วันนี้ (28 มิ.ย.2567) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.พรรคเพื่อไทย โฆษกกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณปี 2568 สภาฯ แถลงความคืบหน้าในการพิจารณากฎหมายงบประมาณ ซึ่งในวันนี้จะพิจารณางบประมาณของสำนักงานนายกรัฐมนตรีหรือในมาตรา 7
พร้อมกันนี้เปิดเผยว่า ถือเป็นครั้งแรกที่เทศบาลเทศบาลตำบลจำนวน 2,247 หน่วย จะทำหน้าที่เป็นหน่วยงานรับงบประมาณโดยตรง เนื่องจากมีหน่วยงานจำนวนมากจะกำหนดแนวทางพิจารณาเพื่อให้มีประสิทธิภาพต่อไป ซึ่งอาจจะยึดถือแนวทางการพิจารณาผ่านระบบซูม ที่เคยใช้ในการพิจารณางบประมาณปี 2567
ทั้งนี้ ในการพิจารณาชั้นนี้เป็นการพิจารณาภาพรวมของงบประมาณในแต่ละหน่วยงานยังมีการพิจารณาปรับลด โดยจะเป็นการปรับลดในชั้นอนุกรรมธิการ
ส่วนการพิจารณางบประมาณของโครงการดิจิทัลวอลเลต กว่า 152,000 ล้านบาท นั้นหลังจากที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวบรวมข้อมูลเสร็จสิ้นก็จะนำเสนอต่อกรรมาธิการในครั้งต่อไป หลังจากพบว่าโครงการนี้ยังไม่มีรายละเอียดในโครงการที่จะพิจารณาพิจารณาว่าโครงการจะสัมฤทธิ์ผลมาก-น้อย เพียงใด เช่นการจับจ่ายใช้สอย คณะกรรมาธิการจึงมีมติให้หน่วยงานทำข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนนี้โดยจะทำเป็นเอกสารสรุปโครงการให้ชัดเจน
พร้อมกันนี้ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการพิจารณาว่า มีการพิจารณางบกลางจำนวน 11 รายการ 14 หน่วยงาน และ 1 กองทุน และมีความเห็นของกรรมการตั้งข้อสังเกตในประเด็นเศรษฐกิจภาพรวมว่าปัจจุบันยังไม่มีแผนปฏิรูปภาษีและแนวทางการจัดการหนี้สาธารณะ
รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาภาระทางดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นและข้อเสนอแนะเปลี่ยนรูปแบบจัดเก็บรายได้โดยเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายจำนวนผู้เสียภาษีให้เพิ่มขึ้นในแต่ละปี
นอกจากนี้ กรรมาธิการมีความห่วงใยงบกลางของกรมบัญชีกลางโดยให้ข้อสังเกตว่า ควรพิจารณาพิจารณาแนวทางตั้งงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลข้าราชการ ลูกจ้างและพนักงานของรัฐซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และปี 2568 ตั้งงบประมาณไว้ที่วงเงิน 910,000 กว่าล้านบาทคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้าจำนวนเงินงบจะเพิ่มเป็นจำนวน 150,000 ล้านบาทจึงควรหาแนวทางหรือหลักเกณฑ์การคัดกรองโรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูงพิจารณาลดค่าใช้จ่ายดังกล่าวไม่เป็นภาระกับงบประมาณ
อ่านข่าว : “คลัง” แจงถูกแขวนงบ 1.52 แสนล้านไม่กระทบ “ดิจิทัลวอลเล็ต”
ก.คลัง ชง ครม.เคาะ “หวยเกษียณ” 2 ก.ค.นี้
เปิดรายชื่อ 72 กมธ.พิจารณางบประมาณ ปี 68