,000 คดี ตรวจยึดยาเสพติดได้เพิ่มขึ้นจำนวนมาก ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีนและเคตามีน โดยในส่วนของยาบ้า จับกุมผู้ครอบครองไปแล้วกว่า 25,000 คดี จับผู้จำหน่าย 25,000 คดี ผู้สมคบคิดและผู้สนับสนุน ถูกจับแล้วมากกว่า 700 คดี พร้อมดำเนินมาตรการสกัดกั้นพื้นที่ เพื่อปราบปรามสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ในทุกพื้นที่ และด้วยมาตรการ Seal border ซึ่งทำงานร่วมกันทั้งตำรวจฝ่ายปราบปรามยาเสพติด และฝ่ายความมั่นคง สามารถตรวจจับสกัดกั้นการนำเข้าและจับกุมยาบ้าได้มากถึง 340 ล้านเม็ด
‘คนติดยา’ เป็น ‘ผู้ป่วย’ เดินอยู่ในชุมชน ในทางการแพทย์สามารถรักษาที่บ้านได้ โดยการกินยา แต่ชุมชนยังมีความหวาดระแวง ซึ่งรัฐบาลจะดึงคนกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบบำบัดอย่างเป็นทางการ ‘ยกระดับการเฝ้าระวัง’ ผลักดันการสร้างเครือข่ายชุมชน ให้เป็นผู้เฝ้าระวังเป็นหูเป็นตา หากพบผู้เสพ ส่งเข้าศูนย์บำบัดทันที
3.มาตรการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติด ถือเป็นมาตรการสำคัญในการปราบปรามยาเสพติดขั้นเด็ดขาด โดย 1 เดือนหลังจัดตั้งรัฐบาล จนถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 4,600 ล้านบาท และอีก 2,400 ล้านบาท ที่ ปปส. ยึดมาตรวจสอบ
4.การบำบัดรักษาและให้โอกาส ยึดหลัก ผู้เสพ คือ ผู้ป่วย สนับสนุนผู้เสพให้เข้ารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง คืนทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพกลับสู่สังคม และพัฒนาความสามารถให้เข้าสู่ภาคแรงงาน โดยปัจจุบันมีโครงการเร่งด่วน ‘ชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน’ ทำแล้วใน 1,200 ชุมชนทั่วประเทศ มีผู้เสพเข้ารับการบำบัดแล้วมากกว่า 112,000 ราย
นายณพล ยืนยันว่า สส.พรรคเพื่อไทย ทุกคนช่วยกันจับตาอย่างใกล้ชิด รวมถึงในโลกออนไลน์ ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางหนึ่งของการระบาด แฮชแทคในโลกออนไลน์ต่างๆ มีเส้นทางอย่างไร เชื่อมโยงถึงใคร อยู่ในการเฝ้าระวังทั้งหมด พร้อมนำส่งข้อมูลเหล่านี้ให้กับทาง ป.ป.ส. และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อปิดกั้นและปราบปรามอย่างเด็ดขาด
“ ไม่มีหรอกครับ.. ที่พูดกันว่า ครอบครองยาบ้า 5 เม็ด จะไม่มีความผิด หากคุณมีพฤติกรรมจำหน่าย เป็นผู้ค้า แค่เม็ดเดียวก็มีความผิดและมีรับโทษตามกฎหมาย แต่หากเป็นคนเสพ คุณต้องไปบำบัด หากไม่ถึง 5 เม็ด ถ้ามากกว่านั้น คุกเท่านั้นครับ ไม่มีการละเว้น ผมในฐานะคนหนองบัวลำภู เชื่อว่าพี่น้องชาวหนองบัวลำภูและคนไทย เชื่อมั่นรัฐบาลที่นำโดยพรรคเพื่อไทยว่าจะเป็นผู้นำการขจัดยาเสพติดให้สิ้นซากไปจากแผ่นดินไทย” นายณพล กล่าว