วันนี้ (21 พ.ค.2567) นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ 40 สว.ร่วมลงชื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาการสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรี ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และนายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะพิจารณารับหรือไม่รับคำร้องในวันพฤหัสบดี ที่ 23 พ.ค.นี้ ว่า
การชี้แจงวันนี้ตนพูดในฐานะที่เป็นตัวของตัวเอง จากกรณีที่ 40 สว.ไปยื่นร้องผ่านประธานวุฒิสภา เพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งมี สว.หลายฝ่ายออกมาท้วงติงถึงประเด็นความชอบธรรมและอำนาจตามกฎหมาย
แต่สิ่งที่ตนจะชี้แจงในวันนี้ในฐานะที่ตนทำงานแบบมืออาชีพ จะขอพูดถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่จะตั้งคณะรัฐมนตรี หรือปรับคณะรัฐมนตรี มองว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้มีความผิดอะไร ไม่ได้ทำอะไรผิดแผกแตกต่าง จากนายกรัฐมนตรีคนอื่นในอดีต
ซึ่งการจะตั้งคณะรัฐมนตรี บุคคลที่มีชื่อเป็นรัฐมนตรีเช่นตนจะต้องไปกรอกเอกสาร เพื่อรับรองคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ซึ่งทุกอย่างมีกระบวนการ ซึ่งตนก็ต้อง ไปกรอกข้อมูลว่า มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
ซึ่งเมื่อกรอกเสร็จ ถามว่านายกรัฐมนตรีจะเชื่อหรือไม่ ท่านก็ไม่เชื่อ แต่จะมีกระบวนการทางการบริหารราชการแผ่นดิน โดยจะมีสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นหน่วยงานมืออาชีพ ช่วยใครไม่ได้ และไม่มีทางช่วยตน
เมื่อรับเอกสารบุคคลที่เป็นรัฐมนตรีก็จะไปตรวจสอบ ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ป.ป.ช. กรมบังคับคดี มีวิธีการตรวจว่าผู้ใดทำผิดประมวลกฎหมายอาญาทุกหมวดหรือไม่ และจะขึ้นอยู่ในทะเบียนประวัติอาชญากร
“เวลาที่เขาประมวลว่าใครซื่อสัตย์ มีจริยธรรมหรือไม่ ไม่ได้ดูเพียงสำนักงานกฤษฎีกาเพียงอย่างเดียว ในฐานะที่ตนกำกับก็ต้องออกมาให้ความเป็นธรรมกับเขา ว่าต้องดูทุกเรื่อง อะไรที่ถือเป็นข้อสงสัยก็จะถามไปยังกฤษฎีกา”
นายพิชิต ระบุว่า นายเศรษฐาตั้งใจทำงาน พูดจากใจอย่างไม่อายว่าตนเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรี และเคยเป็นองครักษ์พิทักษ์หลายนายกรัฐมนตรีมาแล้ว จึงอยากให้เอาความจริงมาพูดกัน ไม่มีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง
อ่านข่าว : เลขาฯกฤษฎีกา งงเอกสารหลุด ปมแจงคุณสมบัติ “พิชิต”
นายพิชิต ยังระบุอีกว่า นายกรัฐมนตรี ทำตามกระบวนการทางกฎหมายและสุดท้ายก็จะมาสรุปว่าตกลงตั้งใครได้หรือไม่ได้ หากตั้งไม่ได้ก็ไม่ฝืนตั้ง ก็ต้องทำความเข้าใจกับพรรคร่วมรัฐบาล
“ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไร ไม่ได้มาเพราะท่านคนนั้นคนนี้ มาพร้อมสติปัญญามีสมองที่จะทำงาน ถ้าตนทำผิด ทำชั่ว คงไม่มายืนตรงจุดนี้ พร้อมขอให้นายเศรษฐา ได้ปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะหัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน ที่ท่านแถลงไว้ตอนรัฐสภา”
ขณะเดียวกันนายพิชิต ยังระบุอีกว่า โดยกระบวนท่านไม่มีสิทธิ์ใช้ดุลยพินิจคิดเองทำเอง ตนทำงานกับนายกรัฐมนตรีมา 6-7 เดือนไม่เคยประจบสอพลอ พร้อมกับระบุว่า การตั้งคณะรัฐมนตรีในครั้งแรก คนเคยถอนตัวไม่รับตำแหน่ง อยากให้บ้านเมืองเดินหน้า เมื่อฟอร์มรัฐบาลเรียบร้อยแล้วอยากใช้ตนทำงาน ก็ตั้งให้ตนเป็นรัฐมนตรี
ขณะเดียวกัน นายพิชิตยังมองว่า เป็นวาระวงจรอุบาทว์ ท่านบริหารประเทศอยู่ดีๆ แล้วทำให้เกิดการกระทำอย่างนี้ ให้ผู้นำประเทศต้องหลุดออกจากตำแหน่ง ด้วยวิธีการเช่นนี้
อ่านข่าว : 40 สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอน “เศรษฐา” ปมแต่งตั้ง “พิชิต”
ส่วนข่าวลือเมื่อวานนี้เรื่องลาออกจากตำแหน่ง นายพิชิตกล่าวยืนยันว่า ไม่ยึดติดผลประโยชน์ของตน ยึดมั่นของรัฐธรรมนูญมาตรา 164 ว่า เป็นรัฐมนตรีต้องซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ พร้อมยืนยันมาทำงานไม่ได้มาโกง เพราะฉะนั้นคำตอบแก้วงจรอุบาทว์ ถ้ามองว่าลาออกแล้วทุกอย่างจบ ก็จะทำให้
“ขอพูดต่อหน้าพระสยามเทวาธิราช ในองคาพยพกระบวนการยุติธรรม ให้ไปคิดมา โจทย์ที่เกิดวงจรอุบาทว์ นี่เป็นเกมการเมืองที่พยายามล้มนายเศรษฐา”
เมื่อถามตอบว่าหากลาออกแล้วจะทำให้นายเศรษฐาสามารถอยู่ต่อได้จะทำหรือไม่ นายพิชิต ระบุว่า อันนี้ตนถึงบอกว่ามีเงื่อนไข เพราะวงจรอุบาทว์เล่นแบบนี้ วันนี้บ้านเมืองปกติ มีนายกรัฐมนตรี แล้วทำให้บ้านเมืองยุ่งเหยิง ไม่มีนายกรัฐมนตรีพร้อมกับยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับ นายกรัฐมนตรีแต่อย่างใด เราไม่อยากทำให้นายกรัฐมนตรีหนักใจ
เมื่อถามว่าจะไม่ลาออกก่อนถึงวันที่ 23 พ.ค.ใช่หรือไม่ นายพิชิตไม่ตอบคำถามนี้แต่ระบุว่า บางคนก็อยากให้ผมอยู่บางคนก็อยากให้ผมออก แต่ตนอยากจะขอโยนโจทย์ไปว่า บ้านเมืองตนไม่ได้ดูแลคนเดียว ตนจึงใช้คำว่าวงจรอุบาทว์ พร้อมขอให้มาดวลกับพิชิตคนเดียว เอานักกฎหมายมา 3 คน และ 40 สว. แบบตัวต่อตัว ที่ลงชื่อไปอ่านคำสั่งศาลฎีกาแล้วหรือไม่ และไม่ขอ ก้าวล่วงไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังของ 40 สว.แต่มีกระบวนการ เมื่อถามว่าเป็นกระบวนการ ต้องการล้มนายกรัฐมนตรีใช่หรือไม่ตนไม่ขอกล่าวหาแต่ข้อมูลเป็นเช่นนั้น
เมื่อถามอีกว่าวงจรอุบาทว์ หมายถึงกลุ่มอำนาจเก่าใช่หรือไม่ นายพิชิตระบุว่าไม่ขอตอบคำถามนี้ ให้พิจารณากันเอาเอง ส่วนการปล่อยข่าวว่านายพิชิต ลาออกจากตำแหน่งจะเป็นการเจาะยางรัฐบาลหรือไม่ก็ขอให้ไปคิดกันเอาเอง
อ่านข่าว :
“พิชิต” ปัดชิงลาออก หลัง 40 สว.ชงสอบคุณสมบัติ ยันทำงานปกติ
“เศรษฐา” โชว์ “ผ้าข้าวม้า” ทัวร์กรุงโรมหนุน OTOP ไทยสู่อินเตอร์