วันนี้ (29 มิ.ย.2567) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ว่าที่ สว. 200 คน และผู้ที่มี “ชื่อ” อยู่ในบัญชีสำรองอีก 100 คน ก่อนประกาศผลในราชกิจจานุเบกษา
ล่าสุดนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. โพสต์เฟซบุ๊ก เน้นย้ำคำว่า “สิทธิสมัครรับเลือก-สมัครเป็นเท็จ-รับจ้างสมัคร” มีความแตกต่างกันในแต่ละกรณี โดยอ้างอิง คำสั่งของศาลฏีกา และชี้แจงระเบียบ กกต., กฎหมายการได้มาซึ่ง สว. และรัฐธรรมนูญ
กรณีให้สิทธิประชาชนสมัครรับเลือกทุกคน และสามารถอยู่ในกลุ่มใด-กลุ่มหนึ่งได้ แต่ก็ระบุที่จะตรวจสอบเอกสารของผู้สมัครทุกคน ทั้ง 40,000 กว่าคน หากพบว่า แจ้งข้อความอันเป็นเท็จจะดำเนินการตามมาตรา 74 ของกฎหมาย
กกต.แจงมีอำนาจ “ฟ้อง-สอย” สว.
ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกต. ออกเอกสาร เผยแพร่แจ้งความคืบหน้าว่าก่อนประกาศผลการเลือก สว.ในราชกิจจานุเบกษาและแจ้งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ขณะนี้ กกต.อยู่ระหว่าง ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม ของผู้ที่ได้คะแนนอยู่ในเกณฑ์รับเลือกเป็น สว. หรือผู้มีชื่ออยู่ในบัญชีสำรอง
และหากพบว่าตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้าม และการเลือก สว.ไม่เป็นไปโดยสุจริต-เที่ยงธรรมนั้น กกต.จะดำเนินการ ตามมาตรา 60 ของกฎหมาย พร้อมอ้างอิงตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวน และการวินิจฉัยชี้ขาด
สำหรับกฎหมาย หรือพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ปี 2561 มาตรา 60 กำหนดไว้ว่า ก่อนประกาศผล ถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า ผู้สมัคร-ผู้ใด กระทําหรือรู้เห็น ทําให้การเลือกไม่เป็นไปโดยสุจริต-เที่ยงธรรม ให้สั่งระงับสิทธิสมัครไม่เกิน 1 ปี และยื่นต่อศาลฎีกา สั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ส่วนมาตรา 74 ผู้ใดรู้อยู่แล้ว ว่าไม่มีสิทธิ ต้องโทษจําคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 – 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอน สิทธิเลือกตั้ง 20 ปี ในกรณีนี้ ผู้กระทําผิด เป็นผู้ได้รับเลือกเป็น สว. ให้ศาลสั่งคืนเงินตอบแทนและประโยชน์ตอบแทน ให้สํานักงานเลขาธิการวุฒิสภา
อ่านข่าว : ระวัง! แฝดเห็บถอบ “เห็ดก้อนฝุ่น” เห็ดพิษทำท้องเสีย-หายใจลำบาก
ไบเดนพลาดท่า-ทรัมป์ประกาศชัยชนะ หลังจบดีเบตรอบแรก
เลือก สว.ประเทศ “ภาคอีสาน” สายสัมพันธ์ “บ้านใหญ่” เข้ารอบหนาตา