หน้าแรก Thai PBS จับกระแสการเมือง : วันที่ 7 พ.ค.67 “ปิดรอยแผลเก่า-กินข้าวโชว์” วิวาทะเดือด โครงการรับจำนำข้าว 10 ปี

จับกระแสการเมือง : วันที่ 7 พ.ค.67 “ปิดรอยแผลเก่า-กินข้าวโชว์” วิวาทะเดือด โครงการรับจำนำข้าว 10 ปี

84
0
จับกระแสการเมือง-:-วันที่-7-พค.67-“ปิดรอยแผลเก่า-กินข้าวโชว์”-วิวาทะเดือด-โครงการรับจำนำข้าว-10-ปี

สงครามน้ำลาย เปิดวิวาทะเดือด ระหว่างพรรครัฐบาล และฝ่ายค้าน เมื่ออดีตโฆษกเด็จพี่ “พร้อมพงษ์ นพฤทธิ์” ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ออกมาตอบโต้ “ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาระบุว่า

“นายภูมิธรรม ควรเอาข้าวในโกดังดังกล่าว ไปหุงให้รัฐมนตรีได้กินกันทั้งคณะในทุกวันอังคารที่มีการประชุมคณะรัฐมนตรี”

เหตุเกิดหลัง “ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ เดินสายโชว์กินข้าว โครงการรับจำนำข้าว 10 ปี ซึ่งเก็บไว้ในโกดัง จ.สุรินทร์ ถึง 2 ครั้ง ตั้งแต่เดือน เม.ย. และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ค. แถมการันตีว่า ยังมีคุณภาพดีและสามารถนำมาหุงเพื่อการบริโภคได้

อดีตโฆษกเด็จพี่ บอกว่า สิ่งที่ท่านรองนายกฯ ภูมิธรรมทำเป็นเรื่องดี ใครๆ ก็เห็นด้วย แต่นายราเมศกลับออกมาท้าทาย ออกมาเล่นการเมือง ให้ทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ สิ่งที่พูดและสื่อสารออกมาเหมือนจะรู้ทุกเรื่อง เห็นทุกอย่าง ไปลงพื้นที่ด้วยหรือเปล่า หรือว่ามีผีสางนางไม้ที่ไหนมากระซิบข้างหู คราวนี้ก็ยังฝากถามอีก ทั้งเรื่องช้อนซื้อที่ไหน ตักติดแต่กับไม่ค่อยติดข้าว พูดไปไกลถึงเรื่องลบล้างเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาในคดีทุจริตรับจำนำข้าว ไม่เคยตกเลยจริงๆ เรื่องใช้จินตนาการมากกว่าสมอง ถนัดเหลือเกินกับการเล่นการเมืองแบบไม่สนความเสียหาย

อ่านข่าว : “สมชัย” แนะตรวจสอบคุณภาพข้าว 10 ปี สร้างความมั่นใจก่อนขาย

ขณะ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม บอกว่า ตนมีหน้าที่ขนข้าวในคลังออกไปขาย ดีกว่าปล่อยให้เน่าเสียประมาณกว่า 150,000 กระสอบ ถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ ก็ถึงขั้นขายไม่ได้ ตอนแรกก็ไม่มั่นใจ จนได้ไปดูและลองหุงมาชิมก็รู้สึกว่าอร่อยไม่มีปัญหาอะไร

“ไม่ได้ไปบังคับใคร ใครทานได้ก็ทาน ใครไม่อยากทานก็ไม่ต้องทาน ใครซื้อก็ซื้อ ซื้อไม่ได้ก็ไม่ต้องซื้อ ผมไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมมากกว่าสิ่งที่ควรทำ และหากในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้หารือกันจนสิ้นสงสัย ก็จะเร่งดำเนินการประมูลภายในเดือนพ.ค.นี้ หรืออย่างช้าไม่เกินเดือน มิ.ย.ไม่อยากให้เกิดดรามา เอาจินตนาการมาชี้นำความจริง” เสี่ยอ้วน ภูมิธรรม ระบายความในใจ

ส่วน “ราเมศ” สวนกลับว่า ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ต่อจากนี้ก็ต้องมาตรวจดูข้อมูลว่าโกดังที่เก็บข้าวจำนำ เป็นโกดังของใคร และได้ค่าเช่าจากการเช่าโกดัง 10 ปี เป็นจำนวนเงินเท่าใด กระทรวงใด หน่วยงานใด เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย การเก็บเป็นเวลากว่า 10 ปีต้องฉีดยาทุก 3 เดือน ใช่หรือไม่

รัฐนำเงินภาษีของประชาชนมาใช้ในส่วนนี้ ถามว่าต้องนำเงินภาษีมารับผิดชอบโครงการจำนำข้าว เป็นจำนวนเท่าไหร่ และถ้านายพร้อมพงศ์ตอบได้ ก็ช่วยออกมาตอบ เพราะประชาชนผู้เสียภาษีอยากรู้ข้อมูลที่แท้จริง

“ข้อท้วงติงรับไปตรึกตรองดู อย่าทำตัวเป็นรัฐบาลน้ำเต็มแก้ว ถ้าน้ำในแก้วเป็นน้ำเน่าก็เททิ้งเอาน้ำดีใส่ไปบ้าง และถ้าออกมาโต้ในทางการเมือง รับประกันได้ว่าเข้าเนื้อแน่นอน ก่อนที่จะกลิ้งนะ นิ่งๆ ไว้ก่อนจะดีกว่า”

อ่านข่าว : “สารรมควัน” ในเมล็ดข้าวสาร “ไม่เสื่อมสภาพ ตกค้าง ล้างไม่ออก” 

ขณะที่ ดร.สมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองของชาติ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านข้าว ออกมาระบุว่า ตามปกติข้าวจะเก็บไว้ไม่นาน ชาวบ้านจะเก็บไว้ปีต่อปีแล้วขายออก ส่วนประเทศที่ขาดแคลนข้าว ก็อาจจะเก็บเอาไว้ประมาณ 3-5 ปี แต่ข้าวจากคดีโครงการรับจำนำข้าว เก็บนาน 10 ปี บริโภคได้อยู่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับวิธีการเก็บว่ามีการดูแลดีหรือไม่ มีการรมควัน มีความชื้นเข้าไปมากน้อยขนาดไหน มีเชื้อราหรือไม่ ดูจากสภาพข้าวอย่างเดียวไม่ได้ แต่ถ้ามีเชื้อราก็ไม่ควรบริโภค เพราะเป็นอันตรายกับผู้บริโภค

สมัย ตอน คสช. ถ้าบริโภคไม่ได้ จะเอาไปทำข้าวเป็นอาหารสัตว์ และถ้าต่ำกว่าอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ก็คือไปทำเป็นอุตสาหกรรมแปรรูปหมักเป็นเอทานอล และทำปุ๋ย เพื่อไม่ให้มันเสียหายมาก ข้าวอายุ 10 ปี ถ้าเป็นข้าวหอมมะลิยางหมดไปแล้ว ข้าวจะร่วน กินไม่อร่อย การระบายข้าวออกไป ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่ใช่คิดแต่ระบายออกโดยไม่คิดถึงผู้บริโภค เพราะเท่ากับไปทำให้ตลาดข้าวเสียหาย แล้วก็ต้องไม่หลอกลวงผู้บริโภค

ขณะที่รัฐบาลเพื่อไทย ยังอุตลุดกับโครงการโรดโชว์ ข้าวกินได้จากโครงการรับจำนำข้าว 10 ปี และเมาหมัด กับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ยังไปไม่ถึงไหน และ ส่ง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคฯ ยังออกมาฟาดกับ “ผู้ว่าการนก” เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ธปท. ว่าความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ เป็นอุปสรรคต่อการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เป็นเหตุให้เกิดกระแสตีกลับอย่างหนักว่า ผู้ที่ออกมาพูดน่าจะเป็นคนที่ไม่มีความเข้าใจในเรื่องข้อกฎหมาย และ หลักความเป็นอิสระของ ธปท.ในฐานะธนาคารกลางของประเทศ

ตัดไปที่ความเคลื่อนไหวของพรรคสีส้ม ไม่ตกเทรนด์ เมื่อ “กรุณพล เทียนสุวรรณ” สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) @petchy66 ระบุถึงกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ลงพื้นที่ตรวจโกดังเก็บข้าวสมัยโครงการรับจำนำข้าวเมื่อราว 10 ปีก่อน พร้อมยืนยันว่าข้าว 10 ปีที่แล้วสามารถบริโภคได้นั้น

“ข้าวเน่าไม่เน่าพิสูจน์ได้ด้วยวิทยาศาสตร์ รัฐมนตรีทานให้ดูไปแล้วส่วนหนึ่ง ต่อจากนี้อยากเห็นรัฐบาลที่เคยถูกรังแกและใส่ร้ายเรื่องข้าวเน่าจนเสียหายมาเป็นสิบปี ตามจับคนที่มีส่วนในการโกหกเรื่องข้าวเน่า มารับโทษตามกระบวนการยุติธรรม แม้ว่าอาจจะมีผู้ต้องสงสัยหลายคนเป็นรัฐมนตรี และ สส.พรรคร่วมรัฐบาลในตอนนี้ เพื่อยืนยันว่าเราไม่อาจยอมให้เกิดการทำลายทางการเมืองด้วยการใส่ร้ายและยัดคดีที่ไม่มีมูลความจริงอีกต่อไป”

อ่านข่าว : ส่องนัยการเมือง “ภูมิธรรม” ชิมข้าว 10 ปี ปูทาง “ยิ่งลักษณ์” กลับไทย

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่