- “เศรษฐา” แบ่งงาน 6 รองนายกฯ ใครคุมกระทรวงใด?
- เปิดประวัติ “วุฒิไกร ลีวีระพันธ์ุ” ปลัดกระทรวงพาณิชย์ คนใหม่
วันนี้ (7 พ.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังครม.เศรษฐา 1/1 เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ไปเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรี สวมชุดขาวเดินลงตึกไทยคู่ฟ้ามายังสนามบริเวณสนามหญ้า เพื่อมาดูความพร้อมผังการถ่ายรูปคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ แต่เนื่องจากฝนตกทำให้ต้องเปลี่ยนสถานที่ถ่ายภาพ จากเดิมที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า มาที่ตึกสันติไมตรี (โถงกลาง) ทำเนียบรัฐบาล
จุดมุ่งหมายหลักหลังปรับครม.แล้ว ผลงานจะต้องดีขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่ารัฐมนตรีคนเก่าไม่ดี เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนก็ต้องมีการปรับเปลี่ยน ประชาชนจะเชื่อมั่นครม.ชุดนี้จะต้องมากับผลงาน
“พิชัย”-คุยผู้ว่าแบงก์ชาติ
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีจะสบายใจขึ้นหรือไม่ หลังนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เตรียมพูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ ไทย (ธปท.) เพื่อลดความขัดแย้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกๆ การเคลื่อน ไหว หากช่วยลดความขัดแย้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสม และสมควรที่จะทำ มั่นใจว่าถ้าทั้ง 2 ฝ่ายพยายามที่จะพูดคุยกันก็จะเป็นเรื่องที่ดี โดยจะนำมาซึ่งการสนับสนุนงานของรัฐบาลได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะที่ประชาชนให้คะแนนผลงานของรัฐบาลตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 6-7 คะแนน หลังปรับ ครม.จะขับเคลื่อนงานอย่างไร นายเศรษฐา กล่าวว่า การให้คะแนนจากประชาชนถือเป็นเสียงสะท้อนอย่างหนึ่ง ซึ่งการที่มายยืนอยู่ตรงนี้ถือเป็นหน้าที่ ที่จะต้องฟังเสียงสะท้อนเหล่านั้น ไม่ว่าจะได้คะแนนเท่าไหร่ก็ยังไม่ถึง 10 อยู่ดี จึงต้องพยายามทำงานต่อไป ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สำคัญ
โดยจะต้องมาพิจารณาอีกทีว่า ส่วนไหนยังทำได้ไม่ดี หรือตรงไหนก็ที่อยู่ในการขับเคลื่อนตามระบบ ที่ต้องใช้เวลาในการทำงาน ก็ขอให้ความเป็นธรรมให้คณะทำงานด้วย ซึ่งระบบการทำงานของภาคส่วนราชการก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะถือว่าเป็นภาคส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐฯ
เชื่อว่าทุกกระทรวง ทบวง กรม มีส่วนช่วยในการผลักดันงานของรัฐบาลอยู่แล้ว จึงไม่ได้เป็นปัญหาใด แต่ปัญหาใหญ่ที่พบก็ต้องใช้ทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงาน
อ่านข่าว เช้ามืดวันนี้ รถขนกากแดดเมียมรอบ 2 ถึง จ.ตาก แล้ว
ประเมินผลงาน-แก้จุดอ่อนศก.
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการตั้งตัวชี้วัด หรือ KPI ไว้สำหรับรัฐมนตรีคนใหม่อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันว่า บางเรื่องจะต้องแล้วเสร็จภายในเมื่อไหร่ แต่ก็อาจจะมีตัวแปรอื่นที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นตัวชี้วัดก็เปลี่ยน แปลงได้ ซึ่งตัวเองไม่ได้กำหนดว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่
โดยบางเรื่องอาจจะจบภายใน 2 สัปดาห์ แต่บางเรื่องอาจจะใช้เวลานานนับปี เพราะแต่ละเรื่องใช้เวลาที่แตกต่างกัน เช่นเรื่องการลงทุน ที่จะจะต้องมีการประ สานงานกับทุกฝ่าย ก็ต้องเห็นใจฝ่ายที่จะเข้ามาลงทุนด้วย จะต้องใช้เวลาในการพิจารณาเป็นระยะเวลายาวนาน อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ครม. ชุดใหม่ ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลา 6-7 เดือนที่ผ่านมา จะต้องเสริมในจุดอ่อนในด้านใดบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาสะสมในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม ปากท้องประชาชนประชาชน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ยังคงต้องการความช่วยเหลือ
ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ให้ความไว้วางใจตนแล้วก็ต้องทุ่มเทความสามารถให้เต็มที่ ทำตามที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการไว้ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการทำงาน
อ่านข่าวอื่นๆ
ด่วน! กระบะ จนท.ดับไฟป่าพลัดตกเขาจอมทอง บาดเจ็บ 14 คน
จับเพิ่มอีก 2 คน ผู้ต้องหาร่วมขบวนการอุ้มรีดเงินชาวจีน