วันนี้ (29 มิ.ย.2567) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กล่าวระหว่างการประชุมสมาคมปักษ์ใต้ ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยได้ขอบคุณ ผู้เข้าร่วมงานทุกคนที่คอยให้กำลังใจตัวเองมาโดยตลอด แม้กระทั่งเวลาไปเดินทางไปตามที่ต่าง ๆ ก็ยังมีประชาชนคอยมาเพื่อให้กำลังใจ จากเดิมที่ตอนเครื่องแบบตำรวจ ไม่เคยเห็นปรากฎการแบบนี้ พร้อมยืนยันว่า ไม่ได้มีการจัดตั้งหรือระดมคนมาให้กำลังใจ
ส่วนการฟ้องร้องคู่กรณีในช่วงนี้ มั่นใจในพยานหลักฐาน และไม่ได้เป็นการกดดันการทำหน้าที่ ของ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. ส่วนการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากความเกลียดชัง ส่วนผลจะเป็นอย่างไรให้ศาลเป็นผู้พิจารณา
อ่านข่าว : “บิ๊กโจ๊ก” เดินหน้าฟ้องหมิ่นฯ 1 ใน ก.ตร. เหตุใส่ร้ายเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์
ส่วนหากโดนฟ้องกลับจะมีแนวทางอย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า การฟ้องร้องเป็นสิ่งที่ใครก็สามารถกระทำได้ แต่ต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา อยู่ที่ว่ามีพยานหลักฐานหรือไม่ แต่ที่ผ่านมาตัวเองฟ้องไปตามพยานหลักฐาน แม้อีกฝ่ายจะอ้างว่าไม่ได้มีการเอ่ยถึงตัวเอง หรือไม่ได้ทำให้ตัวเองเสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนการฟ้องร้องที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากความเกลียดชังและยังนับถือกันเป็นพี่เป็นน้อง
ด้านของ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องกูรูด้านกฎหมายที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อวานนี้ (28 มิ.ย.) ในฐานหมิ่นประมาท ซึ่งอาจทำให้คนส่วนใหญ่มั่นใจว่าเป็นตัวเอง ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับหมายศาล จึงไม่รู้แน่ชัดว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ฟ้องร้องใคร และก็ไม่รู้ว่าเป็นตัวเองหรือไม่ แต่หากว่ามีหมายศาลมาถึงตัวเองจะพิจารณาข้อมูลจากหมายศาลดังกล่าวในการฟ้องกลับฐานหมิ่นประมาท
และหากพบว่าข้อมูลที่ปรากฎในหมายศาลเป็นเท็จ จะดำเนินการฟ้องเท็จอีก 1 ข้อหา โดยตัวเองเชื่อว่า ที่ผ่านมาไม่เคยพาดพิงหรือใส่ความให้ รอง ผบ.ตร. เกิดความเสียหายและพูดแค่ในแง่ของกฎหมายเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถฟ้องกลับได้ เพราะยังไม่มีรายละเอียด
อ่านข่าว : สำรวจว่าที่ สว.จาก “นครศรีธรรมราช” โปรไฟล์ไม่ธรรมดา แบ็คอัพแข็งแรง
“ผู้สูงอายุ” เป้าหมายใหม่มิจฉาชีพ ช่องโหว่เงินออมเยอะ-อยู่คนเดียว