วันนี้ (11 ก.ค.2567) นายมงคล สุระสัจจะ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าแสดงตนเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งทันทีที่นายมงคลเดินทางมาถึง ได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยขอเข้าไปแสดงตนให้เรียบร้อยก่อน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างรอแสดงตน นายมงคล ได้พูดคุยว่ายังไม่อยากให้สัมภาษณ์ในตอนนี้ อยากขอเวลาเรียนรู้ก่อน เพราะตนถือว่า มาจากก้อนดินก้อนทราย เป็นลูกชาวบ้านธรรมดา การทำงานในครั้งนี้ ต้องการทำหน้าที่เพื่อตอบแทน หลังจากก่อนหน้านี้ตนเป็นข้าราชการ เพราะตนอายุมากแล้ว
ส่วนตำแหน่งกระแสข่าวเรื่องการนั่งตำแหน่งประธานวุฒิสภานั้น ก็ทำให้ตนรู้สึกเครียด กดดัน ซึ่งการได้มาถึงจุดนี้ถือว่าเป็นบุญวาสนา
อ่านข่าว : กกต.มีมติรับรอง สว. 200 คน บัญชีสำรอง 99 คน โดนสอย 1 คน
“นันทนา” นัดถกส่งตัวแทนชิงเก้าอี้ประธานวุฒิฯ หลัง 15 ก.ค.
รศ.นันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภากลุ่มสื่อมวลชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับหนังสือรับรองสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่าในกลุ่ม สว.ได้มีการพูดคุยกัน โดยนัดในวันหลังจากที่มีการรายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการวุฒิสภาแล้ว ซึ่งจะนัดรายงานตัววันที่ 15 ก.ค.นี้ โดยในกลุ่มมีสมาชิกประมาณ 30 คน เป็นกลุ่มอิสระที่จะร่วมอุดมการณ์กันและเชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มนี้จะมีบทบาทต่างจากกลุ่ม 40 สว.ในอดีต เนื่องจาก สว.ปัจจุบันมาด้วยอุดมการณ์และมีวาระที่จะขับเคลื่อนผลักดันวาระของประชาชนร่วมกัน ไม่มีใครเป็นเจ้าของกลุ่มหรือกดปุ่มสั่งการใดๆ มีจิตวิญญาณเสรี
และยอมรับว่าตามรายงานข่าวของสื่อมวลชนมี สว. ที่รวมตัวกันเป็นกลุ่มเป็นก้อนใหญ่ ที่น่าจะมีเสียงค่อนข้างมาก กลไกตามระบอบแต่กลไกตามระบอบประชาธิปไตยเห็นว่าควรมีบุคคลที่มีศักยภาพ และมีคุณสมบัติเหมาะสมทางกลุ่ม ทางกลุ่มก็จะส่งไปจริงตำแหน่ง โดยยังไม่ขอเปิดเผยรายชื่อ ขอให้มีการหารือกันก่อน และยังไม่ทราบว่าจะเป็นตนเองหรือไม่ และเชื่อว่า สว.ที่ได้รับเลือกเข้ามามีอุดมการณ์ที่ทำงานให้ประชาชน
เราคงจะต้องพูดคุยกันว่าทางกลุ่มของเรามีความเห็นอย่างไร โดยศักยภาพ โดยคุณสมบัติ ความเหมาะสม คงจะให้กลุ่มช่วยกันพิจารณาให้เป็นมติออกมา ตามกลไกประชาธิปไตย
อ่านข่าว : สว.ใหม่ทยอยรับหนังสือรับรอง “นวลนิจ” มาคนแรก
ขณะที่นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว.กลุ่มสื่อมวลชน กล่าวถึง สว.กลุ่มใหญ่ที่รวมตัวกันและถูกคาดการณ์ว่าเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา โดยเห็นว่าประเด็นสำคัญคือคาดหวังให้ สว.จะมาสร้างบรรยากาศที่ดี ซึ่งเสียงข้างมากอาจจะถูกมองไปด้านใดด้านหนึ่ง แต่หลักการประชาธิปไตยต้องเคารพและรับฟังเสียงข้างน้อยด้วย ซึ่งเปรียบกับการทำงานของวุฒิสภาชุดก่อนเพราะประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม วุฒิสภาควรเปิดพื้นที่ให้เป็นประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมจากประชาชนในเรื่องของการร้องทุกข์
“สว.ชุดนี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ควรที่จะรู้ร้อนรู้หนาว ควรรับฟังความคิดเห็นความต้องการของประชาชน หวังว่าวุฒิสภาชุดใหม่ แม้จะถือมติของเสียงส่วนใหญ่ แต่ควรเคารพเสียงส่วนน้อย และเอาหลักประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมหรือเสียงของประชาชนเข้ามาพิจารณาด้วย” นายเทวฤทธิ์ กล่าว
อ่านข่าว : “ชิบ จิตนิยม” รับ สว.อิสระชิง “ปธ.วุฒิ” อาจติดขัด เหตุ สว.บางกลุ่มเสียงเกินครึ่ง
“วีระศักดิ์” รับเลือก สว.ครั้งนี้มีปัญหา
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี สมาชิกวุฒิสภากลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ระบุว่าวันนี้เพิ่งมารับเอกสารรายงานตัววันแรกยังต้องทำความรู้จักกับ สว.ท่านอื่นๆ อีกมาก รวมถึงจะต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องของผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นประธาน และรองประธานวุฒิสภา ส่วนรายชื่อแคนดิเดตที่ออกมา 2 รายชื่อ เป็นแค่การคาดการณ์ยังต้องพูดคุยกันอีกมาก เบื้องต้นทั้ง 2 ท่านก็เป็นผู้ทรงคุณวุฒิอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของคุณสมบัติ ผู้ที่เหมาะสมจะเข้าดำรงตำแหน่งตนยืนยันว่าจะต้องมีการพูดคุยกัน ส่วนตัวยังไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ยังต้องมีการปรึกษากับเพื่อน สว.ก่อนว่าจะมีความเห็นอย่างไร
ส่วนกระแสข่าว สว.สายสีน้ำเงิน ที่มีจำนวนเสียงเกิน 150 คน จะทำให้การทำงานในสภาเป็นไปโดยเอกภาพ หรือเผด็จการหรือไม่ว่า เป็นสิ่งที่พูดกันไป แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะอยู่ในสายไหน ยังจะต้องใช้เวลาในการเจรจาร่วมกัน อย่างไรก็ตามการทำงานในวุฒิสภาน่าจะมีความเป็นเอกภาพ เพราะ สว.ชุดเก่ายังมีการสบประมาท สั่งให้หุบปาก ซึ่งในวันนี้ตนคิดว่า ถึงเวลาที่เราจะต้องหันหน้าปรองดองซึ่งกันและกัน
นายวีระศักดิ์ ระบุถึงบทบาทใน สว.ของตัวเองว่า คือการกลั่นกรองกฎหมาย หรือการแต่งตั้งตำแหน่งในองค์กรอิสระ จะต้องไปว่ากันในอนาคต แต่ส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการการเลือก สว.มีปัญหามาก คนที่คาดหวังว่าจะได้คะแนนสูงก็ยังไม่ได้ มีความสับสน ดังนั้นควรจะเร่งแก้ตรงนี้ก่อน สว.เพิ่งสังวรว่ามาทำหน้าที่เพื่อประเทศชาติและแผ่นดินเกิด ควรจะทำตรงนี้ให้เข้ารูปเข้าร่างเข้ารอย คงไม่เสียมารยาทมากเกินไปที่จะพูดเรื่องนี้ในตอนนี้
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบุว่าอย่าถือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำ ยังต้องฟังความเห็นของเพื่อนสมาชิกว่ามีเหตุผลอย่างไร แต่อย่างน้อยเราคิดว่ามันมีปัญหาเยอะ ทำให้คนในประเทศแตกแยกกันมากทำให้คนในครอบครัวเดียวกันคิดต่างกัน
เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรแก้ไขทั้งฉบับ หรือแก้ไขบางส่วนนายวีระศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องปรึกษากับหลายฝ่าย ตัวเองทำเองคนเดียวไม่ได้
“เกศกมล” ยันไม่ได้ซื้อวุฒิการศึกษา
พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภาที่ได้รับเลือกด้วยคะแนนสูงสุด กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์วุฒิการศึกษาของตนเอง โดยยืนยันว่าวุฒิการศึกษาที่ได้มาเป็นของจริงเรียนจริงจบจริง ไม่ได้มีการซื้อวุฒิปริญญา และมหาวิทยาลัยที่ได้รับวุฒิการศึกษาไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถวอย่างที่เป็นข่าว ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้ออกมาชี้แจง เพราะยังไม่ได้รับหนังสือรับรองจาก กกต. จึงไม่สามารถให้สัมภาษณ์ได้
พญ.เกศกมล ยอมรับว่า ถูกตรวจสอบเรื่องวุฒิการศึกษาตั้งแต่เป็นผู้สมัครระดับอำเภอ และได้มีการชี้แจงด้วยเอกสารของมหาวิทยาลัยและใบรับรองจากกระทรวงการศึกษา และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ พญ.เกศกมล ยืนยัน ได้เป็น สว. ด้วยตัวเองไม่มีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง ซึ่งในการเลือกประธานวุฒิสภา มีบุคคลในใจแล้ว
อ่านข่าว :
อดีตผู้สมัคร สว.แจ้งดำเนินคดี “กกต.-เลขาฯ” หลังรับรอง 200 สว.