วันนี้ (16 พ.ค.2567) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.และกระทรวงมหาดไทย ได้จัดสัมมนาความเข้าใจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเน้นย้ำการเตรียมความพร้อมในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 โดยได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติและขั้นตอนกระบวนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาและชี้แจงภารกิจในบทบาทของจังหวัด อำเภอ เขต
โดยนายแสวง กล่าวว่า เป้าหมายหลักของเราคือจะต้องทำหน้าที่ ให้ได้ สว. ครบ 200 คนตามกำหนดเวลา ถ้าทุกคนอยู่ตรงที่ถูกทางก็จะเรียบร้อยแต่ถ้าอยู่ผิดทิศผิดทางก็ทำงานยาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ในการใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ และเป็นการใช้แบบเต็มรูปแบบในการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในครั้งนี้ ซึ่งในการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยหรือ กทม. ก็ทำงานร่วมกับ กกต.มาเป็นอย่างดี แล้วหวังว่าสำนักงาน กกต.จะได้รับความร่วมมือ จากทั้งกระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง กรมส่งเสริมท้องถิ่น สำนักบริหารงานทะเบียน กรุงเทพมหานครและเขต ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเหมือนที่ผ่านมา
อ่านข่าว : กกต.ไขคำตอบ สว.กลุ่มอาชีพ “สตรี” ความหมาย “กลุ่มอัตลักษณ์ และ ชาติพันธุ์”
ส่วนการเลือกสมาชิกวุฒิสภาครั้งนี้ ก็เป็นงานหนึ่งที่มหาดไทย และกรุงเทพฯ กฎหมายเขียนไว้ชัดเจน ในระดับอำเภอ นายอำเภอจะต้องมาเป็น ผู้อำนวยการเลือก สว.ซึ่งต้องเข้ามาช่วยเหลือเพื่อให้การเลือก สว.ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งไม่ใช่แค่ทำหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้งให้ผ่านไปได้ด้วยดีกว่าจะต้องตรวจสอบคุณสมบัติก่อนประกาศรายชื่อผู้สมัคร สว.ด้วย ซึ่งในระดับอำเภอถือเป็นชั้นแรกก่อนจะไปถึงระดับจังหวัดและประเทศ
สำหรับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก็จะต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญออกแบบไว้ ขณะที่นักวิชาการที่ออกมาพูด อาจทำให้ประชาชนสับสน และด้วยกระบวนการที่ออกแบบ โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ และจะต้องดำเนินการให้ได้ สว. 200 คนตามกรอบเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้หรือช่วงเดือน ก.ค.นี้
ทั้งนี้ จะต้องได้รับการมีส่วนร่วมจากประชาชน ถึงแม้ว่าจะทำได้แค่ติดตามเฝ้าดูการเลือก สว.ครั้งนี้
นายแสวง ยังกล่าวถึงระเบียบต่างๆ ที่ กกต.ออกมา เมื่อถึงหน้างานจริงๆ คงไม่ได้ง่าย ฉะนั้นต้องมีมาตรการที่จะจัดการ กับกลุ่มจัดตั้งหรือกลุ่มที่ฮั้วกันมา หากเป็นคดีความศาลฎีกาจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งได้ยกตัวอย่างกรณี “โทรศัพท์ไปขอคะแนน” ศาลฎีกาได้ตัดสินโทษมีถึงขั้นถูกตัดสิทธิ์เลือกตั้งตลอดชีวิต เพราะเป็นการฮั้วกัน
พร้อมยืนยันว่าไม่มีเงื่อนไขใดที่จะทำให้ประวิงเวลาการประกาศรายชื่อ สว. 200 คนช้าออกไป ทั้งขั้นตอนการเลือก หากมีผู้สมัครไม่ครบทุกกลุ่มก็มีกฎหมายมาตรา 19 รองรับไว้ เรื่องคุณสมบัติ ถ้าเอกสารเท็จทั้งใบสมัครและเอกสารประกอบเป็นเท็จจะได้ใบดำ เพิกถอนการรับสมัคร หรือไม่รับสมัคร ซึ่งศาลต้องมีคำสั่งก่อนวันเลือก 1 วัน หรือหากประกาศให้เป็นผู้สมัครไปแล้ว ไปเจอตอนหลังว่าผิด ลบชื่อได้ทุกชั้นจนถึงระดับประเทศ และแม้ภายหลังศาลจะคืนสิทธิ์ ก็ไม่กระทบในสิ่งที่ทำไปแล้ว ดังนั้นเดินหน้าได้ตลอดส่วนการพิจารณาคำร้อง ก็ไม่ได้กระทบกับกำหนดการที่วางไว้
อ่านข่าว : หน้าที่ และอำนาจ 200 สว.ชุดใหม่ ในวาระ 5 ปี
ไม่กังวลกระบวนการเลือก สว.
นายแสวง เปิดเผยถึงกระบวนการเลือก สว. ว่าไม่มีอะไรกังวลใจ และเข้าใจว่าทุกฝ่าย ได้ทำความเข้าใจกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการซักซ้อมในระดับพื้นที่ แต่วันนี้มาทำความเข้าใจครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะลงสนามจริง
พร้อมหยิบยกคำวินิจฉัยศาลฎีกาพิพากษาให้ใบดำ ผู้ฮั้วการเลือก สว.ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสำนักงาน กกต.ที่จะป้องกันการฮั้วหรือการจัดตั้งเลือก สว. พร้อมย้ำว่าไม่มีกระบวนการใดที่จะมาหยุดยั้ง การได้มาซึ่ง สว. 200 คน
เลขาธิการ กกต.ยังกล่าวถึง ผู้ที่มารับใบสมัคร สว. กว่า 17,000 คนในช่วงเวลา 5 วันที่ผ่านมาว่า ไม่สามารถคาดการณ์จำนวนผู้ที่จะสมัครได้ จะต้องรอถึงวันที่ 24 พ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรับสมัคร
แต่หากกรณีมีผู้มาสมัครน้อย กฎหมายกำหนดไว้ว่าหากสมัครไม่ครบ 20 กลุ่มก็สามารถดำเนินการเลือกได้เลย ตามมาตรา 19 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. และจะทำให้การทำงานของ กกต.ง่ายขึ้น
สำหรับคำร้องผู้สมัคร สว.เกี่ยวกับระเบียบการแนะนำตัวที่ขณะนี้อยู่ในศาลปกครองนั้น ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลปกครองในวันที่ 24 พ.ค.ว่าจะออกมาอย่างไร ขณะเดียวกัน กกต.ก็ต้องดำเนินการจัดการเลือก สว.ตามอำนาจหน้าที่ พร้อมปฏิเสธที่จะออกความเห็นถึงแผนที่จะออกมารองรับทำวินิจฉัยที่จะออกมา
อ่านข่าว : เปิดระเบียบการแนะนำตัว สว. 2567 มีเงื่อนไข อะไรทำได้ – ห้ามทำ
รอสอบคุณสมบัติ “พิชิต”
นายแสวง ยังกล่าวถึงการตรวจสอบคำร้อง สส.ที่ยังค้างอยู่ ที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าเวลาผ่านไป 1 ปีแต่มีการวินิจฉัยออกมาเพียงไม่กี่รายนั้น ว่า ระยะเวลา 1 ปีไม่มีกำหนดในกฎหมาย เป็นเพียงการกำหนดไว้ให้ กกต.ปฏิบัติเท่านั้น ซึ่งเป็น 1 ปีนับตั้งแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง แปลว่าขณะนี้ กกต.ยังมีเวลา และยังเหลืออีกกว่า 10 สำนวน ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ดำเนินการส่งศาลไปแล้วหลายเรื่องเพียงแต่ไม่เป็นข่าว พร้อมย้ำว่าขณะนี้ยังมีเวลาเหลืออยู่
พร้อมกันนี้ นายแสวง ยังกล่าวถึงมติผู้ตรวจการแผ่นดินที่ชี้ว่าการตรวจสอบคุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน จะต้องเป็นหน้าที่ของ กกต.ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ว่าขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของสำนักงาน เพื่อเสนอให้ กกต.พิจารณา แต่ในการประชุมครั้งถัดไปยังไม่สามารถเสนอเรื่องนี้ได้ทันที
อ่านข่าว :
ยอดรับใบสมัคร สว. 6 วัน รวม 17,664 คน กทม.มากสุด 2,293 คน
กกต.แจงเลือก สว.สื่อทำหน้าที่ได้ปกติ ให้ผู้สมัครแนะนำตัวผ่านโซเชียลได้
