หน้าแรก Thai PBS “พีระพันธุ์” นำทีม สส.ลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เล็งแก้ปัญหา 3 ประเด็น

“พีระพันธุ์” นำทีม สส.ลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เล็งแก้ปัญหา 3 ประเด็น

76
0
“พีระพันธุ์”-นำทีม-สสลงพื้นที่-จ.เพชรบุรี-เล็งแก้ปัญหา-3-ประเด็น

วันนี้ (13 ก.พ.2567) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค นางธิวัลรัตน์ อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี เขต 1 และ จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3 พร้อมด้วย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่อรับหนังสือร้องเรียนชาวบ้านเรื่องการก่อสร้างบานเปิด-ปิด ระบายน้ำ หรือ สปิลเวย์ เขื่อนแก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า จะประสานข้อมูลและข้อเท็จจริงกับทางหน่วยราชการที่เป็นเจ้าของเรื่องว่า มีความเป็นมาเป็นไปอย่างไร อีกทั้งมีวิธีการดำเนินการได้แค่ไหน ในกรณีแบบนี้บางอย่าง ก็ต้องหาวิธีการเพื่อมาชดเชย แต่ถ้าหน่วยราชการมีรูปแบบวิธีการแก้ปัญหาก็สามารถนำมาพิจารณา ขณะเดียวกัน ตนก็จะดูเรื่องการแก้ปัญหานี้ควบคู่ไปด้วยเช่นกัน

อ่านข่าว : ทัวร์นกขมิ้นวันที่ 3 “เศรษฐา” ลุยตลาดราชบุรีห่วงของแพง ตกใจพริก ก.ก.ละ 500

ด้าน นายวิรัตน์ นกวอน นายกองค์การบริหารตำบลแก่งกระจาน เปิดเผยว่า วันนี้ตนและประชาชนในพื้นที่ มายื่นหนังสือร้องเรียนให้นายพีระพันธุ์ เพื่อต้องการให้ท่านช่วยชะลอการก่อสร้างบานเปิด-ปิดระบายน้ำเขื่อนแก่งกระจานไปจนกว่าสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่แล้วเสร็จ

ผมเชื่อว่า พี่น้องประชาชน โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ขอบอ่างไม่เห็นด้วย เพราะหากมีการก่อสร้างบานเปิด-ปิดดังกล่าวที่สูงขึ้นไปอีกจะทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมหนัก หากน้ำล้นเขื่อนขึ้นมาในปริมาณที่มากอีก และถ้าหนีขึ้นไปด้านหลังซึ่งเป็นเขาและเป็นพื้นที่เขตอุทยานฯ ก็อาจจะมีความผิดฐานบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ

นายวิรัตน์ บอกว่า โครงการดังกล่าวทางกรมชลประทาน ไม่ได้มีการสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเลย สำหรับโครงการก่อสร้างนี้มีทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนที่ 1 คือ การก่อสร้างสะพานข้ามสปิลเวย์ ส่วนที่ 2 คือ การสร้างแนวกันตลิ่ง เพื่อกันน้ำเซาะตลิ่ง

ทั้งนี้ในส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 นี้ ชาวบ้านไม่คัดค้าน เนื่องจากมีประโยชน์ต่อจังหวัดและพื้นที่เพื่อใช้เป็นจุด check in และเป็นจุด Landmark Point ของจังหวัด

ส่วนที่ 3 คือการก่อสร้างบานเปิด-ปิดน้ำ เพื่อกักเก็บน้ำ ได้มีการประชุมระดับอำเภอแล้ว และได้ข้อสรุปให้ชะลอจนกว่าจะสอบถามความคิดเห็นของประชาชน แม้ที่ผ่านมาจะมีการสั่งชะลอแต่ยังมีการดำเนินการก่อสร้าง

ปัญหาที่เกิดขึ้น กับประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อน้ำล้นสปิลเวย์ จะท่วมบ้านเรือนราษฎรที่เป็นที่อยู่อาศัย นอกจากนี้ ยังท่วมพื้นที่ทำกิน พืชผลทางการเกษตร อีกทั้งแนวเขตชลประทานเพิ่มขึ้นทับซ้อนพื้นที่ทำกินของชาวบ้านที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำกิน ตามมติ ครม. มิ.ย. 41

นายวิรัตน์ กล่าวว่า ส่วนแนวทางแก้ไขต้องการเสนอให้ชลประทานเปลี่ยนแปลงโครงการจากทำบานพับสปิลเวย์มาเป็นขุดลอกเขื่อนแทน เนื่องจากทุกปีในช่วงฤดูฝนมักที่จะเกิดน้ำหลาก เกิดการพังทลายของดินไหลลงสู่เขื่อนแก่งกระจานเป็นตะกอนทำให้ตื้นเขินจึงกักเก็บน้ำได้ปริมาณน้อยลง

ดังนั้น จึงควรใช้วิธีการขุดลอกเพื่อกักเก็บน้ำให้มากขึ้นเป็นการลดความเสี่ยงกรณีเขื่อนแตก เพราะจะมีผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้อยู่อาศัยบริเวณใต้เขื่อน และลดผลกระทบผู้อยู่อาศัยบริเวณรอบเขื่อนอีกด้วย

สำหรับหมู่บ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการก่อสร้างดังกล่าว ได้แก่ หมู่บ้านพุเข็ม หมู่ 10 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านพุบอน หมู่ที่ 14 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านน้ำทรัพย์ หมู่ที่ 9 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านหนองเกตุ หมู่ที่ 7 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านท่าเรือ หมู่ที่ 8 ต.แก่งกระจาน หมู่บ้านท่าลิงลม หมู่ที่ 3 ต.สองพี่น้อง หมู่บ้านวังวน หมู่ที่ 2 ต.สองพี่น้อง หมู่บ้านพุไทร หมู่ที่ 3 ต.ห้วยแม่เพรียง และหมู่บ้านลำตะเคียน หมู่ที่ 4 ต.แก่งกระจาน ทั้งนี้ มีทั้งหมด 2,097 ครัวเรือน มีประชากรทั้งหมด 4,715 คน

จากนั้น รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน พร้อมด้วย สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ และผู้บริหารพรรค เดินทางต่อไปยัง ณ บริเวณหมู่ที่ 3 ต.ไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อพบปะพูดคุยกับประชาชนกลุ่มเลี้ยงวัวทางด้านการเกษตรและกีฬา

หลังจากพูดคุยกัน นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องช่วงเวลาการเล่นกีฬาวัวลานที่จะขอให้มีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาในการแข่งเป็นเวลาใดนั้น ให้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการไปก่อน แต่ถ้าไม่ได้เราก็จะมาแก้ให้อยู่ในกฎหมายเพื่อให้เกิดความยั่งยืนดีกว่า

นายพีระพันธุ์ กล่าว่าต่อว่า แต่ในระหว่างรอการแก้ไขกฎหมายเราก็สามารถประสานไปกับทางกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวได้ 

ต่อมา นายพีระพันธุ์ พร้อม สส.พรรครวมไทยสร้างชาติและคณะผู้บริหาร ได้เดินทางต่อไปยังบริเวณ จุดสะพานกลับรถข้ามรถไฟทางคู่ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี เมื่อเดินทางไปถึงจุดดังกล่าว มีพี่น้องประชาชนได้มายื่นเรื่องร้องเรียน เกี่ยวกับปัญหาการจราจร อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

จากกรณีหากรถไฟไม่สามารถหยุดจอดได้ในทันที ซึ่งสุ่มเสี่ยงอาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ ดังนั้นพี่น้องประชาชน จึงต้องการขอให้ภาครัฐทำการสร้างสะพานข้ามเกือกม้า เพื่อลดอุบัติเหตุ และแก้ไขปัญหาการจราจร

จากข้อร้องเรียนดังกล่าวของประชาชนในพื้นที่ อ.เมือง จ.เพชรบุรีนั้น นายพีระพันธุ์ ยืนยันกับพี่น้องประชาชนว่า จะนำปัญหาดังกล่าว เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ที่มาประชุมที่ จ.เพชรบุรี ในครั้งนี้ด้วย (13 – 14 พ.ค.2567)

อ่านข่าว

“ชัยชนะ” เร่งกำหนดครอบครองยาบ้า 1 เม็ดเป็นผู้เสพ ฟื้น “รร.วิวัฒน์พลเมือง” ช่วยบำบัด 

ทัวร์นกขมิ้นวันที่ 3 “เศรษฐา” ลุยตลาดราชบุรีห่วงของแพง ตกใจพริก ก.ก.ละ 500 

กกต.นัดสื่อเคลียร์ปมสมัคร สว. คาดเคาะวันสมัคร 20-24 พ.ค.นี้

 

 

 

 

 

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่