นายกฯเศรษฐา แจงพิจารณารายละเอียดดิจิทัลวอลเล็ต อย่างรอบด้าน ยืนยันดำเนินการอย่างสุจริต เน้นกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค มั่นใจ 24 ก.ค.นี้ มีความชัดเจนเรื่องงบประมาณและประเภทสินค้า
วันนี้ (11 กรกฎาคม 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 2 ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) กรณี โครงการ Digital wallet ว่า ‘ยืนยันว่าให้ความสำคัญกับสภาฯ ฝ่ายนิติบัญญัติ ไม่ได้มีความประสงค์ที่จะหลีกเลี่ยงอะไรแต่มีภารกิจที่แน่น โดยพยายามเลื่อนการประชุมเพื่อที่จะมาตอบกระทู้ได้ตามความต้องการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อวานนี้ ก็ได้ลงพื้นที่ตลอดช่วงบ่าย จึงไม่มีเวลามาตนพยายามมาตอบกระทู้ให้ได้ ซึ่งครั้งนี้ก็คงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายและจะพยายามมาอย่างต่อเนื่อง’
นายกฯเศรษฐา กล่าวตอบคำถาม ‘เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จะมีการแถลงวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ โดยที่ยังมีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องของประเภทสินค้า ก็เป็นตัวบ่งบอกอย่างหนึ่งว่ารัฐบาลได้ฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชน เรื่องของการที่จะใช้ซื้ออะไรได้ซื้ออะไรไม่ได้ ก็เป็นเรื่องหนึ่งที่จะต้องทำก่อนที่โครงการจะออกมาสำเร็จเป็นรูปธรรม ซึ่งก็ต้องรับฟังจากทุก ๆ ภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นพี่น้องประชาชน ผู้ประกอบการ หรือฝ่ายค้านก็ตามทีว่าอะไรเหมาะสม อะไรไม่เหมาะสม เรื่องเหล่านี้ได้ให้ความสำคัญ และมีการพูดคุยกันตลอด ก็จะได้มีการปรับปรุงเพื่อให้โดนใจประชาชน ถูกจุดประสงค์ถูกจุดหมายหลักของการที่ออกโครงการ คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ’
นายกฯเศรษฐา กล่าวเพิ่มเติม ‘เรื่องของงบประมาณ ว่าได้กันงบประมาณ งบกลางไว้ที่ 43,000 ล้านบาท ส่วนเรื่องที่บอกว่า 450,000 ล้านบาทลงมาจาก 500,000 ล้านบาท ก็ได้ดูจากสถิติเก่า ที่ว่ารัฐบาลที่ผ่านมามีการแจกเงิน ทำการวิเคราะห์ดูว่าจะมีคนที่จะเข้ามาใช้สิทธิกี่คน แต่พยายามเตรียมงบประมาณเพื่อให้เตรียมให้เต็มที่ งบประมาณตัวนี้ มั่นใจว่าจะใช้ความพินิจพิเคราะห์อย่างดีเพราะว่าจะต้องโดนจุด เป็นไปตามกฎหมาย และความซื่อสัตย์สุจริต และเป็นไปตามกฎกติกาในการใช้งบประมาณที่ถูกต้อง’
นายกฯเศรษฐา ย้ำเพิ่มเติมว่า ‘ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายหลัก เหตุผลที่ต้องใช้เงิน 10,000 บาทต่อคนแล้วจำกัดพื้นที่ในการใช้ เรื่องของเรื่องคือการที่จำกัดความเจริญอยู่ได้แค่หัวเมืองหลักอย่างเดียว การที่พี่น้องประชาชนมีบัตรประจำตัวประชาชนอยู่ในอำเภอไหน ก็ใช้ในอำเภอนั้นเพื่อให้เงินที่แจกไปนั้น ได้ไปใช้ในอำเภอนั้น ๆ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดที่ยังมีการพัฒนาต่ำ ไม่ว่าจะเป็นหนองบัวลำภู บึงกาฬ หรือมหาสารคาม ซึ่งมี GPP ยังต่ำอยู่ ก็อยากให้ไปกระตุ้นตรงนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาค และเป็นไปตามความต้องการของทุก ๆ คน มั่นใจว่า 24 กรกฎาคม จะมีความชัดเจนมากขึ้นในแง่ของงบประมาณและประเภทสินค้าที่จะออกมา’