หน้าแรก Thai PBS “รังสิมันต์” แนะจับตา “เศรษฐา” ตั้ง “วิษณุ” เป็นที่ปรึกษา หวังรอดคดีศาล รธน.

“รังสิมันต์” แนะจับตา “เศรษฐา” ตั้ง “วิษณุ” เป็นที่ปรึกษา หวังรอดคดีศาล รธน.

86
0
“รังสิมันต์”-แนะจับตา-“เศรษฐา”-ตั้ง-“วิษณุ”-เป็นที่ปรึกษา-หวังรอดคดีศาล-รธน.

วันนี้ (31 พ.ค.2567) นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ว่า ต้องมองว่าที่ผ่านมาคืออะไร ซึ่งมีข้อท้วงติงมาตลอดของปัญหาด้านกฎหมายต่าง ๆ

แสดงว่า สิ่งที่หลายฝ่ายตั้งคำถามว่า พรรคเพื่อไทยขาดมือกฎหมาย ขาดคนที่จะให้ความเข้าใจในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อผลักดันนโยบาย มันอาจจะขาดจริง ๆ เป็นเรื่องที่เข้าใจถูกต้อง สุดท้ายไม่รู้จะเอาใครต้องไปยืมมือ นายวิษณุ เหมือนเดิม

“พูดง่ายๆ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็ยืมมือนายวิษณุ รัฐบาลนายเศรษฐาก็ยืมมือนายวิษณุ สุดท้ายไหนบอกว่า มีความพร้อมในการบริหารงาน บริหารประเทศ ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องของเหล้าเก่าในขวดใหม่ ไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิม ในเรื่องนี้ทำให้เห็นว่า รัฐบาลนายเศรษฐาขาดเอกภาพ ไม่มีความพร้อมในด้านการบริหารงานจริง ๆ สุดท้ายก็ต้องใช้บริการในวิษณุที่มีส่วนช่วยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น”

ส่วนมองว่า เป็นเรื่องใหญ่ของรัฐบาลหรือไม่ ที่ขาดมือกฎหมาย นายรังสิมันต์กล่าวว่า เป็นเรื่องใหญ่ ทำให้เกิดคำถามว่า ที่ผ่านมาปัญหาข้อกฎหมายมีอยู่จริงหรือไม่ ก็ถือเป็นประเด็น แต่ที่เป็นประเด็นใหญ่ คือรัฐบาลนายเศรษฐา

โดยเฉพาะนายเศรษฐา วิพากษ์วิจารณ์นายวิษณุ ในหลายโอกาส แต่ถึงเวลาทำเหมือนว่า เรื่องเหล่านั้นไม่เคยเกิดขึ้น ไปบอกว่า เป็นเรื่องของความ ไม่ใช่เรื่องของคน ตนบอกว่าเป็นวิธีการที่จะหลบเลี่ยง สุดท้ายอาจจะไม่ใช่ ให้มาดูแค่เรื่องกฎหมายในคณะรัฐมนตรี

นายเศรษฐาจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ ผมกำลังถูกแขวนอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ที่พูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าสนับสนุน ในสิ่งที่นายเศรษฐาโดน ผมบอกว่า การเมืองควรแก้ด้วยการเมือง แต่ปัญหาคือ จุดนั้นหรือไม่ที่ทำให้ต้องเชิญนายวิษณุเข้ามา ผมเชื่อว่าสังคม จำนวนไม่น้อยก็จะตั้งคำถามว่า การที่นายวิษณุเข้ามา คือมีภารกิจทำให้นายเศรษฐารอดจากคดีในศาลรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามย้ำว่า มองว่าไม่ใช่ให้นายวิษณุเข้ามาเพื่อกลั่นกรองกฎหมาย ก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า ทางปฏิบัติจะทำได้แค่ไหน เพราะนายวิษณุก็สุขภาพไม่ดี ซึ่งอาจจะช่วย แต่ช่วยร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ตนตอบไม่ได้

แต่สิ่งที่มองคือ นายเศรษฐาไม่ไว้วางใจฝ่ายกฎหมายของพรรคเพื่อไทยอีกแล้ว จึงทำให้ไม่รู้จะไปหาทางออกอย่างไร จึงต้องไปยืมเนติบริกร ที่มีผลงานในหลายรัฐบาล คือนายวิษณุ พูดง่าย ๆ ก็คือการันตีของแทร่

ส่วนจะกระทบกับเครดิตของพรรคเพื่อไทย และนายเศรษฐาหรือไม่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องดูว่านายเศรษฐามีเครดิตมากแค่ไหน ตนขอให้ชวนคิด ตนไม่อยากจะให้ความเห็นตรงนั้นมาก

วันนี้สังคมก็มองรัฐบาลพรรคเพื่อไทย จับมือกับหลายพรรคการเมืองที่เคยร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์มาก่อน และเป็นพรรคของ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยซ้ำ พอมาวันนี้มาตั้งนายวิษณุ แม้จะไม่ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ต้องยอมรับว่า มีบทบาทคล้ายรองนายกรัฐมนตรี ทำให้คนในสังคม มองว่า คนในรัฐบาลนี้ไม่ต่างจากรัฐบาลเดิมสักเท่าไหร่

แล้วที่เคยพูดว่า มีความพร้อมในการบริหารงาน ยังพร้อมบริหารงานอยู่หรือไม่ สุดท้ายจะเกิดคำถามเรื่องความเป็นเอกภาพภายในพรรคเพื่อไทย ว่า นายเศรษฐาไม่เชื่อมือนายชูศักดิ์ ศิรินิล มือกฎหมายของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ จึงต้องนำนายวิษณุเข้ามาเป็นเนติบริกร

ส่วนการตั้งนายวิษณุจะทำให้เกิดผลดีต่อคะแนนนิยมของพรรคก้าวไกลหรือไม่ นายรังสิมันต์ มองว่า พรรคก้าวไกลโฟกัสในเรื่องของการทำงาน เหมือนที่ตอนนี้ตนกำลังทำหน้าที่กรรมาธิการความมั่นคง

จะบอกว่า เป็นเรื่องของพรรคก็ไม่ใช่ แต่เป็นหน้าที่ของกรรมาธิการ เราต้องพยายามทำหน้าที่ของเราตรงนี้ให้ดี เราเป็นสมาชิกของพรรคก้าวไกล เราก็พยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในทุกจุด เราคงไม่ได้ไปรอว่าใครก้าวพลาด หรือพลาดพลั้งอะไร เราไม่สนใจตรงนั้น แต่เราสนใจเรื่องตัวเราเอง ในการทำงานมากกว่า แต่ถ้าเป็นประโยชน์กับประชาชนแล้วให้เครดิตกับพวกเรามันดีกับเราทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

อ่านข่าว : เช็กรายชื่อผู้สมัคร สว.2567 ทางเว็บไซต์-แอปฯสมาร์ทโหวต

โหลดฟรี! กทม. แจกฟอนต์อัตลักษณ์ “เสาชิงช้า” โซเซียล

“ทวี” เผยรับตัว “แป้ง นาโหนด” กลับรับโทษ ถึงไทยวันอาทิตย์นี้

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่