วันนี้ (16 พ.ค.2567) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. ชี้แจงกรณีข่าวศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 ได้มีคำพิพากษายกฟ้อง นายอิทธิพล คุณปลื้ม อดีต รมว.วัฒนธรรม เมื่อครั้งเป็นนายกเมืองพัทยา กับพวกรวม 5 คน กรณีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร “วอเตอร์ฟร้อนท์” โดยมิชอบ เนื่องจากโจทก์ยื่นฟ้องเกินระยะเวลาจึงขาดอายุความ
อ่านข่าว ศาลยกฟ้อง “อิทธิพล คุณปลื้ม” คดีออกใบอนุญาตก่อสร้างวอเตอร์ฟร้อนท์
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2557 สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับคำกล่าวหาร้องเรียน นายอิทธิพล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา กับพวก เข้ามีส่วนได้เสียในการก่อสร้างโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ และการพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2551 และการพิจารณาต่อใบอนุญาตก่อสร้างอาคารครั้งที่ 2 พ.ศ.2555 โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานฟังได้ว่า การกระทำของผู้ถูกกล่าวหากับพวก มีมูลตามคำกล่าวหา คณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงมีมติเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2565 แต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนเพื่อไต่สวนข้อเท็จจริงและแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหากับพวกทราบ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดนายอิทธิพล กับพวก ว่ามีมูลความผิดทางอาญาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157
อ่านข่าว “อิทธิพล” ติดต่อขอมอบตัว คดีออกใบอนุญาตสร้างคอนโดฯ หรู
โดยส่งรายงาน และสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องในเรื่องไต่สวนดังกล่าวไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดในวันที่ 3 ส.ค.2566 และเนื่องจากคดีใกล้ขาดอายุความ 15 ปี ในวันที่ 10 ก.ย.2566 สำนักงาน ป.ป.ช.จึงได้มีการประสานงานและติดตามสอบถามความคืบหน้าไปยังสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นระยะ
ต่อมาในวันที่ 30 ส.ค.2566 สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้มีหนังสือแจ้งว่าอัยการสูงสุดมีคำสั่งรับดำเนินคดีอาญาฟ้อง นายอิทธิพล ผู้ถูกกล่าวหากับพวกรวม 10 ราย ตามฐานความผิด และบทกฎหมายตามมติคณะกรรมการ ป.ป.ช. และแจ้งให้นำตัวผู้ถูกกล่าวหาไปส่งและยืนยันตัวผู้ถูกกล่าวหาต่อพนักงานอัยการในวันที่ 4 ก.ย.2566 เพื่อดำเนินการยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 10 รายต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2
อ่านข่าว ออกหมายจับ “อิทธิพล คุณปลื้ม” คดีออกใบอนุญาตสร้างคอนโดฯ หรู
ปรากฏว่าในวันที่ 4 ก.ย. 2566 ผู้ถูกกล่าวหาในกลุ่มพิจารณาต่ออายุใบอนุญาตก่อสร้างอาคารครั้งที่ 2 จำนวน 5 คนได้ไปรายงานตัวต่อพนักงานอัยการ ณ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้อง
และแจ้งว่าผู้ถูกกล่าวหา ในกลุ่มพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ประกอบด้วยนายอิทธิพล กับพวกอีก 4 คน ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานอัยการ ตามวันและเวลาที่กำหนด จึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ช. ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ออกหมายจับ ซึ่งศาลได้ออกหมายจับตามคำร้องเมื่อวันที่ 5 ก.ย.2566
ในวันที่ 6 ก.ย.2566 สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 ได้มีหนังสือขอให้สำนักงานป.ช.ช.ดำเนินการออกหมายจับนายอิทธิพลกับพวกใหม่อีกครั้งหนึ่ง
โดยขอให้ศาลได้โปรดระบุหมายเหตุไว้ในหมายจับด้วยว่าผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีไปเมื่อวันที่เท่าใด ตามมาตรา 7 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561ประกอบมาตรา 13 แห่งพ.ร.บ.วิธีพีจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559
ซึ่งศาลได้ออกหมายจับตามคำร้องใหม่ ในวันที่ 7 ก.ย.2565 โดยระบุในหมายเหตุว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้หลบหนีไปในระหว่างถูกดำเนินคดี จึงมิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนี รวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ ตามมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 และตามมาตรา 13 แห่งพ.ร.บ.วิธีพิจารณาคตีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.2559
ภายหลังจากนั้น ได้มีการติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหา ตามหมายจับ นายวิทยา ศิรินทร์วรชัย มาดำเนินดดีได้ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.นายพิเชษฐ อุทัยวัฒนานนท์ นายญัติพงค์ อินทรัตน์ เมื่อวันที่ 14 ก.ย.2566 และนายเอกพงษ์ บุญชาย และนายอิทธิพล เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2556 ซึ่งศาลได้ประทับรับฟ้องทุกราย
กรณีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมีชอบ ภาค 2 มีคำพิพากษาว่า โจทก์ยื่นฟ้องเกินระยะเวลาดังกล่าว คดีโจทก์ จึงขาดอายุความนั้น ในเรื่องนี้อยู่ระหว่างขอสำเนาคำพิพากษา เพื่อเสนอคดณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ
“บุ้ง” ตายก่อนถึง รพ.ธรรมศาสตร์ ใบมรณบัตรชี้ “หัวใจล้มเหลว”