‘สุทิน’ รมว.กลาโหม พร้อมปลัดกลาโหม ร่วมงานนิทรรศการ Eurosatory 2024 เพื่อเยี่ยมชมและศึกษาข้อมูลนำมาใช้ในการพัฒนากิจการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย
สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม และคณะ ได้เดินทางเข้าร่วมงานนิทรรศการ Eurosatory 2024 ระหว่างวันที่ 17 – 19 มิถุนายน 2567
ณ ศูนย์แสดงสินค้า Paris Nord Villepinte กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส โดยมี นาย Sébastien Lecornu (เซบาสเตียน เลอกอร์นู) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส เป็นประธานเปิดงานนิทรรศการฯ
กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส ในฐานะเจ้าภาพการจัดงานนิทรรศการฯ ได้ให้ความสำคัญต่อความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกับมิตรประเทศ ซึ่งงานนิทรรศการ Eurosatory เป็นงานนิทรรศการนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในการแสดงยุทโธปกรณ์การป้องกันประเทศ และเพื่อความมั่นคงทางภาคพื้นและทางอากาศ โดยงานนิทรรศการฯ ในปีนี้ (พ.ศ.2567) มีบริษัทผู้ประกอบการ เป็นจำนวนกว่า 1,800 บริษัท จาก 62 ประเทศ มาเข้าร่วมจัดแสดงสินค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ แบ่งออกเป็น 4 ด้านหลักได้แก่
1) ด้านการต่อต้านก่อการร้าย
2) ด้านความปลอดภัยของพลเรือน
3) ด้านความมั่นคงในประเทศ
4) ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศ
ในการนี้ นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีการพบหารือกับ นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส โดยได้หารือติดตามผลการเดินทางเยือนของนายกรัฐมนตรี เมือวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมทั้งในด้านความร่วมมือด้านความมั่นคง และการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ
ตลอดจนยังได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการ ณ กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส และพบหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฝรั่งเศส โดยเน้นย้ำถึงความร่วมมือและความสัมพันธ์ระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งขอบคุณที่ยังคงสนับสนุนที่นั่งศึกษาของนักเรียนนายร้อย และหลักสูตรเสนาธิการทหาร แก่กำลังพลของไทย รวมทั้งจะยังคงดำเนินการเรื่องการส่งกำลังบำรุงร่วมระหว่างกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศให้เป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศให้แน่นแฟ้นมากขึ้นต่อไป
สำหรับการเดินทางเข้าร่วมงานนิทรรศการฯ ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้มีการพบปะบุคคลสำคัญทางการทหารและผู้ประกอบการต่างๆ ทำให้รับทราบถึงข้อมูลเทคโนโลยี และความก้าวหน้าทางด้านยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ทันสมัย ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการกำหนดนโยบายในการพัฒนากิจการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยให้มีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถนำแนวทางการจัดงานนิทรรศการฯ ดังกล่าว มาประยุกต์ใช้กับการจัดงานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ (Defence and Security 2025) ที่กระทรวงกลาโหมจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ณ ประเทศไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในห้วงเดือนพฤศจิกายน 2568 อีกด้วย