เปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี 2567” มท.1 ชวนเที่ยวงาน ซื้อผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทย 10-18 ส.ค.นี้ ณ ชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เผยวันแรกยอดขายพุ่งแรง 67 ล้านบาท
วันนี้ (11 ส.ค.67) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) เป็นประธานเปิดงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ปี 2567 ภายใต้แนวคิด “หัตถศิลป์สร้างสรรค์ วัฒนธรรมร่วมสมัย สืบสานอัตลักษณ์ผ้าทอไทย จากภูมิปัญญาสู่สากล” ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี
นายอนุทิน กล่าวว่า งานศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี ครั้งนี้ถือเป็นงานระดับประเทศประกอบด้วยกิจกรรมที่หลากหลาย นอกจากประชาชนได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฝีมือคนไทย อันเกิดจากความประณีตและภูมิปัญญา สร้างรายได้ งานอาชีพ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้แก่ผู้ประกอบการจากฐานราก แล้วยังเป็นโอกาสได้ร่วมเทิดพระเกียรติในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
“ผลิตภัณฑ์ที่นำเสนอในงานนี้ จะชวนให้เราได้กลับมานึกถึงความเป็นคนไทย ที่ผ่านการคิดสร้างสรรค์ เติมความอุตสาหะในการสร้างงาน มีความร่วมไม้ร่วมมือในชุมชน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ศิลปาชีพผ่านพระเมตตาและพระอัจฉริยภาพในการยกระดับและออกแบบงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นความภาคภูมิใจทางวัฒนธรรมของชาวไทย และในงานนี้จะเป็นโอกาสให้เราได้มีความรู้สึกลึกซึ้งถึงความผูกพันของชาวไทยต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ การสืบสานพระราชปณิธานขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา และต่อยอดวัฒนธรรมอันดีงามของไทยต่อไป” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ขอบคุณคณะทูตานุทูตของทุกประเทศ คณะรัฐมนตรี คณะกรรมการอำนวยการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์แห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ร่วมจัดงานในครั้งนี้ พร้อมเชิญชวนชาวไทย และชาวต่างชาติร่วมเลือกชมและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากฝีมือคนไทยตลอดช่วงเวลา 9 วันของการจัดงานระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2567
ทั้งนี้ ในพิธีเปิด นายอนุทิน ได้นำผู้ร่วมงานขับร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงสดุดีจอมราชา เพื่อถวายพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และร่วมรับชมการแสดง “เปิดบันทึกตามรอยพระเมตตา ส่องชีวิตปวงประชามั่นคง” ซึ่งเป็นการแสดงลำนำคำร้องบทเพลงกล่าวถึงพระมหากรุณาธิคุณด้านงานหัตถศิลป์หัตถกรรมไทยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง การวาดภาพ การแสดงจินตลีลา และการแสดงแฟชั่นโชว์นางแบบและคนขายาวในชุดผ้าไทย ผ้าไทยถิ่น หลากรูปแบบจากภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ภายใต้ธีม “มณีนพรัตน์เจิดจรัสแสง” โดยนำเฉดสีของอัญมณีทั้ง 9 ชนิดมาถ่ายทอดให้เห็นความงามของผ้าทอไทยตามสีอัตลักษณ์ของอัญมณี เพื่อสื่อถึงพระเมตตาของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่เปล่งแสงทอประกายความสุข ความรุ่งเรืองสู่แผ่นดินไทย โดยไฮไลท์ของช่วงพิธีเปิด นายอนุทิน ได้นำหัวใจแห่งความกตัญญู ซึ่งหัวใจนี้ เปรียบเสมือนหัวใจของชาวไทยทุกภาคส่วนที่มุ่งมั่นสานต่อพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง วางบนแท่นพิธีเปิด
ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีเปิด นายอนุทิน พร้อมคณะ ได้เดินเยี่ยมชมนิทรรศการจากหน่วยงานภาคี การสาธิต พร้อมพูดคุยกับผู้ผลิตผู้ประกอบการที่นำสินค้ามาแสดงและจัดจำหน่าย โดยนายอนุทินได้ร่วมกิจกรรมต่างๆ กับผู้ประกอบการ อาทิ แกะสลักพระพิฆเนศปางประทานพรทรงดนตรี ผลงานนายบรรยง คำยวง ศิลปิน OTOP จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนช่างแกะสลักบ้านถวาย อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ร่วมเป่าขลุ่ยที่โซนศิลปิน OTOP พร้อมเยี่ยมชมสินค้าร้านมูลนิธิศิลปาชีพฯ และร้านมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย
นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนเป็นหน่วยงานหลักในการจัดงานศิลปาชีพประทีปไทยฯ ในครั้งนี้ ซึ่งมีกำหนดจัดงาน 9 วัน ระหว่างวันที่ 10-18 สิงหาคม 2567 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี โดยกิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2557 และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 92 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
การจัดการแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ การแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาจากกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน มีผลการคัดเลือกสรรระดับ 3-5 ดาว จาก 76 จังหวัดและกรุงเทพมหานคร มากกว่า 2,000 กลุ่ม มีกิจกรรมไฮไลท์ ได้แก่ โซนศิลปิน OTOP เพื่อนำเสนองานฝีมือที่เกิดจากภูมิปัญญาอันทรงคุณค่า โซนผ้าไทยใส่ให้สนุก การจัดนิทรรศการวันแม่และนิทรรศการผ้าไทย รวมถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและการปรับพื้นที่เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ร่วมงาน ทั้งโซน Rest Area และ Street Food เพื่อเพิ่มที่นั่งรับประทานอาหารให้กับผู้เข้าร่วมชมงาน ตั้งเป้ายอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งในวันแรกของงาน คือ เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่าย 67 ล้านบาท