การเลือกสมัครวุฒิสภารอบสุดท้ายระดับประเทศ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายรายตกรอบไปทั้งในรอบแรกที่เลือกกันเองในกลุ่มสาขาอาชีพ และในรอบเลือกไขว้ หนึ่งในนั้นคือ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และน้องเขยนายทักษิณ ชินวัตร ที่ตกรอบเลือกไขว้ โดยได้คะแนนเพียง 10 คะแนนเท่านั้น ไม่ติดกระทั่งรายชื่อสำรอง ทั้งที่ก่อนหน้านี้คาดหมายว่า นายสมชาย จะได้รับเลือกเป็น สว. และมีโอกาสสูงที่จะได้เป็นประธานวุฒิสภาด้วย
ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ทนายความชื่อดัง ติดเพียงบัญชีรายชื่อ ตัวสำรองเท่านั้น
อ่านข่าว : เปิดรายชื่อ 200 สว. “สมชาย” ตกรอบ “ศรีวราห์-ทนายตั้ม” ติดสำรอง
ข้อสังเกต สว.อีสาน เชื่อมโยง “บ้านใหญ่”
สำหรับความเชื่อมโยงกับ “บ้านใหญ่” เป็นอีกประเด็นที่มีการพูดถึง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน อย่าง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีผู้ผ่าน สว.ระดับประเทศ ถึง 14 คน
เริ่มจากกลุ่ม 1 นายมงคล สุระสัจจะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ , นายอภิชาติ งามกมล อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ และเป็นพี่ชาย นายไตรเทพ งามกมล ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย
กลุ่ม 2 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ , กลุ่ม 4 นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เคยเป็นที่ปรึกษา นายอนุทิน ชาญวีรกูล เมื่อครั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
และกลุ่ม 16 คือ กลุ่มศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี ปรากฏชื่อ นายปราณีต เกรัมย์ อดีตคนขับรถ นายชัย ชิดชอบ พ่อของนายเนวิน ชิดชอบ ได้ผ่านการคัดเลือกในระดับประเทศ
ที่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีผู้ลงสมัคร สว.มากเป็นอันดับ 1 คือ 2,764 คน และมีผู้ผ่านการคัดเลือกในระดับประเทศ 5 คน มีความเชื่อมโยงในลักษณะเครือข่ายกับนักการเมืองระดับท้องถิ่น และระดับชาติ อย่าง นายธนชัย แซ่จึง มีความเชื่อมโยงกับตระกูลนักการเมืองระดับชาติ ที่สังกัดบ้านใหญ่ จ.บุรีรัมย์
จ.ขอนแก่น ผู้ที่ได้รับเลือกในระดับประเทศที่เหนือความคาดหมาย คือ นายอัษฎางค์ แสวงการ เคยลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งการเมืองท้องถิ่นและระดับชาติ แต่ต้องพลาดหวังทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ มีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ในกลุ่ม 3 คือ การศึกษา ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ได้คะแนนสูงถึง 69 คะแนน , คนที่ 2 คือ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต สส.ขอนแก่น ได้ 24 คะแนน
อ่านข่าว : ชิง สว.200 คน “บ้านใหญ่” นำ ต้อง “เนียน” เปิดทาง สว.อิสระ
สัดส่วน สว.แต่ละจังหวัด
- บุรีรัมย์ 14 คน
- กทม. 9 คน
- พระนครศรีอยุธยา 7 คน
- สุรินทร์ 7 คน
- สุราษฎร์ธานี 4 คน
- สงขลา 6 คน
- สตูล 6 คน
- อ่างทอง 6 คน
- อำนาจเจริญ 5 คน
- ศรีสะเกษ 5 คน
- อุทัยธานี 5 คน
- เลย 5 คน
- นครศรีธรรมราช 5 คน
- เพชรบุรี 4 คน
- สมุทรสาคร 4 คน
- สมุทรสงคราม 4 คน
- กระบี่ 4 คน
- สิงห์บุรี 3 คน
- พิจิตร 3 คน
- นครพนม 3 คน
- ยะลา 3 คน
- สุพรรณบุรี 3 คน
- พังงา 3 คน
- ปราจีนบุรี 3 คน
- ตราด 3 คน
- นนทบุรี 3 คน
- ราชบุรี 3 คน
- ชัยภูมิ 3 คน
- กาญจนบุรี 3 คน
- ฉะเชิงเทรา 3 คน
- นครนายก 3 คน
- ชัยนาท 2 คน
- นครสวรรค์ 2 คน
- ปัตตานี 2 คน
- สุโขทัย 2 คน
- ระยอง 2 คน
- ขอนแก่น 2 คน
- ลำพูน 2 คน
- ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน
- บึงกาฬ 2 คน
- ระนอง 2 คน
- ชลบุรี 2 คน
- ภูเก็ต 2 คน
- เชียงราย 2 คน
- หนองบัวลำภู 2 คน
- สมุทรปราการ 2 คน
- มุกดาหาร 2 คน
- ปทุมธานี 2 คน
- จันทบุรี 2 คน
- เชียงใหม่ 2 คน
- พัทลุง 2 คน
- น่าน 2 คน
- อุบลราชธานี 2 คน
- ยโสธร 2 คน
- นครราชสีมา 2 คน
- นครปฐม 2 คน
- แพร่ 1 คน
- สระบุรี 1 คน
- ตรัง 1 คน
- ชุมพร 1 คน
- พิษณุโลก 1 คน
- ลำปาง 1 คน
- หนองคาย 1 คน
- พะเยา 1 คน
จับตา ปธ.วุฒิสภาคนใหม่
สำหรับแคนดิเดตตำแหน่งประธานวุฒิสภาคนใหม่นั้น เริ่มมีการเคลื่อนไหวทันทีที่ทราบรายชื่อ 200 ว่าที่ โดยมีกระแสข่าวว่า พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาค 4 ที่ได้รับคะแนนมาเป็นอันดับ 1 ในผู้สมัคร สว.กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง จาก จ.สุราษฎร์ธานี มีโอกาสจะได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา
ทั้งนี้ พล.อ.เกรียงไกร เป็นอดีตเตรียมทหาร (ตท.) รุ่น 22 และนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่น 61 (วปอ.61) รุ่นเดียวกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โดยก่อนลงสมัคร สว.นั้น พล.อ.เกรียงไกร ก็ได้รับการแต่งตั้งจากนายอนุทินให้ดำรงตำแหน่งประธานคณะที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ด้วย
อีกคนที่คาดว่ามีโอกาสเช่นเดียวกันคือ นายมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และอดีตผู้ว่าฯบุรีรัมย์ ที่ลงสมัคร สว.กลุ่มบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง จาก จ.บุรีรัมย์
อ่านข่าว :