จัดหนัก จัดเต็ม เตรียมแผนรับมือสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดน เมื่อกองทัพภาคที่ 3 โชว์ความพร้อม ซ้อมรบด้วยกระสุนจริงที่สนามฝึกทางยุทธวิธีที่ จ.สุโขทัย เมื่อ “บิ๊กทิน” สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เป็นประธานฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงในการปฏิบัติการร่วมกองทัพอากาศ (ทอ.) กับ กองทัพบก (ทบ.) เป็นการการฝึกตามวงรอบประจำปี ของหน่วยระดับกองพันของกองพลทหารม้าที่ 1 (พล.ม.1) มีการทดสอบการใช้กำลังของ ทอ.
กำลังทางบก ประกอบด้วย รถถังเบา 32 (Stingray) จำนวน 30 คัน, รถสายพาน M113 จำนวน 16 คัน, ปืนใหญ่ 105 มม. จำนวน 6 กระบอก, เครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด 120 มม.จำนวน 6 กระบอก และกำลังพล จำนวน 600 คน.
ส่วนกำลังทางอากาศ ประกอบด้วย อากาศยานไร้นักบิน DA-42 จำนวน 1 เครื่อง, เครื่องบิน F-16 จำนวน 4 เครื่อง, เครื่องบิน T-50 จำนวน 3 เครื่อง, เฮลิคอปเตอร์ แบบ EC-725 จำนวน 2 เครื่อง, ชุดผู้ควบคุมอากาศยานหน้า และชุดควบคุมการรบ จำนวน 20 คน โดยกองบัญชาการกองทัพไทยได้สนับสนุนระบบเชื่อมต่อข้อมูลการสนับสนุนทางอากาศ หรือ RPASS (RTARF Portable Air Support System) แสดงข้อมูลเป้าหมายและคำร้องขอของกองกำลังภาคพื้นบนแผนที่ดิจิทัล
นอกจากนี้ยังมีการจำลองเหตุการณ์การฝึก โดยกำหนดประเทศแดงสั่งกวาดล้างชนกลุ่มน้อยและกลุ่มต่อต้านในพื้นที่ด้านตรงข้ามของ ประเทศน้ำเงิน และไล่ติดตามรุกล้ำเข้ามาภายในประเทศน้ำเงิน โดยกองกำลังนเรศวรได้ปฎิบัติตามแผนเผชิญเหตุใช้กองร้อยเตรียมพร้อมของทางกองกำลังผลักดันกำลังของประเทศแดง
แต่ไม่สามารถผลักดันได้เนื่องจากข้าศึกมีการสนับสนุนกำลังเข้ามา ทางศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 3 จึงได้สั่งการให้กองพันที่ 1 จัดกองกำลังทหารม้าเฉพาะกิจปฎิบัติตามแผนประเชิญเหตุ และเคลื่อนย้ายกำลังตามแผนประเชิญเหตุ โดยกองทัพอากาศได้ส่งเครื่องบินสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ
จากฝึกซ้อมเสร็จสิ้น “บิ๊กทิน” สุทิน บอกว่า เป็นการฝึกสถานการณ์จำลองที่ใกล้เคียงกับสถานการณ์จริงมากที่สุด พอใจกับการฝึกในครั้งนี้ และเหล่าทัพมีศักยภาพอยู่แล้ว วันนี้ยังไม่พบข้อผิดพลาด เพราะมีประสิทธิภาพสูง เป็นที่น่าพอใจ
การฝึกในวันนี้ ผมก็อยากให้เต็ม 10 แต่ต้องผลการประเมินหลังการฝึก แต่ที่เห็น ในวันนี้ประสบความสำเร็จสูง แต่การพูดเช่นนี้ ก็ไม่ใช่เป็นการเอาใจกองทัพ ผมชื่นชมจริงๆ “บิ๊กทิน หยอดคำหวานตามสไตล์
เสียรังวัดไม่น้อย นับตั้งแต่ “บิ๊กวี” พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เข้ารับตำแหน่งเจ้ากระทรวงตาชั่ง และเกิดคดี “แป้ง นาโหนด” หรือ เชาวลิต ทองด้วง นักโทษเรือนจำกลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดปฏิบัติการอุกอาจ แหกคุกหลบหนีจากการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ในระหว่างรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2566 พฤติกรรมการหลบหนีของเสี่ยแป้ง ถือว่าไม่ธรรมดามีการวางแผนเป็นขั้นตอน มีผู้ร่วมก่อเหตุหลายคน ที่สำคัญมีเจ้าหน้าที่เรือนจำรู้เห็นเป็นใจด้วย
แม้ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจละราชทัณฑ์จะไล่ล่าควานตามหาเสี่ยแป้ง แทบจะปิดเทือกเขาบรรทัด แต่ก็ไม่เจอ เวลาผ่านไปนาน 7 เดือน จู่ ๆ ช่วงสายวันนี้ (30 พ.ค) “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน ก็โพสต์ x โดยระบุว่า ตำรวจอินโดนีเซียจับ “เสี่ยแป้ง” ได้ที่เกาะบาหลี ซึ่ง “บิ๊กวี” พ.ต.อ.ทวี บอกว่า วันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) หลังรับตัวกลับมาไทย ก็ถูกดำเนินคดี โดยจะส่งตัวเข้าเรือนจำต่อไป เนื่องจากยังอยู่ในอำนาจควบคุมของกรมราชทัณฑ์
“ควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำความมั่นคง หรือ แยกขังเดี่ยวหรือไม่ ขอให้เป็นดุลพินิจของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ส่วนจะมีการพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทั้ง ข้อหาหลบหนีไปจากการคุมขัง ใช้พาสปอร์ตปลอม และอื่น ๆ ตำรวจจะรับผิดชอบ” พ.ต.อ.ทวี บอก
ส่วนประเด็นที่ทำให้เสี่ยแป้งต้องลิ้นลายเสือนั้น ทีมสืบสวนมีข้อมูลตรงกันว่า พบผู้หญิงบินไปหาเสี่ยแป้งหลายคน …และไม่ใช่คนในครอบครัว …จนมุมเพราะนารีแท้ ๆ
เลือดไหลไม่หยุด หลังจาก เสี่ยต่อ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพิ่งประกาศต่อหน้าชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างลงพื้นที่พบปะชาวบ้านและสมาชิกพรรคใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ค. พร้อมลั่นวาจา จะไม่ส่งเสาไฟฟ้าลง สส.ภาคใต้ โดยกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่ให้พรรคฯจับต้องได้ของประชาชน ทำงานมากกว่าโม้ ยังไม่ทันข้ามวัน “ราเมศ รัตนะเชวง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่ระบุสาเหตุ แจ้งเพียงขอประสงค์ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 28 พ.ค.2567
ว่ากันว่า การลาออกของ “ราเมศ” แจ้งพียง “นายชวน หลีกภัย” อดีตหัวหน้าพรรค ในขณะที่ทีมงานโฆษกไม่ทราบเรื่อง โดยขณะนี้ “ราเมศ” ได้เข้าบรรพชาอุปสมบทที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม โดยไม่มีกำหนดลาสิกขาบท
และหาก “ราเมศ” ไม่กลับมา ต้องจับตามองว่า ค่าย ปชป.จะได้ใครมานั่งตำแหน่งโฆษก ทำหน้าที่ปะฉะดะ แทน
ต่อสายตรง มท.หนู “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ควงคู่ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เพื่อวางมาตรการป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบ ไปจนถึงแนวทางการแก้ปัญหาในพื้นที่ ซึ่งต้องบูรณาการงานร่วมกันระหว่างฝ่ายปกครอง และฝ่ายความมั่นคง โดยเดินทางไปโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ และ อส.อาซูวัน เปาะจิ ชุดคุ้มครองครู ซึ่งถูกคนร้าย ลอบวางระเบิด ที่ จ.นราธิวาส และ จ.ส.ต.วรวิทย์ ณะรัตตะ เจ้าหน้าที่ควบคุมและต่อต้านวัตถุระเบิด (อีโอดี) ซึ่งเหยียบวัตถุระเบิดขณะเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จนเสียขาทั้ง 2 ข้าง
หลังเข้าเยี่ยมผู้ป่วย มท.หนู “อนุทิน” ได้โทรหา “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เจ้ากระทรวงพญานาค เพื่อขอให้บรรจุภรรยาของ ตร.อีโอดี ซึ่งเป็นพนักงานกรมชลประทาน ให้เป็นข้าราชการประจำ… โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้โทรกลับแจ้งทันทีว่า จะเร่งบรรจุให้เร็วที่สุด
อ่านข่าว : “วิษณุ” ปัดตระบัดสัตย์ นั่งที่ปรึกษาของนายกฯ
