ยังไม่ถึงจุดตาย และอาจได้ต่อลมหายใจอีกหลายเฮือก สำหรับ 4 คดี ดังในวันพรุ่งนี้ (18 มิ.ย.) เป็นคดีที่อยู่ในอำนาจการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 3 คดี คือ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย คดี 4 มาตรากฎหมายเลือก สว.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ สำหรับคดีนี้ศาลจะลงมติเลย เนื่องจากเป็นปัญหาด้านข้อกฎหมาย และมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยแล้ว
ส่วนคดียุบพรรคก้าวไกล หลังศาลมีคำสั่งให้ กกต. ยื่นบัญชีระบุพยานหลักฐานเพิ่มเติมในวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา และวันพรุ่งนี้ก็จะทราบว่า ศาลจะเปิดบัลลังก์ไต่สวนพยานหรือไม่ และคดีพิจารณาหลักฐานคดีจริยธรรมนายกฯ กรณีประธานวุฒิสภาส่งคำร้องของ 40 สว. ขอให้วินิจฉัยว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายกนิดฯ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี และ “นายพิชิต ชื่นบาน” รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
และอีกหนึ่งคดีสำคัญ คือ คดีที่อัยการสูงสุด (อสส.) ต้องนำตัว “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งฟ้องศาลอาญา คดีมาตรา 112 และหาก “ทักษิณ” เดินทางไปพบอัยการตามกำหนดนัด โดยไม่เลื่อน คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะได้รับการประกันตัว…ทั้ง 4 คดีใหญ่ ถือว่า มีส่งผลสะ เทือนระดับสูงต่อทิศทางและอนาคตการเมืองไทยในระดับชาติว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป
ส่วนการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก (สว.) มีคนดี-เด่น-ดัง ที่ฝ่าด่านเข้ามาได้จำนวนไม่น้อย ทั้ง อังคณา นีละไพจิตร, ครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ, ดร.แล ดิลกวิทยารัตน์, หมอเปรม “นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ”, สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, ผู้ว่าปู “วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี“, พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรอง ผบ.ตร. และ ดร.นันทนา นันทวโรภาส
และก็มีอีกหลายคนที่ชวดไปไม่ถึงดวงดาว เช่น “อี้” แทนคุณ จิตร์อิสระ, วีระ สมความคิด, สมชัย ศรีสุทธิยากร, จักรพันธุ์ ยมจินดา, ยุทธพิชัย ชาญเลขา และฯลฯ การเลือกตั้ง ไม่ว่าด้วยวิธีการใด ย่อมมีแพ้และชนะ และไม่ว่าจะเป็นจากเหตุปัจจัยใดก็ตาม
ที่แน่ ๆ คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.)ได้สรุปผลเลือก สว. 77 จังหวัดแล้ว มีผู้ผ่านสู่รอบระดับประเทศ 3,000 คน ชาย 2,164 คน หญิง 836 คน ผู้สมัครไม่มารายงานตัว 497 คน จากจำนวนผู้สมัครที่เพิ่ม-ถอนชื่อแล้วทั้งหมด 23,561 คน
กลับมาที่สนามการเมืองท้องถิ่นในย่านปริมณฑล ก็ร้อนแรงใช้เล่น หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” ไปเยือน จ.ปทุมธานี เพื่อหวังโกยคะแนนจากคนเสื้อแดงเพื่อช่วย “ชาญ พวงเพ็ชร์” ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี แข่งกับ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง คนที่เคยมีวันนี้เพราะพี่ให้ ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ ล่าสุดชัดเจนแล้วว่า “บิ๊กแจ๊ส” น่าจะมาวิน
ด้วยผลสำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เมื่อวันที่ 11-12 มิ.ย. ระบุว่า บุคคลที่จะสนับสนุนให้เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 31.87 ระบุว่าเป็น พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองลงมา ร้อยละ 28.68 ระบุว่าเป็น นายชาญ พวงเพ็ชร์…ยังต้องรอดูว่าระหว่าง “ทักษิณ” และ “บิ๊กแจ๊ส” นั้นจะตัดขาด-สะบั้นสัมพันธ์กันได้จริงหรือไม่
ส่วน “เจ้สมทรง” สมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครอยุธยา หรือ “บ้านใหญ่อยุธยา” ได้ยื่นหนังสือลาออกจากนายกฯอบจ.กับ นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ไปแล้วเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา งานนี้ไม่มีอะไรในกอไผ่ เพราะเป็นที่รับรู้กันว่า “เจ้สมทรง” จะต้องเตรียมตัวลงสนามเลือกตั้งนายกฯอบจ.อีกครั้ง ในเดือน ส.ค.นี้
หลังจากก่อนหน้านี้มี 3 นายกฯอบจ.ที่ลาออกไปก่อน 3 คน เพื่อลงเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าจะเป็น “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นายกอบ จ.ปทุมธานี, พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายกฯอบ จ.นครสวรรค์ และ “กำนันตี๋” สุรเชษ นิ่มกุล นายกฯ อบจ.อ่างทอง
ว่ากันว่า การชิงลาออกจากตำ แหน่งนายกฯอบจ. นอกจากป้องกันปัญหาติดล็อก พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่นแล้ว โดยเฉพาะการอนุมัติงบประมาณแล้ว ยังแก้เกมการเมืองสกัดไม่ให้พรรคคู่แข่งส่งตัวผู้ท้าชิงลงในสนามท้องถิ่นได้ทัน
และถือเป็นการผนึกกำลังสู้กับพรรคภูมิใจไทย อย่างเป็นทางการ เพราะก่อนหน้านั้น บ้านใหญ่บุรีรัมย์ “เนวิน ชิดชอบ” มอบให้ “ชาญ พวงเพ็ชร์” ดูแลสนามเมืองปทุมธานี แต่เมื่อ “ชาญ” ทิ้งบ้านใหญ่บุรีรัมย์ กลับไปหา “ทักษิณ-เพื่อไทย” เจ้สมทรง บ้านใหญ่อยุธยาจึงเข้าร่วมกับ “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รมช.มหาดไทย บ้านใหญ่ลุ่มน้ำสะแกกรัง มาช่วยคุมเมืองปทุมธานีด้วย
“เจ๊งไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้” ในการอภิปรายงบประมาณปี 68 ค่ายส้ม “พรรคก้าวไกล” จองกฐิน “รัฐบาลเพื่อไทย” ไว้เนิ่นๆ กำหนดการชัดเจน 19-21 มิ.ย. จะเปิดประเด็นดิจิทัลวอลเล็ตนโยบายเรือธง พรรคก้าวไกลย้ำชัด รัฐบาลไม่พร้อม แก้ไขแบบปะผุไปตามสถานการณ์ มีงบประมาณปี 2568 จำนวน 3.7 ล้านล้านบาท ทำได้เพียงซุกซ่อนเบียดบังงบส่วนอื่น ๆ ตัดลดโครงการดี ๆ เพื่อกันเงินไว้สำหรับใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต โดยไม่สนว่าประเทศต้องเสียโอกาสอะไรไปบ้าง ไม่ห่วงว่าจะทำร้ายอนาคตอย่างไร
โบกมือลา เล่นฟุตบอลอาชีพ “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตู เมืองทอง ยูไนเต็ด ในวัย 34 ปี โพสเฟซบุ๊ก ถึงเวลาที่จะอำลาการเล่นฟุตบอลอาชีพแล้ว
ขอบพระคุณผู้ใหญ่ โค้ชทุกท่านในทุกช่วงเวลาของชีวิต ลุงระวิ คุณแป้ง คุณอัยยวัฒน์ ที่ให้โอกาสผมตลอดเวลาที่ร่วมงานในสโมสรเมืองทอง ท่าเรือ และลูเวิน รวมถึงอานิด เศรษฐา ที่ผมเคารพรัก
…ขอบคุณทีมชาติไทย บ้านที่อยู่ในใจผมเสมอ ผมเหมือนได้เกิดที่นี่ ได้ทำตามฝันของเด็กผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่อยากเป็นนักฟุตบอล การได้เป็นตัวแทนคนไทย ออกไปแสดงตัวตนความเป็นทีมชาติไทย กว่า 69 แมตช์ที่ลงเล่นทีมชาติชุดใหญ่เป็นสิ่งที่มีค่ามากในชีวิตผม”…คนไทยก็ต้องขอขอบคุณ”กวิน”เช่นกันที่ทำให้คนทั้งประเทศมีความสุขทุกครั้งที่ได้ดูฟุตบอล ขอให้โชคดี
อ่านข่าว : 26 มิ.ย. เลือก สว.ระดับประเทศ เปิดขั้นตอนคัดเหลือ 200 คน
“บิ๊กเต่า” ยันไม่มีฮั้ว “เสี่ยโจ้” ปมเรือน้ำมันเถื่อน บ่าย 3 พาสื่อพิสูจน์