นายกรัฐมนตรี เดินทางถึงฝรั่งเศสแล้ว เตรียมนำนักธุรกิจไทยร่วมเวที Thailand-France Business Forum ก่อนพบ ปธน.มาครง
ผู้สื่อข่าว รายงานภารกิจการเยือนต่างประเทศ ประกอบด้วย ฝรั่งเศส อิตาลีและญี่ปุ่นของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 15-24 พ.ค.ว่า เมื่อเวลา 07.10 น.วันที่ 16 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ของสาธารณรัฐฝรั่งเศส (เวลาที่กรุงปารีสช้ากว่าเวลาที่กรุงเทพ 5 ชั่วโมง )นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะประกอบด้วย มาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จิราพร สินธุไพรรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร ประธานผู้แทนการค้าไทย เดินทางถึงท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี (Paris-Orly Airport) โดยมีผู้แทนฝ่ายฝรั่งเศส รวมทั้ง บุญญฤทธิ์ วิเชียรพันธุ์ อัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีสและข้าราชการให้การต้อนรับ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะเดินทางไปยังโรงแรมแฟรงซ์ เดอ กาลล์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่พักแบบ Day Use ก่อนที่เวลา 10.20 น. นายกรัฐมนตรีและคณะกลุ่มเล็กเดินทางไปยังศูนย์ประชุม L’Apostrophe เพื่อเข้าร่วมประชุม Thailand – France Business Forum โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาในงาน Thailand – France Business Forum ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนไทยและฝรั่งเศส ซึ่งเกิดขึ้นจากการผลักดันของนายกรัฐมนตรีและ เอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ทั้งนี้ ในงาน Thailand – France Business Forum นายกรัฐมนตรีพบกับ ฟรองซัวส์ กอร์แบง (François Corbin) ประธานสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย และรองประธานสภานายจ้างฝรั่งเศสในต่างประเทศ MEDEF International (MEDEFi) และ Franck Riester รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ด้านการค้าต่างประเทศ ความน่าสนใจ ทางเศรษฐกิจ และคนชาติในต่างประเทศ (Delegate Minister for Foreign Trade, Economic Attractiveness, Francophonie and French Nationals Abroad, attached to the Minister for Europe and Foreign Affairs)
โดยมีเอกชนที่รายสำคัญของทั้งสองประเทศในสาขาที่เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ได้แก่ สาขาพลังงาน สาขาคมนาคมขนส่ง สาขาการบริการ โรงแรม Hospitality สาขาอาหาร สาขาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ อื่น ๆ
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการพบหารือกับ เอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ ในการพบกันครั้งที่ 2 ของปี 2567 โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ณ ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส (Palais de l’Elysée)
จากนั้น เวลาประมาณ 13.40 น. นายกรัฐมนตรีเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Palais de l’Elysée) เพื่อพบกับนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นโอกาสกระชับความสัมพันธ์ ในการพบกันครั้งที่ 2 ของปี 2567 โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เชิญนายกรัฐมนตรีร่วมรับประทานอาหารกลางวัน โดยเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจในการเยือนสาธารณะฝรั่งเศส
เวลาประมาณ 16.00 น. นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี ไปยังเมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี โดยจะเดินทางถึงเวลา 17.50 น. โดยประมาณที่ท่าอากาศยานมิลาน มาลเปนซา โดยมี พุทธพร อิ้วตกส้าน เอกอัครราชทูตณกรุงโรม และ อัลแบร์โต เวอร์จิลีโอ กรมสุดใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำเมืองมิลานให้การต้อนรับ ก่อนที่นายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก ปาร์ค ไฮแอท มิลาน โดยมี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางมาร่วมคณะ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการเดินทางมายังสาธารณรัฐฝรั่งเศสนายกรัฐมนตรีได้สวมผ้าพันคอ“ผ้าลายอย่าง” ลาย “เพ็ชรราชวัตร”
โดยผ้าลายอย่างผืนนี้ คือ ลาย “เพ็ชรราชวัตร” ถอดลายมาจากผ้าลายอย่างของอินเดียที่ใช้ห่อคัมภีร์ที่วัดลาด กว่าจะมาเป็นลายนี้ได้ ศูนย์วิจัยสิงขร-มะริดศึกษาได้วิจัย สืบค้นประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยอยุธยา พร้อมทั้งวางลายผ้า หาคู่สีใหม่จนออกมาเป็นลายอย่างที่นอกจากจะสวยทั้งสีและลาย ยังสะท้อนถึงความเป็นมาของเพชรบุรีได้เป็นอย่างดี
โดย นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร้านผ้าบ้านชะอานมอบผ้าพันคอผืนนี้ให้ผม ก่อนเข้าประชุม ครม.สัญจร ที่ จังหวัดเพชรบุรี และผมได้แจ้งไว้ว่าผมจะตั้งใจพกผ้าผืนนี้เดินทางไปทริป ฝรั่งเศส – อิตาลี เพื่ออวดความสวย ความประณีตของงานผ้าไทย พร้อมกับถ่ายทอดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ให้ชาวอิตาลีให้เห็นว่าศิลปะไทยเราไม่น้อยหน้าใคร วันนี้ผมทำตามที่พูดไว้ และหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นสินค้าที่มีคุณภาพของคนไทย เช่น ผ้าลายอย่าง นี้ได้รับการต่อยอด ทั้งด้านการผลิตและการขาย เพื่อนำรายได้เข้าสู่จังหวัด