ยังอยู่ในการคาดการณ์ว่า “แพทองธาร ชินวัตร” จะนั่งเพียงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 หรือควบตำแหน่ง “รมต.” ซึ่งขณะนี้มี 3 ตัวเลือก คือ กลาโหม ต่างประเทศ และคลัง
แต่กระทรวงการต่างประเทศ น่าจะมีน้ำหนัก และเหมาะสมกับ น.ส.แพทองธาร มากที่สุด เช่นเดียวกับกรณี “เศรษฐา ทวีสิน” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่นั่งควบตำแหน่ง รมว.คลัง ด้วยเหตุผลการขับเคลื่อน “ดิจิทัลวอลเล็ต” นโยบายเรือธงของพรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายกลายเป็นจุดอ่อน เพราะนายกฯ เศรษฐา ไม่ได้โฟกัสที่ “ดิจิทัล”
สุดท้าย “ครม.เศรษฐา 1” ต้องปรับ “เศรษฐา1/1” และให้ “พิชัย ชุณหวชิร” นั่ง “รมว.คลัง” แต่ก็ไม่ใช่ผู้ชำนาญการเฉพาะ “ดิจิทัลวอลเล็ต” จึงต้องเสริมทัพด้วย “จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์” และ “เผ่าภูมิ โรจนสกุล” แต่ก็ยังไม่ลงตัว
หากย้อนกลับไป 10-20 ปี พบว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเกือบทุกคน มักนั่งเก้าอี้ควบ 1 รมว. และส่วนใหญ่เป็น รมว.กลาโหม ทั้ง “พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ” และ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อดีตผู้บัญชาการทหารบก โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ กุมอำนาจทั้งการเมืองและกองทัพ หลังรัฐประหารได้แต่งตั้งบุคคล และกลุ่ม คสช.ผันมาสู่การเมือง รวมทั้งนั่ง “นายกฯ ควบ กลาโหม” เกือบ 10 ปี ทั้งในยุครัฐบาล คสช. และรัฐบาลเลือกตั้ง
ส่วนยุค “ชวน หลีกภัย” และ “สมัคร สุนทรเวช” นายกฯ พลเรือน ควบกลาโหม ด้วยเหตุผลให้กองทัพกับการเมืองใกล้ชิด-สัมพันธ์กัน เมื่อกองทัพนิ่ง-การเมืองก็มั่นคง รวมถึงรัฐบาลพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย ในยุคของคนในตระกูล “ชินวัตร” ยกเว้นทักษิณ ชินวัตร ที่เลือกนั่งเพียงตำแหน่งนายกฯ เพราะต้องเฝ้าระวัง “เหตุยึดอำนาจรัฐประหาร” โดยเฉพาะอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์
“ไทยรักไทย-พลังประชาชน-เพื่อไทย” ย่อมต้องตระหนักในเรื่องนี้ และให้ความสำคัญที่จะเฝ้าระวังในทุกยุค-ทุกสมัยที่คนของ “พรรค” ก้าวขึ้นมานั่งเก้าอี้นายกฯ และเล่นเอารัฐมนตรี “สุทิน คลังแสง” เกือบหลุดโผ “ครม.เศรษฐา 1/1” มาแล้ว วันนี้ “แพทองธาร” เข้ามานั่งเก้าอี้นายกฯ จึงเป็นอีกข้อสังเกตว่าจะควบกลาโหมหรือไม่
กางโผ ครม.แพทองธาร เมื่อวานนี้ (19 ส.ค.) ชี้ว่าสุทิน หลุดโผ แต่ก็ยังไม่ลงตัว โดยมีชื่อ “พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก” และ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี เข้ามาด้วย ยังไม่แน่ชัดว่าสุดท้ายเก้าอี้นี้อาจตกไปอยู่ในมือขั้วอนุรักษ์นิยม ที่มีชื่อ “พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร” แต่คนในพรรคเพื่อไทย ชี้ว่า นี่คือผู้ยื่นฟ้องคดีอาญามาตรา 112 ต่อทักษิณ จึงมีอีกชื่อเป็น พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เจ้าตัวระบุว่ายังไม่มีสัญญาณบ่งชี้
ถ้าปิดประตูสนามชัย 1 ไปแล้ว นายกฯ แพทองธาร อาจนั่งควบกระทรวงต่างประเทศ ด้วยความโดดเด่นเป็นคนรุ่นใหม่ แต่ภารกิจนี้ไม่ใช่เพียงภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น และการยอมรับจากนานาประเทศ เพราะประเด็นข้อพิพาทที่ดินทับซ้อนระหว่างประเทศ ถือเป็นงานยาก-งานหิน
ขณะที่ “มาริษ เสงี่ยมพงษ์” เจ้ากระทรวงต่างประเทศ ก็ออกมาบอกว่าไม่เคยพูดจะไม่รับตำแหน่งนี้ รวมทั้งมีชื่อของ “นพดล ปัทมะ” และ “นลินี ทวีสิน” แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่เพื่อไทยจะสลับเก้าอี้ให้ “วราวุธ ศิลปอาชา” จากชาติไทยพัฒนา ซึ่งเจ้าตัวระบุว่าพร้อมสานต่องานของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่สุดท้ายแล้วแต่พรรคแกนนำพิจารณาเพื่อให้ ครม.ใหม่ เดินหน้าไปได้
ทางเลือกสุดท้าย นายกฯ แพทองธาร ควบคลัง เช่นเดียวกับอดีตนายกฯ เศรษฐา แต่ถือว่าสุ่มเสี่ยง และหาคนอื่นที่เชี่ยวชาญมานั่งตำแหน่งนี้น่าจะเหมาะสมกว่า
ตามกระแสระบุว่า “พิชัย ชุณหวชิร” หลุดโผ “รมว.คลัง” อาจเป็น “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” เข้ามานั่งเก้าอี้แทน เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ และใกล้ชิดในสายงานนายกฯ แพทองธาร
อีกกระแสหนึ่งคาดว่าเป็น “สุชาติ ธาดาธำรงเวช” มือหนึ่งของพรรคเพื่อไทย ถ้าได้ก็น่าจะเป็นแรงผลักดันจากทักษิณ รวมถึงกระแสชื่อคนนอกอย่าง “ศุภวุฒิ สายเชื้อ” แต่เจ้าตัวเพิ่งรับตำแหน่งประธานสภาพัฒน์
ความเป็นไปได้ที่สุด นายกฯ แพทองธาร น่าจะนั่งควบเก้าอี้ รมว.ต่างประเทศ หรือสุดท้ายอาจใช้โมเดลเดียวกับทักษิณ นั่งนายกฯ เพียงอย่างเดียว
วิเคราะห์โดย เสาวลักษณ์ วัฒนศิลป์ บรรณาธิการข่าวการเมือง ไทยพีบีเอส
อ่านข่าว : “ทักษิณ” ปัด “บิ๊กป้อม” สายตรง เหน็บถ้าจะมาต้องมาทั้งตัว
เช็กชื่อ 26 สส. “กลุ่มธรรมนัส” ลอยแพบิ๊กป้อม
“วราวุธ” ส่งชื่อ รมต.แล้ว ยืนยันชื่อเดิม-กระทรวงเดิม