ความยุติธรรมแม้จะล่าช้า แต่ก็ยังมาถึง เมื่อศาลฎีกา มีคำพิพากษายืนประหาร “พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์” ฆ่าอำพราง “เสี่ยจืด” หรือ นายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง เหตุเกิดเมื่อปี 2558 คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2564 ว่า การกระทำของจำเลยกับพวก เป็นการร่วมกันกระทำโดยเจตนาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์อันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิด เพื่อปกปิดความผิดของตน หรือเพื่อเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนได้กระทำไว้ คบคิดกับพวกด้วยการวางแผนและลงมือฆ่าผู้ตาย ปกปิดการกระทำโดยสร้างเรื่องและอำพรางคดีว่าสาเหตุการตายของผู้ตายเกิดจากอุบัติเหตุ
อ่านข่าว : ศาลฎีกา ยืนประหาร “บรรยิน” ฆ่า “เสี่ยชูวงษ์”
ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) (7) ประกอบมาตรา 83 ให้ลงโทษประหารชีวิต ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 25 ส.ค.2565 ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง ที่ยื่นอุทธรณ์มาฟังไม่ขึ้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วยพิพากษายืน และช่วงเช้าวันนี้ ศาลอาญาพระโขนงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีนี้ โดยพิพากษายืนประหารชีวิต พ.ต.ท.บรรยิน
คดีนี้แม้จะใช้เวลาการพิจารณาและต่อสู้คดียาวนานถึง 9 ปี แต่ในที่สุดความยุติธรรมก็เดินทางมาถึง
จบไปแล้ว มหกรรมการเลือกตั้ง สว. ชุดที่ 13 ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อล่วงเข้าสู่ช่วงเช้าวันนี้ ( 27 มิ.ย) กับการประกาศรายชื่อ ว่าที่ สว.200 สว. มีทั้งคนใหม่-หน้าใหม่ คนหน้าเก่าที่คุ้นเคย และคนที่ฝ่ายการเมืองหลายฝ่าย หลายสี หลายพวก คุ้นชินกันดี มีทั้งอดีตข้าราชการเกษียณ ทหาร ตำรวจ และนักปกครอง
ส่วนใหญ่สายที่ได้รับเลือกเข้ามาส่งผลให้พรรคเพื่อไทย คงเกิดอาการ “อาฟเตอร์ช็อก” ตาม ๆ กัน เมื่อ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” อดีตนายกรัฐมนตรี และ “ศรีเมือง เจริญศิริ” คีย์แมนคนสำคัญ หล่นในการเลือกรอบไขว้
ขณะที่ “ลุงดำ” ประณีต เภรัมย์ สารถีของ “ปู่ ชัย ชิดชอบ”ผ่านเข้ารอบฉลุยรอท่าเป็น ว่าที่ สว.ใหม่ เช่นเดียวกับ “คอดียะฮ์ ทรงงาม” ว่าที่ สว.ในสายสื่อมวลชน ระบุในใบสมัครอาชีพช่างตัดเย็บเสื้อผ้า แต่ข้อมูลในพื้นที่พบว่า เป็นที่ปรึกษา “อดีตนายกฯตี๋” สุรเชษ นิ่มกุล ว่าที่ผู้สมัคร นายกฯอบจ.อ่างทอง
ส่วนเพื่อนร่วมรุ่น วปอ.61 ของ “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ.และ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีตรองปลัดฯ และปรึกษา รมว.สาธารณสุข ก็ผ่านด่านเข้าไปด้วย
ถือว่าโชคดี 2 เด้ง นอกจาก “พล.อ.เกรียงไกร ” หรือ อดีตแม่ทัพเกรียง อดีต ผช.ผบ.ทบ.จะได้เป็น ว่าที่ สว.ในวันที่ 3 ก.ค.นี้ แล้ว ค่ำคืนนี้จะได้รับรางวัลเกียรติยศจักรดาวศิษย์เก่า ดีเด่น สาขาการทหาร จากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 22 อีกด้วย
หลบลมร้อนกรมปทุมวัน แวะพักใจที่ จ.น่าน “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน เดินทางไปที่ค่ายมณฑลทหารบกที่ 38 ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน จ.น่าน เพื่อให้กำลังใจผู้บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด โดยมี “บิ๊กหลวง” พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส) และนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตํารวจแห่งชาติ เข้าร่วมฟังบรรยายสรุปจาก พล.ต.วิทยา แก้วพรม รองแม่ทัพภาคที่ 3 โดยค่ายสุริยะวงศ์ ได้เปิดรับผู้บำบัด ตั้งแต่ปี 2549 -ปัจจุบัน มีผู้ผ่านการบำบัดฟื้นฟูแล้ว จำนวน 4,168 คน
โดย “นายกฯ นิด” เศรษฐา ได้ให้กำลังใจผู้บำบัดฟื้นฟูและสอบถามความเป็นอยู่ การใช้ชีวิตประจำวัน และขอให้ผู้บำบัดฯเข้มแข็ง สู้ เพื่อกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวและสังคมต่อไป …
งานเข้า “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี เมื่อ “บิ๊กบอส” เพื่อไทย “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ “วิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความ ยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และดูหมิ่นด้วยการโฆษณา
รวม 2 ข้อหา โดยมีคำพูดที่เข้าข่ายความผิดรวม 5 กรรมต่างวาระ ถือเป็นความผิดที่ค่อนข้างชัดเจนสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกันมีการกล่าวพาดพิงสื่อให้ประชาชนเข้าใจว่าบุคคลที่พูดคือนายทักษิณ และพาดพิงถึงบุคคลในกระบวนการยุติธรรม และมีเจตนาให้บุคคลเข้าใจว่า นายทักษิณวิ่งเต้นคดีด้วยถุงขนม 2,000 ล้านบาท และเรียกค่าเสียหายกรรมละ 20 ล้านบาท 5 กรรม รวม 100 ล้านบาท โดยศาลรับคำฟ้องหมายเลขดำที่ อ.1961/2567 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 30 ก.ย.นี้ ขณะที่ “หมอวรงค์” สวนผ่านหน้าเพจเฟซบุ๊ก ทันควัน ไม่กลัว
ด้านลุงกำนัน “สุเทพ เทือกสุบรรณ” แกนนำ กปปส. พร้อมบรรดา กปปส. ที่ตกเป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมเป็นกบฎ ก่อการร้าย ล้มล้างการปกครองชุมนุมมั่วสุมจำนวน 37 คน เมื่อปีได้เดินทางมายังศาลอาญาเพื่อฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์
ก่อนหน้านี้ศาลตัดสินจำคุก “ลุงกำนัน” นายสุเทพ 5 ปี จำคุกนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “พุทธะอิสระ” 4 ปี 8 เดือน และจำคุก เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์ 4 ปี 16 เดือน รวมทั้งสิ้น 8 คน ส่วนจำเลยที่เหลือศาลให้รอการลงโทษ 2 ปี
ล่าสุดศาลอ่านคำพิพากษาโดยยกฟ้องในข้อหากบฎและก่อการร้ายพิพากษาลดโทษจำคุก นายสุเทพกับพวก ที่เดิมโดนตั้งเเต่ 4-9 ปี ลดเหลือคนละ 1 ปี -1 ปีเศษ เช่น นายสุเทพ และนายถาวร เสนเนียม เหลือโทษคนละ 1 ปี เเต่ไม่รอลงอาญา
โดยศาลอุทธรณ์ให้เหตุผลว่า ลดโทษเนื่องจากมองว่าเป็นการกระทำกรรมเดียวเหตุต่อเนื่องกัน ต่างจากศาลชั้นต้นที่มองเป็นการกระทำหลายกรรมโทษเลยสูง
” พวกเรา กปปส.น้อมรับการพิจารณาของศาล ไม่น่าเลย ส่วนขั้นตอนต่อไปชั้นศาลฎีกา ต้องขอไปปรึกษาทนายในเรื่องแนวทางว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง” นายสุเทพ กล่าวหลังได้รับการประกันตัว
อ่านข่าว : แผนรบ “ภูมิใจไทย” เส้นทางว่าที่ สว.ใหม่ ย่องเงียบ “เรียบยกแผง”
กกต.ดีเดย์ประกาศรับรอง สว.เร็วสุด 3 ก.ค.เร่งคลี่ปมโพยฮั้ว
TTB ชี้ ต่างชาติถือครองห้องชุด 75% รัฐต้องรัดกุม หวั่นได้ไม่คุ้มเสีย