หน้าแรก Voice TV ยันไม่ยกเลิก AIMAG ‘เสริมศักดิ์’ ขอตรวจสอบงบ 980 ล้านบาท ส่ง ‘สตง.-ปปช.’ สอบการใช้เงิน

ยันไม่ยกเลิก AIMAG ‘เสริมศักดิ์’ ขอตรวจสอบงบ 980 ล้านบาท ส่ง ‘สตง.-ปปช.’ สอบการใช้เงิน

52
0
ยันไม่ยกเลิก-aimag-‘เสริมศักดิ์’-ขอตรวจสอบงบ-980-ล้านบาท-ส่ง-‘สตง-ปปช.’-สอบการใช้เงิน
ยันไม่ยกเลิก AIMAG ‘เสริมศักดิ์’ ขอตรวจสอบงบ 980 ล้านบาท ส่ง ‘สตง.-ปปช.’ สอบการใช้เงิน

‘เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช’ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเซียนอินดอร์และมาเซียลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 ซึ่งถูกเลื่อนมาหลายปี พร้อมให้ตรวจสอบการใช้เงิน 980 ล้านบาท

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ส่งหนังสือถึง ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย กรณีการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกม (AIMAG) ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 67 ที่ผ่านมา ระบุว่า ตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยแจ้งว่า คณะกรรมการฝ่ายและสำนักของการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้ปรับลดวงเงินจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 ลงเป็นจำนวน 179,997,615 บาท คงเป็นงบประมาณที่ต้องใช้จัดการ แข่งขันอีกเป็นเงิน 1,218,908,185 บาท นั้น กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาแล้ว ขอแจ้งว่า เนื่องจากการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียน อินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 นั้น ได้ถูกเลื่อนการจัดมาหลายปีแล้ว มีการเบิกจ่ายงบประมาณของทางราชการไปแล้ว จำนวนประมาณ 980 ล้านบาท ประกอบกับมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก เกี่ยวกับความคุ้มค่า และความโปร่งใสของการดำเนินการที่ผ่านมา จึงขอให้ผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทยดำเนินการแจ้งต่อสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (Olympic Council of Asia : OCA) ว่า ทางการไทย ยืนยันจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเซียนอินดอร์และมาเซียลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 ตามพันธะสัญญาอย่างแน่นอน

ทางการไทย ยืนยันจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเซียนอินดอร์และมาเซียลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 ตามพันธะสัญญาอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ขอให้ตรวจสอบในรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 ซึ่งได้เบิกจ่ายไปแล้วประมาณ 980 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงินค่าเก็บตัวนักกีฬา เงินค่าเตรียมการจัดการแข่งขันฯ และค่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ แล้วรายงานยืนยัน ความถูกต้องและความโปร่งใส ต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใน 7 วัน และหากตรวจพบ ความผิดปกติหรือเหตุอันควรสงสัยว่ามีการทุจริตและประพฤติมิชอบ ขอให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยทันที

และเนื่องจากจำนวนเงินที่เสนอขอใช้จัดการแข่งขันฯ เป็นจำนวนกว่า 1,200 ล้านบาท และมีรายละเอียดมาก จึงขอให้นำรายละเอียดและเหตุผลความจำเป็นเสนอต่อคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองด้านการพัฒนากีฬา พิจารณาโดยไม่ชักช้า จากนั้นขอให้รายงานยอดเงินงบประมาณที่ผ่านการกลั่นกรองแล้วเสนอต่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้เพื่อให้การจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกม ครั้งที่ 6 เป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และปราศจากข้อครหาใด ๆ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้แจ้งให้สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาดำเนินการ ตามอำนาจหน้าที่อีกทางหนึ่งแล้ว

นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้โพสต์ชี้แจงกรณีย้ำว่า ‘เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช’ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ไม่ได้ยกเลิกเป็นเจ้าภาพ ‘เอเชียนอินดอร์เกมส์ฯ’ โดยระบุว่า

ขอชี้แจงกรณีไทยยกเลิกเป็นเจ้าภาพ ‘เอเชียนอินดอร์เกมส์ฯ’ ครับ ท่านรัฐมนตรีไม่ได้ยกเลิก เราเดินหน้าเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน แต่ขอให้มีการตรวจสอบงบประมาณจำนวน 1.3 พันล้าน เนื่องจากมีการปรับลดชนิดกีฬา และ นักกีฬาต่ำกว่าเป้า

ย้ำว่าไม่ได้เลื่อนจัด ยังเดินหน้า เพียงแต่ขอตรวจสอบงบประมาณเพื่อความโปร่งใส กับงบประมาณแผ่นดินกว่าพันล้านครับ

////

ในนามกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เราเดินหน้าเป็นเจ้าภาพการแข่งขันมาโดยตลอด แต่สิ่งที่ท่านรัฐมนตรีใช้เวลาพิจารณาคือ “งบประมาณสำหรับการจัดการแข่งขันที่อาจจะไม่คุ้มค่า”

#ประเด็นแรกครับ ในการจัดการแข่งขันกีฬาดังกล่าวกว่า 2,299 ล้านบาท ภายใต้ 38 ชนิดกีฬา และมีการคาดการณ์จำนวนนักกีฬาเข้าร่วมไว้ที่ประมาณ 14,000 คน แต่ทางสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (Olympic Council of Asia : OCA) ได้แจ้งหนังสือถึงนายเสริมศักดิ์ ในการปรับลดชนิดกีฬาเหลือเพียง 24 ชนิด

แต่ข้อมูล ณ วันที่ 17 ส.ค. 2567 พบว่า มีการลงทะเบียนนักกีฬาทั้งหมดเพียง 1,938 คน ใน 24 ชนิดกีฬา!

ดังนั้นสิ่งที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เป็นกังวลคือ ประสิทธิภาพ และประสิทธิผลที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยจากการจัดการแข่งขันครับ

จากกรณีที่จำนวนชนิดกีฬาลดลง และยอดนักกีฬาที่ลงทะเบียนเข้าร่วมต่ำกว่าเป้านั้น ไม่มีเหตุอันใดที่ทางการไทยจะไม่จัดการแข่งขัน หรือก่อให้เกิดความล่าช้าในการประชุมเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2567

แต่สิ่งที่เราต้องพิจารณาคือ เรื่องของการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า โปร่งใส ซึ่งวันนี้ก็สามารถจัดการแข่งขันได้ แต่ถามว่า ประเทศชาติจะได้ประโยชน์หรือไม่? แล้วท้ายที่สุดภาษีของประชาชน และสังคมจะได้ประโยชน์หรือไม่? นั่นคือสิ่งที่ทางท่านรัฐมนตรีให้ความสำคัญมากกว่าครับ

โดยในวันที่ 19 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมานั้น ทางนายเสริมศักดิ์ได้ออกหนังสือไปถึงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อขอให้มีการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินจำนวนกว่า 800-900 ล้านบาทที่ได้เบิกจ่ายไปก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะขอให้ตรวจสอบ เงินค่าเก็บตัวนักกีฬาว่ามีการจ่ายตามจริง เเละถึงตัวนักกีฬาจริงหรือไม่ รวมถึง เงินค่าเตรียมการจัดการแข่งขัน และเงินค่าระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการใช้จ่ายที่ถูกต้อง โปร่งใส หรือมีการทุจริตแต่อย่างใดหรือไม่

และได้ขอให้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย รายงานการใช้จ่ายเงินดังกล่าว รวมถึงได้ขอให้ทาง ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตของกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามอำนาจหน้าที่ และรายงานกลับมายังนายเสริมศักดิ์โดยด่วน

โดยประเด็นที่อ้างว่า หากไม่จัดเอเชียนอินดอร์เกมส์ แล้วอาจโดนแบนในการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์นั้น ขอยืนยันครับว่าในอดีตมีประเทศที่เคยยกเลิกการเป็นเจ้าภาพอย่าง เกาหลีใต้ สิงค์โปร์ เวียดนาม จีน แต่ไม่ได้มีการถูกแบนจากการแข่งขันแต่อย่างใด และที่สำคัญคือเงื่อนไขการโดนแบนด้วยสาเหตุการเปลี่ยนเจ้าภาพในการแข่งขันนั้น ไม่ได้ถูกระบุไว้ในเงื่อนไขสัญญา

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่