หน้าแรก Voice TV รัฐบาลทุ่ม 1,150 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อ IGNITE THAILAND หนุนเงินทุน 3 อุตสาหกรรม กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

รัฐบาลทุ่ม 1,150 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อ IGNITE THAILAND หนุนเงินทุน 3 อุตสาหกรรม กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

48
0
รัฐบาลทุ่ม-1,150-ล้านบาท-ปล่อยสินเชื่อ-ignite-thailand-หนุนเงินทุน-3-อุตสาหกรรม-กระตุ้นเศรษฐกิจไทย

เปิดรายละเอียดโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND (งบประมาณวงเงิน 1,150 ล้านบาท) หนุนเงินทุน 3 อุตสาหกรรม (ท่องเที่ยว – สุขภาพ – อาหาร) ระยะเวลากู้สูงสุด 10ปี วงเงินกู้สูงสุด 10 ล้านบาทต่อราย

จากผลการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 มีมติเห็นชอบโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ และได้อนุมัติงบประมาณวงเงิน 1,150 ล้านบาท จากงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND พร้อมมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ

โครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND เป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอสำหรับการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ กระทรวงการคลังจึงเสนอโครงการสินเชื่อ IGNITE THAILAND โดยมีสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และเงื่อนไขโครงการสรุปได้ ดังนี้

วัตถุประสงค์ : เพื่อสนับสนุนเงินทุนสำหรับเสริมสภาพคล่องหรือลงทุนปรับปรุง/ขยายกิจการให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND 3 กลุ่ม ได้แก่

– ศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub)

– ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) 

– ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub)

 กลุ่มเป้าหมาย :

1. ผู้ประกอบการ SME ที่เป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศซึ่งมีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนจดทะเบียน

2. เป็นผู้ประกอบธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้ 

2.1 ศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) 

2.2 ศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) 

2.3 ศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) 

2.4 เป็น Supply Chain ของธุรกิจ ตามข้อ (2.1) – (2.3)

3. ประกอบกิจการมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี และปัจจุบันยังประกอบกิจการ

4. มีความสามารถในการชำระหนี้ตามที่ธนาคารออมสินกำหนด

ทั้งนี้ เป็นการให้สินเชื่อใหม่แก่ลูกค้าเดิมหรือลูกค้าใหม่ และไมใช่ลูกหนี้ที่โอนหนี้ (Refinance)

วงเงินสินเชื่อโครงการ : 5,000 ล้านบาท สำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่ม ดังนี้

1 กลุ่มศูนย์กลางการท่องเที่ยว (Tourism Hub) วงเงิน 1,500 ล้านบาท

2 กลุ่มศูนย์กลางการแพทย์และสุขภาพ (Wellness & Medical Hub) วงเงิน 1,500 ล้านบาท

3 กลุ่มศูนย์กลางอาหาร (Agriculture & Food Hub) วงเงิน 2,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารออมสินสามารถจัดสรรวงเงินในแต่ละกลุ่มได้ตามความเหมาะสม

วงเงินสินเชื่อต่อราย : ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาท

ระยะเวลากู้ยืม : ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี ปลอดชำระเงินต้น (Grace Period) สูงสุดไม่เกิน 6 เดือน

ระยะเวลาการดำเนินงาน : ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบจนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อรวมในโครงการจะหมด แล้วแต่ระยะเวลาใดจะถึงก่อน โดยให้ธนาคารออมสินเบิกจ่ายสินเชื่อให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2569

การค้ำประกันสินเชื่อของ บสย.

1 วงเงินค้ำประกันรวม 5,000 ล้านบาท

2 วงเงินค้ำประกันต่อรายไม่เกิน 10 ล้านบาท ทั้งนี้ อยู่ภายใต้ข้อกำหนดหลักเกณฑ์การค้ำประกันสินเชื่อต่อรายและต่อกลุ่มลูกค้า (Single Guarantee Limit: SGL) ของ บสย. และการยื่นขอให้ค้ำประกันขั้นต่ำครั้งละไม่น้อยกว่า 200,000 บาท

3 อายุการค้ำประกันไม่เกิน 10 ปี

4 ระยะเวลารับคำขอค้ำประกันนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568

5 ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันในอัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี ของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อตลอดอายุการค้ำประกัน โดยรัฐบาลจ่ายค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อแทนผู้ประกอบการ SMEs ในปีที่ 1 – 2 อัตราร้อยละ 1.75 ต่อปี และปีที่ 3 – 4 อัตราร้อยละ 1 ต่อปี

6 บสย. จะจ่ายค่าประกันชดเชยตลอดการค้ำประกันสินเชื่อไม่เกินค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อที่ได้รับจากผู้ประกอบการ SMEs รวมกับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาล รวมทั้งโครงการไม่เกินร้อยละ 30

กรอบวงเงินงบประมาณ : รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 1,150 ล้านบาท ประกอบด้วย

1 ธนาคารออมสินขอรับงบประมาณชดเชยจากรัฐบาล เพื่อชดเชยต้นทุนเงินในอัตราร้อยละ 2.5 ต่อปี เป็นระยะเวลา 2 ปี รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 250 ล้านบาท (วงเงิน 5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 2.5 ต่อปี * 2 ปี) โดยธนาคารออมสินจะทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอรับการจัดสรรงบประมาณเป็นรายปีตามความเหมาะสมและความจำเป็นต่อไป

2 บสย. ขอรับงบประมาณชดเชยจากรัฐบาล รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 900 ล้านบาท ประกอบด้วย 1) ชดเชยการจ่ายค่าประกันชดเชยเป็นเงินไม่เกิน 625 ล้านบาท (5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 12.5) และ 2) ชดเชยค่าธรรมเนียมการค้ำประกันสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs เป็นเงินไม่เกิน 275 ล้านบาท (5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 1 * 2 ปี + 5,000 ล้านบาท * ร้อยละ 1.75 * 2 ปี)

ประโยชน์ 

1 สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs ในกลุ่มอุตสาหกรรมตามวิสัยทัศน์ IGNTE THAILAND ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบสถาบันการเงินได้อย่างเพียงพอ สำหรับการพัฒนาศักยภาพในการดำเนินธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาล ซึ่งจะเป็นเป็นกลไกในการขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ IGNITE THAILAND ของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม

2 มีผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1,660 ราย (วงเงินสินเชื่อเฉลี่ย 3 ล้านบาทต่อราย)

3 ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท (1 เท่า)

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่