หน้าแรก Thai PBS “เศรษฐา” โชว์ “ผ้าข้าวม้า” ทัวร์กรุงโรมหนุน OTOP ไทยสู่อินเตอร์

“เศรษฐา” โชว์ “ผ้าข้าวม้า” ทัวร์กรุงโรมหนุน OTOP ไทยสู่อินเตอร์

41
0
“เศรษฐา”-โชว์-“ผ้าข้าวม้า”-ทัวร์กรุงโรมหนุน-otop-ไทยสู่อินเตอร์

วันนี้ (21 พ.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศอิตาลี ฝรั่งเศสตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีโพสต์ผ่าน X พร้อมด้วยลุคแบบสบายๆ ใส่เสื้อเชิ๊ตและกางเกงยีนส์

โดยระบุว่า เลือกสวมเชิ้ตซึ่งตัดจากผ้าขาวม้าสีธงชาติไทย ของกลุ่มแปรรูปผ้าขาวม้านุชบา จ.อำนาจเจริญ เดินในกรุงโรม 

ผ้าขาวม้าผืนนี้ ผลิตจากชุมชนคนทอผ้า จ.อำนาจเจริญ ซึ่งจะทอผ้าขาวม้าซึ่งเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ ช่วงเว้นว่างจากการทำนาเพื่อหารายได้เสริม ใครที่สนใจผ้าแบบเดียวกับผม สามารถซื้อหากันได้ที่ศูนย์ OTOP จ.อำนาจเจริญ กรุงเทพมหานครมีจำหน่ายที่ King Power หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เพจ facebook นุชบา OTOP 

พาผ้าขาวม้าไทย มาอวดสายตาชาวอิตาลี และนักท่องเที่ยวถึงกลางกรุงโรมแล้วครับ

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.ที่ผ่านมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเยือนอิตาลีอย่างเป็นทางการ โดยเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงาน Zegna บริษัทแบรนด์แฟชั่นของอิตาลีขนาดใหญ่ และมีชื่อเสียงสำคัญ เป็นบริษัทผลิตผ้าทั้ง Wool Cashmere ผ้าฝ้าย ผลิตให้บริษัทใหญ่หลายแบรนด์ดัง เช่น Dior Hermes 

นายกรัฐมนตรี ได้นำผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามจาก จ.สกลนคร มาเสนอ ซึ่งทางบริษัทจะส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ไปสำรวจว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะนำผ้าย้อมครามมาผลิตภายใต้แบรนด์ของเขา เพื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์มาขายในระดับโลก

อ่านข่าว “เศรษฐา” เยือน Zegna แบรนด์แฟชันดัง ขายผ้าย้อมครามสู่อินเตอร์

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้ระบุถึงการหารือกับ Formula One Group โดยระบุว่า เพื่อดึง F1 มาแข่งที่ไทย จากการหารือประเทศไทยมีโอกาสและศักยภาพที่จะจัดการแข่งขัน F1 ทั้งแบบ Race Circuit หรือ Street/Road Circuit เพราะโดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครที่มีทัศนียภาพสวยงาม

ในการจัดงานแข่งเอง จะต้องมีการปรับปรุง ก่อสร้าง ต่อเติม ทั้งปรับปรุงถนนให้รองรับการแข่งขันได้ การสร้างที่นั่งชม Pit Stop การติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้าน Electronic & Digital เกิดการจ้างงานจำนวนมาก เกิดรายได้ และเกิดการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน เพราะทั้งหมดจะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างทีม F1 และผู้ประกอบการไทย เช่นเดียวกับการจ้างงานทั้งแบบ Temporary และ Full-time ที่จะมาทำงานในอุตสาหกรรม Motor Sport นี้

จะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ทั้งการบริหารจัดการ การวางแผนกลยุทธ์ การจัดกิจกรรมต่าง ๆ จะเป็นประสบการณ์ระดับโลกที่คนไทยเราจะเข้าถึงยากหากเราไม่ได้มีการจัดการแข่งขัน F1 ในประเทศครับ

 

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่