วันนี้ ( 14 ส.ค.2567) เวลาประมาณ 15.28 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หลังตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ อ่านคำวินิจฉัยชี้ชะตาคดีถอดถอน นายเศรษฐา ทวีสิน ปมแต่งตั้ง “นายพิชิต ชื่นบาน หลังกรณี 40 สว. ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สิ้นสนสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ จากกรณีทูลเกล้าฯ รายชื่อทั้งที่รู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ
อ่านข่าว : เปิดขั้นตอนสรรหา “นายกรัฐมนตรี” คนต่อไป
เปิดชื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เสียงข้างมาก มติ 5 : 4 “เศรษฐา” พ้น “นายกฯ”
ผลการตัดสินศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 5-4 เสียง นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ชี้ขาดคุณสมบัติ ไม่ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมอย่างร้ายแรง และรัฐมนตรีต้องพ้นตำแหน่งทั้งคณะ ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย เมื่อเวลา 15.28 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,287.70 จุด ลดลง 10.09 จุด (-0.78 %) ก่อนไหลต่อ 15 จุด มาอยู่ที่ 1,282.62 จุด (-1.17 %)
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยภาคบ่ายปรับตัวลงไปกว่า 10 จุด ตอบรับศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายกรัฐมนตรีหลุดจากตำแหน่งพร้อมคณะรัฐมนตรีทั้งชุด ทั้งนี้ตามกระบวนการหลังจากนี้ต้องเลือกนายกคนใหม่ พร้อมกับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทั้งหมด ซึ่งระยะสั้นจะสร้างแรงกดดันต่าง ๆ ต่อนโยบายรัฐบาลที่เคยเป็นชูโรงของนายกฯ
โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเลต ซึ่งกระทบกับกลุ่มค้าปลีก (BJC CRC CPALL DOHOME HMPRO) และกองทุนวายุภักษ์ อย่างไรก็ตามยังมองบวกกับดัชนีและมองการปรับฐานเป็นโอกาสสะสม บนสมมติฐานทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลาย
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า จากการที่นายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทางฝ่ายประเมินว่า ดัชนี SET Index มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,250 จุด ท่ามกลางควางกังวลเสถียรภาพของการเมืองไทย และมาตรการทางเศรษฐกิจของภาครัฐที่มีแนวโน้มสะดุดลง โดยเฉพาะโครงการดิจิทัลวอลเลต
ทั้งนี้ SET Index จะติดตามการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ที่อาจใช้เวลาประมาณ 1 เดือน และนโยบายของรัฐบาลใหม่ในขั้วเดิม ก่อนเลือกทางอีกครั้ง ซึ่งหากการเลือกนายกรัฐมนตรีดำเนินไปได้ปกติ กล่าวคือไม่เกิดภาวะสุญญากาศเป็นเวลานาน และรัฐบาลใหม่มีนโยบายที่เอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ จะส่งผลให้ SET Index มีแนวโน้มที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวในระยะถัดมา
ส่วนค่าเงินบาท เมื่อเวลา 14.40 อยู่ระกับ 34.58 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากนั้นเงินบาทอ่อนค่าลงไปอยู่ที่ระดับ 35.07 บาท/ดอลลาร์ และหลังอ่านคำวินิจฉัยเสร็จสิ้น เงินบาทได้ทยอยกลับมาแข็งค่าหลุดระดับ 35 บาท อีกครั้ง มาอยู่ที่ 34.97 บาท/ดอลลาร์ เมื่อเวลา 15.40 น.
อ่านข่าว : “เศรษฐา” ไม่รอด ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินพ้นตำแหน่งนายกฯ
