‘วรรณา’อจคช. สุราษฎร์ เปิดเเชทหลักฐานเเจงยิบถึงโฆษกอัยการ หลังถูกทนายดังพาดพิงออกสื่อไม่ให้ความร่วมมือ พม.ยื่นคำร้องศาลเยาวชนฯปมลัทธิเชื่อมจิต ชี้ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ โดยตรงที่ผ่านมาให้ความร่วมมือปรึกษากฎหมายเคสนี้มาตลอด ลั่นหากยังไม่หยุดพาดพิง โดนดำเนินคดีเเน่
วรรณา วิพลชัย อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์สุราษฎร์ธานี (อจคช.)ได้มีหนังสือถึง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดรายงานกรณี อนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ได้กล่าวในรายการทีวีรายหนึ่งโดยมีใจความบางส่วนว่า อัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯจังหวัดสุราษฎร์ธานี ไม่ให้คำปรึกษา ไม่ให้ความช่วยเหลือแก่พม.และไม่แนะนำพม.ในการยื่นคำร้องต่อศาลในกรณีลัทธิเชื่อมจิตนั้น ดิฉันนางวรรณา วิพลชัย ขอยืนยันว่าคำกล่าวของนายอนันตชัยดังกล่าวข้างต้นไม่เป็นความจริง โดยดิฉันขอชี้แจงดังนี้
1.หน้าที่หลักของอัยการคุ้มครองสิทธิฯคือการช่วยเหลือและให้คำปรึกษาแก่ประชาชนมิใช่หน่วยงานของรัฐและไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในคดีเยาวชน ยิ่งไปกว่านั้นดิฉันมิได้มีตำแหน่งอยู่ในคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามพรบ.คุ้มครองเด็ก พศ. 2546 ส่วนสำนักงานอัยการที่ให้คำปรึกษากฎหมายแก่หน่วยงานของรัฐนั้นเป็นสำนักงานอัยการอื่นซึ่งมีอยู่หลายสำนักงานขึ้นอยู่กับประเภทของคดี อย่างเช่นในกรณีลัทธิเชื่อมจิตนี้สำนักงานอัยการคดีเยาวชนฯจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการให้คำปรึกษาและยื่นคำร้องในกรณีนี้
2.แม้ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงแต่ดิฉันในฐานะอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายฯจังหวัดสุราษฎร์ธานี(อัยการจังหวัด สคช )ก็ให้คำปรึกษาแก่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี(พม.)ด้วยความเต็มใจและเต็มกำลังความสามารถมาโดยตลอดทุกครั้งที่ได้รับการร้องขอจากพม. และเคยแจ้งให้พม.ทราบแล้วว่า อัยการคุ้มครองสิทธิฯจังหวัดสุราษฎร์ธานีสนับสนุนให้พม.ใช้อำนาจศาลในการแก้ปัญหาลัทธิเชื่อมจิตโดยอัยการคุ้มครองสิทธิฯจังหวัดสุราษฎร์ธานีพร้อมให้คำปรึกษาในการยื่นคำรองต่อศาล เพียงแต่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิฯจังหวัดสุราษฎร์ธานีไม่มีอำนาจตามกฎหมายในการยื่นคำร้องเอง
3.ดิฉันได้ประสานงานและพูดคุยให้คำปรึกษากับพม.และรองอธิบดี พม. มาโดยตลอดบางครั้งใช้เวลาพูดคุยประมาณ 1 ชั่วโมงโดยการติดต่อทางทางไลน์และวีดีโอคอล แม้จะอยู่นอกเวลาราชการดิฉันก็ให้คำปรึกษาแนะนำข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการยื่นคำร้อง นอกจากนี้ดิฉันได้ชี้แจงข้อกฎหมายและพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในการยื่นคำร้องพร้อมส่งคลิปที่จะใช้แนบในการยื่นคำร้องให้พม.ด้วย เจ้าหน้าที่พม.เคยแจ้งกับดิฉันว่าพม.จะส่งคำร้องที่จะยื่นคำร้องกับศาลมาให้ดิฉันตรวจ แต่สุดท้าย พม.ก็ไม่ได้ส่งคำร้องใดๆมาให้ดิฉันตรวจ จนกระทั่งดิฉันทราบต่อมาว่าพม.ได้ยื่นคำร้องต่อศาลด้วยตนเองแล้วตามที่ปรากฎเป็นข่าว รายละเอียดปรากฎตามข้อความทางแชทไลน์ที่ได้แนบมาด้วยแล้ว
4.ดิฉันขอยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิเชื่อมจิตเพราะโดยส่วนตัวไม่เชื่อในเรื่องไสยศาสตร์
5.หากทนายอนันต์ชัยยังไม่หยุดกล่าวพาดพิงดิฉัน ดิฉันจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาต่อไป
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เพจที่ชอบปล่อยข่าวลือในเฟซบุ๊คยังได้มีการนำภาพของนางวรรณาที่มีเบลอหน้าบางๆพร้อมใส่ชื่อตำเเหน่งของนางนางวรรณาลงในเพจเเละประชาชนเข้ามาวิจารณ์จำนวนมาก