วันนี้ (18 พ.ค.2567) นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลายื่นคำชี้แจงข้อกล่าวหาคดียุบพรรค ฐานกระทำการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นครั้งที่ 3 อีก 15 วัน
นายชัยธวัช ระบุว่า ได้ตรวจดูคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาและเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว สำหรับยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตามกำหนดระยะเวลาก่อนหน้านี้ แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญขยายเวลาตามที่ฝ่ายกฎหมายยื่นไป ก็จะมีเวลาทบทวนให้ดีและละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้
ดังนั้นช่วงต้นเดือน มิ.ย.จะครบกำหนดต้องยื่นคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งหลังจากยื่นอย่างเป็นทางการไปแล้ว พรรรคก้าวไกลจะแถลงต่อสาธารณะอีกครั้ง เพื่ออธิบายประเด็นข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกลให้ประชาชนรับทราบ หลังจากนั้นต้องรอดูว่าศาลจะอนุญาตให้ไต่สวนหรือไม่อย่างไร รวมถึงจะเรียกพยานมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อศาลหรือไม่
เมื่อถามว่า ได้ประเมินผลลัพธ์ที่จะออกมาหรือไม่ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยืนยันว่า แม้ก่อนหน้านี้จะมีคำวินิจฉัยจากศาลรัฐธรรมนูญให้ยุติการกระทำ แต่ไม่ได้เท่ากับว่าจะพิจารณายุบพรรคได้เลยตามอัตโนมัติ เพราะเป็นคนละคดี คนละกฎหมาย การพิจารณาให้ยุติการกระทำ กับการพิจารณาให้ยุบพรรค มีรายละเอียดในแง่ข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงไม่เหมือนกัน ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกลที่เห็นว่ามีเหตุผลที่จะไม่พิจารณายุบพรรคในกรณีนี้ ส่วนผลคำวินิจฉัยของศาลจะออกมาอย่างไรก็ต้องเตรียมรับทุกสถานการณ์
“ก้าวไกล” จัด Policy Fest “ก้าวไกล BigBang”
นายชัยธวัช ยังกล่าวถึงการจัดกิจกรรม Policy Fest ครั้งที่ 1 “ก้าวไกล BigBang” ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่า เป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งที่วางเป้าหมายของพรรคในการเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก แม้จะเป็นฝ่ายค้าน แต่งานสำคัญคือการเตรียมพร้อมที่จะเป็นรัฐบาลบริหารประเทศหลังจากนี้ ดังนั้นจะยกระดับการทำงานเชิงนโยบายให้เข้มข้นมากขึ้น เพื่อลงรายละเอียดให้พรรคมีความพร้อมบริหารประเทศ เมื่อประชาชนไว้วางใจ
เมื่อถามว่า การจัดงานของพรรคก้าวไกล เป็นเพราะต้องการตอบโต้พรรคเพื่อไทยที่มีการแถลง 10 เดือนที่ไม่รอทำต่อให้เต็ม10 หรือไม่นั้น หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ไม่ใช่เช่นนั้น เพราะงานของพรรคก้าวไกลกำหนดไว้นานแล้ว เลื่อนไปล่าช้ากว่าเดิมที่ควรจะเป็น เนื่องจากติดจังหวะเวลาเรื่องคดีในศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเดิมตั้งใจจะจัดใหญ่กว่านี้ ใช้เวลา 2-3 วัน เมื่อมีการเลื่อนไปเลื่อนมาจึงย่อขนาดลง แต่ถือเป็นการคิกออฟการทำงานนโยบายอย่างจริงจังของพรรคหลังจากนี้
นายชัยธวัช ยังประเมินการทำงานของรัฐบาลหลังผ่านการเลือกตั้งมา 1 ปี ว่า ในสายตาพรรคฝ่ายค้านและสายตาของประชาชน คาดหวังจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทางเศรษฐกิจและการเมืองจากรัฐบาลชุดใหม่ แต่ต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดใหม่ยังสอบไม่ผ่าน จึงเป็นโจทย์สำคัญว่าหลังจากนี้ความเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ชัดเจนเป็นรูปธรรมนั้น รัฐบาลจะนำพาประเทศไปทางไหน ยุทธศาสตร์และโรดแมปจะเป็นอย่างไร ซึ่งรัฐบาลต้องพยายามมากกว่านี้
พร้อมระบุอีกว่า เมื่อจุดเริ่มต้นของรัฐบาลมีปัญหาเรื่องความชอบธรรมทางการเมือง ก็ยิ่งทำให้เป็นอุปสรรคต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่รัฐบาลต้องทำงานหนักขึ้น
อ่านข่าว
รทสช.ย้ำจุดค้านนิรโทษกรรม คนผิด มาตรา 112
มติ “ก้าวไกล” ไม่ส่งชิงนายกฯ อบจ.ปทุมธานี แข่ง “บิ๊กแจ๊ส”
วิป 3 ฝ่ายเคาะเปิดสภาวิสามัญถก “งบฯ ปี 68 – กม.ประชามติ” 18-21 มิ.ย.