วันนี้ (4 ก.ค.2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ทวง MOU ที่เคยเซ็นจัดตั้งรัฐบาลในรอบแรก แม้จะตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ แต่ควรจะเดินหน้าสิ่งที่ตกลงกันไว้ ว่า อะไรที่ผ่านมาทางคณะรัฐมนตรี ตนก็จะรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ส่วน MOU เป็นเรื่องของสภาฯ เป็นเรื่องที่ฝ่ายนิติบัญญัติต้องไปจัดการกันเอง
เมื่อถามต่อว่า ฝ่ายค้านพยายาม อยากให้นายกรัฐมนตรีมาตอบกระทู้ถามในสภา นายกรัฐมนตรี ตอบด้วยน้ำเสียงมีขึงขัง ว่า “ผมก็พยายามมา ผมก็พยายามมาเองบ้าง หากไปดูประวัติ เปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีท่านอื่น ถือว่าผมมาโอเคนะ ก็พยายามมา ไม่ได้จงใจหลีกเลี่ยง อย่างวันนี้ ตนไม่ได้มีภารกิจไปไหน ก็เข้ามาที่นี่ก่อน”
เมื่อถามย้ำว่า สส.พรรคก้าวไกล อยากให้นายกรัฐมนตรี มาตอบกระทู้ของพรรคก้าวไกลบ้าง นายกฯ กล่าวว่า “เดี๋ยววันหลังจะมา ถ้าว่างจะมาตอบ ไม่ใช่จำใจหลีกเลี่ยงอะไร เป็นหน้าที่อยู่แล้ว”
ทั้งนี้ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นักเรียน มัธยมศึกษาปีที่ 1 จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต มาดูงานประชาธิปไตยของรัฐสภา นายกฯ จึงเข้าไปทักทายเด็กๆ ทำให้เด็กๆ ดีใจ และรุมเข้ามาขอถ่ายรูปกับนายกฯ
นายกฯ ส่งหลักฐานเพิ่มเติมให้ศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ปม 40 สว.
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเที่ยงวานนี้ (3 ก.ค.) ได้ส่งหลักฐานเพิ่มเติมไปยังศาลรัฐธรรมนูญครบถ้วนแล้ว กรณี 40 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ร้องนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังศาลรัฐธรรมนูญให้ยื่นหลักฐานเพิ่มเติมภายใน 15 วัน
ส่วนมั่นใจใช่หรือไม่ ทั้งเรื่องขั้นตอนความจริงใจ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าตนมั่นใจในความจริงใจ ความซื่อสัตย์สุจริต การไม่โน้มเอียง และการปฏิบัติตามหลักของกฎหมาย
นายกฯ รับทราบ “บิ๊กโจ๊ก” ยื่นฟ้อง มั่นใจแต่งตั้ง ผบ.ตร.ถูกต้อง
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินหน้าร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิด นายกรัฐมนตรีตามมาตรา 157 กรณีแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่า รับทราบ แต่หากจะให้ย้อนความไปในวันแต่งตั้ง ได้รับฟังความคิดเห็นอย่างกว้างขวางทุกคน รวมถึงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย พร้อมยืนยันว่า ทำตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติทุกประการ มีทั้งเรื่องอาวุโส ความรู้ความสามารถ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย รวมถึงเรื่องของการสอบสวนที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็มีความสามารถในเรื่องนี้ ดูจากชีวิตการทำงานที่ผ่านมาได้รับการเลื่อนตำแหน่งต่าง ๆ เป็นที่ประจักษ์ว่าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ หน้าที่ของตนเองคือเสนอ และวันนั้นก็เป็นเอกฉันท์ ในส่วนของตนเองไม่ได้ออกเสียงโหวต แต่เมื่อยื่น ป.ป.ช.ไปแล้วก็ต้องชี้แจง
ส่วนกังวลเรื่องการฟ้องร้องหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า มั่นใจทำถูกต้องทุกอย่างด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้โน้มเอียงไปทางใดทางหนึ่ง เพราะตนเองไม่ได้รู้จักกับทั้ง 4 ท่านเป็นการส่วนตัว
ส่วนจะมอบหมายให้ใครดูแลเป็นพิเศษ หรือจะให้นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ดูเรื่องนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องขอไปดูก่อนเพราะเพิ่งยื่นมาเมื่อวานนี้ และยังมีเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญที่ได้ยื่นเรื่องเพิ่มเติมไปแล้ว ตอนนี้ต้องโฟกัสเรื่องการบริหารจัดการประเทศ และปัญหาของประชาชน
มั่นใจ “ชาดา” นั่ง ปธ.แก้หนี้นอกระบบสานต่องาน “อนุทิน” ได้เต็มที่
นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ถอนตัวออกจากตำแหน่งประธานแก้ไขหนี้นอกระบบในอนาคตจะสามารถดำเนินการต่อไปได้อย่างไร ว่า ตนต้องดูว่าจะนำใครมาดำรงตำแหน่งแทน เบื้องต้นเข้าใจว่าจะเป็นนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เพราะถ้ามีความใกล้ชิดกับนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องเดินหน้าต่อไป
เมื่อถามว่าหากนายชาดามานั่งประธานแก้หนี้นอกระบบจะสามารถแก้ไขปัญหาต่อไปได้ใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า มั่นใจ ใครมาก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ไม่ว่านายอนุทินมอบหมายใครมาก็ดำเนินการอย่างเต็มที่ ทุกท่านทราบดีอยู่แล้วว่าเป็นปัญหาใหญ่
ส่วนที่กระทรวงการคลังจะปล่อยเงินกู้ ออกมา ให้กับลูกหนี้ได้กู้ที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่าดอกเบี้ยจะต้องต่ำกว่า 2.5% นั้น นายเศรษฐา ระบุว่า แต่ละธนาคารก็มีความแตกต่างกันไป ทั้งขีดความสามารถและต้นทุนในการบริหารเงินทุน ซึ่งมีทั้งธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย
อ่านข่าว :
ยังไม่อัปเดตแก้ “สัญญาเรือดำน้ำ” ไร้ห่วงข้อกฎหมาย