จากโอท็อปสู่ซอฟต์พาวเวอร์ ‘แพทองธาร’ นำทีมเพื่อไทย พบผู้ประกอบการรายย่อยพะเยา หารือยกระดับวิสาหกิจชุมชน

วันนี้ (2 ส.ค.2567) แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางไปยังจังหวัดพะเยา เพื่อสนับสนุนผู้สมัครนายก  อบจ. พะเยา โดยในช่วงบ่ายของกำหนดการมีการเข้าเยี่ยมชมพบปะกับผู้ประกอบกาดหล่ายต้า Lai Ta Market อ.เมือง จ.พะเยา เวลา 13.30 น. พร้อมเข้าพูดคุยกับผู้ประกอบการรายย่อยที่ผลิตสินค้าชุมชน จ. พะเยา โดยมีการหารือแนวทางผลักดันสินค้าและการส่งออก การเข้าพบในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนในพื้นที่ และได้แลกเปลี่ยนแนวทางการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อพี่น้องผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่ โดยมีนางสาวมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรวงศ์ เทียนทอง สส. สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นางสาววิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ สส. เชียงราย และ ณัฐพงษ์ สุปริยศิลป์ สส. น่าน พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุย

โดยทีมผู้ประกอบการที่มาร่วมพูดคุยประกอบไปด้วย ทีมงานเซรามิกเฮือนปฏิมา, วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยววัดติโลกอาราม กว๊านพะเยา, ทีมผามฝ้ายแม่เพียร (เชียงม่วน), ทีมผ้าทอไทลื้อ (เชียงคำ), ทีมกลุ่มทอผ้าใต้ถุนบ้าน วัดอินทร์ฐานทีมผู้ประกอบการวัฒนธรรม, ทีมวิสาหกิจชุมชนหมี่กรอบลำไยชุมชนดอนไชย, ทีมวิสาหกิจชุมชนแวดเวียง (กาดราชวงศ์), ทีมแม่นายไวน์เนอรี่, ทีมฮิมต้าการ์เด้น, ประชาคมกาดหล่ายต้า 

หลายทีมได้เล่าว่าที่รวมกลุ่มกันทำงานก็เพราะการเกิดขึ้นของโอท็อปเมื่อกว่า 20 ปีก่อน แต่เมื่อดำเนินงานมาถึงจุดหนึ่งก็ติดกับอุปสรรคหลายอย่างที่อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไข หนึ่งในนั้นคือความคับข้องใจของคนทำงานสร้างสรรค์ ในเรื่องภาษีวิสาหกิจชุมชน ที่อาจขอการทบทวนเพราะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ เงื่อนไขบางอย่างอาจสร้างอุปสรรคให้กับธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้น นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องการขอมาตรฐานรับรองของวิสาหกิจชุมชน ซึ่งนับว่าเป็นมาตรฐานการรับรองที่ดี แต่ในทางปฏิบัติจริง ค่าใช้จ่ายของการรับรองมาตรฐานอาจทำให้บางผลิตภัณฑ์ไปไม่ถึงการรับรองดังกล่าว จึงอยากส่งเสียงถึงทีมทำงานเพื่อหารือแก้ไขเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้ได้จริง 

หนึ่งในประเด็นพูดคุยที่ทางทีมพะเยาแชร์ให้ทางทีมเพื่อไทยฟังคือการจัดการเชิงพื้นที่ การประสานความร่วมมือของทีมท้องถิ่น วิสาหกิจชุมชน และภาควิชาการอย่างมหาวิทยาลัย ที่ทำให้การทำงานของกลุ่มพัฒนาขึ้น ตอบโจทย์ตลาด และสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนได้จริง แต่สิ่งที่ต้องหาทางพัฒนาต่อ คือการผลักดันให้เกิดตลาดอย่าง ‘กาดหล่ายต้า’ ตลาดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของชุมชนที่เข้มแข็งแบบนี้เพิ่มขึ้น

โดยนางสาวแพทองธาร ยืนยันว่าทุกเสียงจะถูกรับฟังและรับนำไปหารือเพื่อผลักดันต่อ รัฐบาลเร่ง ‘ซ่อม’ และ ‘สร้าง’ ประเทศ ให้ทุกศักยภาพได้เติบโต 

“ทุกครั้งที่มาพูดคุยกับผู้ประกอบการได้เติมไฟให้ตัวเองทุกครั้ง ได้รับฟังปัญหาและรู้ว่าจะไปปรับแก้ตรงไหนต่อ เรื่องงานซอฟต์พาวเวอร์เป็นงานใหญ่ของรัฐบาลที่จะเดินหน้าเต็มที่แน่นอน ติดขัดกฎหมายอะไรเราจะค่อยๆ แก้ไขกันไป แต่ขอให้เชื่อมั่นว่าจะเดินหน้าเต็มที่ ให้ทุกคนมีรายได้มากขึ้น”

นางสาวแพทองธารกล่าว