วันนี้ (7 พ.ค.2567) นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า ในเรื่องการทำงานขอพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศก่อน เพื่อให้ทุกอย่างมันเดินไปในทิศทางเดียวกัน สิ่งที่ต้องการอย่างเดียวคือ การรับโจทย์จากนายกรัฐมนตรีมาว่าอยากเห็นนโยบายการต่างประเทศและประชาชนในปัจจุบันเป็นอย่างไร
เมื่อถามถึงกรณีสื่อโซเชียลระบุว่านายทักษิณ ชินวัตร ได้ไปพูดคุยกับตัวแทนชนกลุ่มน้อยหลังเกิดปัญหาในเมียนมา ได้มีการตรวจสอบแล้วหรือยัง นายมาริษ กล่าวว่า ตนเองก็ได้ทราบข่าวมาเช่นกัน และต้องยอมรับว่านายทักษิณเป็นคนที่กว้างขวางและมีเพื่อนฝูงมาก ซึ่งทางเมียนมาก็คงเห็นว่านายทักษิณจะสามารถช่วยได้ คงเป็นเรื่องที่ทางเมียนมาคุยกับนายทักษิณ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาลไทย อย่างที่ตนบอกไปว่าเพิ่งจะทราบเรื่องดังกล่าว
อ่านข่าว : ครม.ใหม่เศรษฐา1/1 เข้าทำเนียบวันแรก-ถ่ายภาพหมู่
นายมาริษ ยังกล่าวว่าจุดยืนของรัฐบาลไทยคือ ต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในเมียนมา ยอมรับว่าเป็นเช่นนั้น และที่ผ่านมาไทยเองพยายามที่จะเป็นตัวกลางในการเจรจา อีกทั้งไทยก็ดำเนินการตามกรอบของอาเซียนด้วย ซึ่งต้องเป็นไปตามหลักการที่ควรจะเป็น บางอย่างกำลังดำเนินการอยู่ ขอยังไม่เปิดเผย แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ไทยต้องการเห็นความสมานฉันท์ปรองดองเกิดขึ้นในเมียนมา
เพราะถ้าปล่อยให้เป็นไปอยู่อย่างนี้ประเทศไทยก็ลำบาก ในฐานะที่เรามีพรมแดนเชื่อมติดต่อกันกับเมียนมายาวมาก อะไรที่เกิดขึ้นก็จะกระทบกับไทย ฉะนั้น ใครที่ช่วยอะไรได้ก็ควรจะช่วย และไม่จำเป็นต้องทำอย่างเป็นทางการ อีกทั้งทางการเมียนมา รัฐบาล ชนกลุ่มน้อย ขอให้นายทักษิณมาช่วย ก็เป็นเรื่องของเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวทางที่นายทักษิณไปช่วย ตรงกับแนวทางกับกระทรวงการต่างประเทศหรือไม่ นายมาริษ กล่าวว่า ยังไม่เห็น เพราะเพิ่งได้ยินจากข่าว จึงไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร และอย่างที่บอกว่าการดำเนินการตรงนี้ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับรัฐบาล เป็นเรื่องที่ทางการเมียนมาไปว่ากันเอง ถือเป็นสิทธิของเขาที่จะไปปรึกษาหารือกับใคร ย้ำว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ในส่วนของรัฐบาลก็ดำเนินการในส่วนของเรา ร่วมกับอาเซียน ขณะเดียวกัน ในการช่วยเหลือสิทธิมนุษยธรรมไทยก็ดำเนินการต่อไปภายใต้กรอบของอาเซียน
ทั้งนี้ นายมาริษ กล่าวว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย ขอไปพูดคุยกับทางกระทรวงให้เกิดความเหมาะสมก่อนว่ารายละเอียดควรเป็นอย่างไร และยืนยันว่ายังไม่ได้พูดคุยกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ส่วนที่มีการพูดคุยกันก่อนหน้ากับหน่วยงานด้านความมั่นคงนั้น ยังไม่ได้ลงในรายละเอียด เพียงแต่นายกฯ ได้ให้นโยบายกว้างๆ ย้ำว่าขอหารือในรายละเอียดกับทางกระทรวงการต่างประเทศก่อน
ซึ่งวันนี้นายกฯ ได้มอบนโยบายลงมาเรียบร้อย แต่ตนขอไปพูดคุยกับฝ่ายปฏิบัติก่อนว่าจะทำอย่างไรให้นโยบายเป็นเนื้อเดียวกัน รวมทั้งกับหน่วยงานด้านความมั่นคงด้วยว่าจะแบ่งงานอย่างไร เป้าหมายชัดเจนแล้วว่าเราต้องกำหนดวัตถุประสงค์ก่อนว่าเราต้องการอะไร และค่อยกำหนดว่าใครควรจะมีหน้าที่และเล่นบทบาทอย่างไร
ไม่รู้ปมคนมอง “ยิ่งลักษณ์” เตรียมใช้กลไก กต.เป็นด่านแรกกลับไทย
นายมาริษ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเดินทางกลับประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศจะต้องเป็นด่านแรกในการประสานงานว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า มีการมองกันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อาจจะใช้สถานทูตประเทศใดประเทศหนึ่งเพื่อรายงานตัว นายมาริษ กล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องของการมอง ไม่เกี่ยวกับกระทรวงการต่างประเทศ และสำหรับตนยังไม่ได้รับรายงานว่าจะมีเรื่องนี้เข้ามา ขออนุญาตไม่ตอบ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับกระทรวงการต่างประเทศ
อ่านข่าว :
นายกฯ ลั่นไม่เคยคิดปลด ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
“ทักษิณ” เคลื่อนตัว กระชับพื้นที่ ส่งผ่านอำนาจ “อุ๊งอิ๊ง” สู้ศึกระยะไกล