คงเดิมทุกอย่าง “เพิ่มเติม” คือความชัดเจนขึ้น ทั้งในความเป็นเอกภาพของขั้วอำนาจ-พรรคการเมือง และสำคัญตรงที่ “หลักการ อุดมการณ์ รวมถึงความเชื่อ” หัวหน้าพรรคประชาชน “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” พูดชัดแล้วว่า “คงเดิม” ไม่เปลี่ยนแปลง ไม่เคยคิดจะปรับเพดาน
ชัด ๆ เลยคือเรื่องการเสนอแก้กฎอาญา มาตรา 112 โดยเฉพาะเจตนา ที่จะปิดกั้นฝ่ายการเมืองนำไปใช้ประโยชน์ ทำลายล้างคู่แข่งทางการเมือง
แต่ความสำคัญของหัวหน้าพรรค ณัฐพงษ์ ระบุคือ “ข้อจำกัดทางกฎหมายที่พรรคต้องทบทวนและศึกษาคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา และเดินหน้าด้วยความระมัดระวัง และที่ชัดเจนขึ้นอีกหนึ่งคือ “บุคลากร” พรรคประชาชน
เพื่อนแท้แค่ไหน ต้องดูจากภาพ “ต๋อม-ติ่ง-เอก” เพื่อนนักเรียน ในนามนักต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย ในรั้วมหาวิทยาลัย และวิถีการเมืองของนายธนาธร ก็เดินบนเส้นทางนี้มาตลอด มีอยู่ยุคหนึ่ง คนการเมืองเรียกว่า “ไพร่หมื่นล้าน”
ขณะที่ ต๋อม ก็คือ ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ที่ว่ากัน นายธนาธร-คอนเนกชัน ให้เข้ามารับหน้าที่แทนนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ในช่วงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เหตุจากคำร้องถือหุ้นไอทีวี และช่วงนั้นก็เป็นช่วงที่ พิธา กับ ปิยบุตร แสงกนกกุล มีเหตุระหองระแหงกัน เรื่องหลักการ-ความคิด และกิจกรรมทางการเมือง ก็มี “ต๋อม” นี่แหละเข้ามาประกบพิธา
และโอกาสนี้ ก็เป็นของ “ติ่ง” นั่นก็คือนายศรายุทธิ์ ใจหลัก ที่ได้รับความไว้วางใจให้เข้ามารับบท “แม่บ้านพรรค” แม่บ้านพรรคในทางการเมือง ก็ย่อมหมายถึงการบริหารจัดการงบฯ ของพรรค การต่อสาย-เจรจา ต่อรองทางการเมือง
สื่อมวลชนพุ่งเป้าถามนายศรายุทธิ์ ซึ่งก็ยอมรับว่า ใช่เป็นเพื่อนกันมาตลอด แต่ก็ใช้เวลาอธิบาย กับคำว่า คนละองค์กร คนละบทบาท เป็นคนละเรื่องกัน เช่นเดียวกัน หัวหน้าพรรค นายณัฐพงษ์ ซึ่งก็ปฏิเสธที่จะถูกครอบงำ-ชี้นำจากนายธนาธร แต่ยอมรับว่า นายธนาธร เป็นคนที่ซัปพอร์ตมาโดยตลอด
ทำไมไม่เป็น “ศิริกัญญา” ?
การแถลงเปิดตัวแกนนำรุ่น 3 และเปิดพรรคประชาชน ก็มีคำถามเหมือนกันว่า เพราะที่มาของ 2 คนนี้ไหม ทำให้ “โผพลิก” ไม่ใช่ ศิริกัญญา ตันสกุล ที่จะได้รับเลือกเป็นผู้นำพรรค ในการประชุมนอกรอบเมื่อวานนี้ (8 ส.ค.2567) ช่วง 20.00-21.00 น. มีการเคาะคะแนนกัน ก็อาจเป็นไปได้อย่างที่เคยระบุไว้ ศิริกัญญา เปิดตัวทางการเมือง เคียงข้าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนี่ก็ข้อสังเกตหนึ่งที่ทำให้ ศิริกัญญา ไม่ได้รับเลือก แต่เพื่อให้ภาพการเดินหน้าต่อของพรรคประชาชนเป็นเอกภาพ
การประชุมใหญ่วิสามัญของพรรคถิ่นกาขาวชาวศรีวิไล เพื่อเปลี่ยนชื่อพรรค เปลี่ยนโครงสร้างผู้บริหารพรรควันนี้ ศิริกัญญากลายเป็นผู้ที่ลุกขึ้นเสนอชื่อ ณัฐพงษ์ และเป็นการเสนอชื่อ “โดยไร้คู่แข่ง” ด้วย ทำให้บรรยากาศของการเลือก หัวหน้าพรรค ซอฟต์-ประนีประนอม เป็นเอกภาพร่วมกัน
และที่เป็นที่สังเกต และตั้งคำถามไปที่ ศิริกัญญา ด้วย นั่นก็คือ ธนาธรมีดีลลับกับใครหรือไม่ มีเจตนาจะให้ ศิริกัญญา หลบใครหรือไม่ เพื่อให้บรรยากาศทางการเมืองโดยรวม ไม่ขัดแย้ง-ช่วงชิงกันมากนัก ซึ่งก็มีคำตอบจาก ศิริกัญญา ว่าก็ยินดีจะทำงานเบื้องหลัง เพื่อประสานและผลักดันให้พรรคประชาชน คงหลักการและอุดมการณ์เดิม การหลบ-หรือเลี่ยงเผชิญกับใคร ไม่ได้อยู่ในสมการ
พรรคประชาชน “เพิ่มเติม” คือความชัดเจนมากขึ้น นอกจากการแก้กฎหมายอาญา ม.112 ต้องถามว่า แล้วศักยภาพและประสิทธิภาพของพรรคฝ่ายค้านในสภาฯ
เอาเป็นว่า รอรัฐบาลก่อน 14 ส.ค.ว่ายังไง นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน จะรอดหรือไม่รอด จากคำร้องถอดถอน เพราะนั่นก็จะหมายถึงภารกิจของพรรคฝ่ายค้าน ที่จะตั้งหลัก ติดตาม ตรวจสอบ แต่ชัดแล้วว่า สถานการณ์การเมืองมี 3 คำร้องเป็นดัชนีชี้วัดความร้อนแรง ข้ามผ่านไปแล้ว 1 คำร้องยุบพรรค
จากนี้ไป ต้องลุ้นคำร้องถอดถอนนายกฯ เศรษฐา ถ้ารอดคือการปรับ ครม. ดิจิทัลวอลเล็ตยังคงอยู่ และนั่นอาจเป็นเรื่องแรก สำหรับการติดตาม ตรวจสอบ ของหัวหน้าณัฐพงษ์ หรือ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ คนใหม่ แล้ว ศิริกัญญา จะยังคงทำหน้าที่ “แข็งขัน” เหมือนเดิมไหม แลนด์บริดจ์-อีอีซี แก้รัฐธรรมนูญ-นิรโทษกรรม ยังไงต่อ
แต่ถ้านายกฯ ไม่รอด ขึ้นมา เขาก็จะเจอกัน “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จากค่ายสีส้ม ทักษิณ ชินวัตร ค่ายสีแดงครูใหญ่เนวิน ชิดชอบ ค่ายสีน้ำเงิน ที่นั่งอยู่เบื้องหลังคอยเดินเกมกัน “เกมเลือกใครเป็นนายกฯ คนต่อไป”
พรรคประชาชนไม่มีแคนดิเดตแล้ว แต่ก็ไม่แน่นะ เมื่อ “ส้มกับแดง” อาจผนึกสู้กับ “น้ำเงิน” ขึ้นมาก็ได้
หรือบทสรุปสุดท้ายจริง ๆ แล้ว คือการเปิดทางให้ “แพทองธาร ชินวัตร” ขึ้นเป็นนายกฯ คนต่อไป แล้วมีทักษิณ “ซัปพอร์ต” และยังคงแบกรับภาระแก้ปัญหาของประชาชนและประเทศ ไปอีก 3 ปี
อ่านข่าวอื่น :
พ่อ “ฟ่าง ธีรพงศ์” ทรุดเข้า รพ.อ่อนเพลีย พักน้อย หมอสั่งพัก 1-2 วัน
ออสเตรียจับ 3 วัยรุ่นเตรียมระเบิดกลางคอนเสิร์ต “เทย์เลอร์ สวิฟต์”