หลัง ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้งรายชื่อ 200 สมาชิกวุฒิสภา หรือ สว. และ 99 คน ในบัญชีสำรอง เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2567 จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการเลือกตำแหน่งประมุขรัฐสภา คือ ตำแหน่ง “ประธานวุฒิสภา” ซึ่งเป็นตำแหน่งสำคัญอย่างยิ่ง
อ่านข่าว : เปิดประวัติ “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1
จนต่อมา ในการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 1 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1 เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23 ก.ค.) หลังจากที่ สว. ลงชื่อประชุมครบ 200 คน ตามจำนวน ก่อนที่ เลขาวุฒิสภา ได้เชิญสมาชิกที่มีความอาวุโสสูงสุด คือ พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี อายุ 78 ปี ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมชั่วคราว
หลังจากประธานในที่ประชุมได้แจ้งสมาชิกให้รับทราบถึงประกาศของ กกต. เรื่องผลการเลือกเลือก สว. และ บัญชีสำรอง เสร็จสิ้น สว. ได้กล่าวตนในที่ประชุมก่อนเข้ารับหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ม. 115 จากนั้นเข้าสู่วาระการเลือกผู้ดำรงตำแหน่ง “ประธานวุฒิสภา” และ “รองประธานวุฒิสภา” โดยการ “ลงคะแนนลับ”
ในการประชุมครั้งแรกของวุฒิสภา ชุดที่ 13 นายมงคล ได้รับการเสนอชื่อจาก พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ ให้เป็น “ประธานวุฒิสภา” โดยมี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ และ ดร.นันทนา นันทวโรภาส เป็นคู่ชิงตำแหน่ง โดยก่อนโหวตให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อแสดงวิสัยทัศน์การทำหน้าที่
อ่านข่าว : “มงคล-นพ.เปรม-รศ.นันทนา” แสดงวิสัยทัศน์ชิงเก้าอี้ ปธ.วุฒิสภา
ต่อมา ที่ประชุมสภามีมติเลือกให้ “นายมงคล สุระสัจจะ” ดำรงตำแหน่ง “ประธานวุฒิสภา” ด้วยคะแนนเสียง 159 คะแนน ขณะที่ รศ.นันทนา นันทวโรภาส ได้ 19 คะแนน นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ ได้ 13 คะแนน โดยมีงดออกเสียง 4 และ บัตรเสีย 5
เส้นทางชีวิต “มงคล สุระสัจจะ”
นายมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ว่าที่ ประธานวุฒิสภา เกิดเมื่อวันที่ 9 ส.ค.2495 ปัจจุบันอายุ 72 ปี ที่ อ.หนองโดน จ.สระบุรี
นายมงคล เข้าศึกษาในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ที่โรงเรียนการช่างนครนายก ก่อนย้ายมาสำเร็จการศึกษาที่โรงเรียนพานิชยการพระนครศรีอยุธยา และในระดับอุดมศึกษา จาก คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
นายมงคล ยังเคยดำรงตำแหน่งที่สำคัญ ๆ เช่น
- อดีตอธิบดีกรมการปกครอง
- อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์
- อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดศรีสะเกษ
สมัยอยู่กระทรวงมหาดไทยในมงคลเคยถูกเสนอชื่อเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่เจ้าตัวแสดงเจตจำนงไม่รับตำแหน่งและถอนตัว ภายหลังเกษียณอายุ นายมงคลได้กลับไปใช้ชีวิตเกษตรกร โดยก่อตั้ง ไร่เพื่อนคุณ เมื่อปี พ.ศ. 2558 ที่ อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
และในปี 2567 นายมงคล ลงสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภาไทย ในกลุ่มที่ 1 โดยได้รับเลือกมาเป็นลำดับที่ 3 และเป็น 1 ใน สว. 14 คน จาก จ.บุรีรัมย์ และได้รับการเสนอชื่อจากกลุ่ม สว.สายสีน้ำเงิน จำนวน 150 คน ให้เป็นประธานวุฒิสภา
ล่าสุดวันที่ 23 ก.ค.2567 นายมงคล ได้รับเลือกให้เป็น “ว่าที่ ประธานวุฒิสภา” คนใหม่
อ่านข่าว : “สว.สีน้ำเงิน – สว.พันธุ์ใหม่” เคาะชื่อชิงประธานวุฒิสภา
“มงคล” โชว์วิสัยทัศน์ วางเป้าทำงาน
นายมงคล ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ช่วงหนึ่งในการประชุมครั้งแรก ว่า นับตั้งแต่บรรจุเป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ตำแหน่งปลัดอำเภอ ใต้สำนึกว่าแผ่นดินนี้ให้โอกาสมากมาย จึงตั้งปณิธานว่าจะอุทิศชีวิต และปฏิบัติหน้าที่ตอบแทนคุณแผ่นดิน รับใช้ประชาชนรักษาสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
แรงบันดาลใจก่อนที่จะสมัครเป็น สว. คือความหวังที่จะใช้เวลาเหลืออยู่ของชีวิตทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินเพื่อรับใช้ประชาชนแก้ไขปัญหาของคนในชาติ ในช่วงที่เป็นวิกฤตครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย
นับตั้งแต่วันนี้จะตั้งใจทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่หวังไว้ และเชื่อว่าสมาชิกวุฒิสภามีความตั้งใจไม่ต่างกัน คือ การปฏิบัติหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ ในฐานะสมาชิกวุฒิสภาที่ต้องการให้ประเทศและคุณภาพชีวิตของคนไทยไปสู่สิ่งที่ดีกว่าและดีขึ้นในทุกมิติ
นายมงคล กล่าวว่า ชีวิตผมมาจากก้อนดินก้อนทราย เป็นเด็กวัดเรียนอาชีวะ เข้าใจความยากจนข้นแค้น ความเป็นคนไม่มีเส้นสาย ผมเติบโตมาในระบบข้าราชการด้วยการทำงานอย่างหนัก เป็นความรู้ความสามารถมีประสบการณ์ในการประสานงานกับประชาชนในชนบทมาตลอดชีวิต เมื่อเกษียณราชการไปทำไร่อยู่ในชนบท ฉะนั้นจึงทราบดีและเข้าใจความรู้สึกของ สว. และเข้าใจปัญหา ยืนยันว่ามีประสบการณ์อันยาวนานและมีเพื่อนอยู่ทุกหมู่เรา
หากได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาจะปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญตามข้อบังคับและกฎหมายต่าง ๆ ตลอดจนธรรมเนียมปฏิบัติทางด้านนิติบัญญัติอย่างเต็มสติปัญญาเต็มความรู้ความสามารถเพื่อรับใช้และอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา และพร้อมใช้ความรู้ประสบการณ์ที่มีประสานงานกับทุกคนให้เป็นเนื้อเดียวกันให้เร็วที่สุด
เชิญชวนทุกคนช่วยงานก้าวเดินไปพร้อมกัน เพื่อให้วุฒิสภาแห่งนี้บรรลุผลความเป็นสภาของสามัญชนจากกลุ่มวิชาชีพต่าง ๆ เพื่อเป็นสภาที่ประนอมอำนาจดับวิกฤตของสังคมไทย
อ่านข่าว : “ทนายตั้ม” ให้ข้อมูล ป.ป.ช.คดี “บิ๊กต่อ” ถูกกล่าวหาพัวพันเว็บพนัน
“ภูมิธรรม” แย้ม ต.ค.นี้ใช้เงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท
ครบรอบ 1 ปีพลุระเบิด ปรับเกณฑ์ช่วย “เยียวยา” เจ็บปวดชาวมูโนะ