วันนี้ (27 ส.ค.2567) นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล รักษาการประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีที่บุคคลนิรนาม ยื่นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยุบพรรคเพื่อไทย เนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าครอบงำว่า ไม่เห็นด้วยกับการที่ใครก็ตามยื่นยุบพรรคการเมืองด้วยข้อหาแบบนี้
โดยหลักแล้วด้วยข้อหาใด ๆ ก็ตาม การยุบพรรคควรเกิดจากประชาชนไม่เลือกพรรคนั้น คิดว่าการที่บุคคลภายนอกมีอิทธิพลกับพรรคใด ๆ ก็ตาม เป็นเรื่องที่ประชาชนสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และสามารถตัดสินได้ผ่านคูหาเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ไม่ว่านายกรัฐมนตรี หรือผู้นำพรรค จะบริหารประเทศด้วยตัวเองหรือถูกชักจูงจากคนอื่น ก็เป็นสิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ และเป็นสิทธิที่ประชาชนจะตัดสินว่าถูกต้องหรือไม่ ชอบหรือไม่ แต่ต้องไม่ใช่การให้คนไม่กี่คนมาตัดสินว่าผิดกฎหมาย แล้วให้คนไม่กี่คนไปยื่นยุบพรรค
อ่านข่าว นายกฯ โยน พปชร.เคลียร์ให้จบ เร่งจัด ครม.เชื่อคนตกโผไม่น้อยใจ
ส่วนการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ฝ่ายค้านก็ทำไปตามกระบวนการปกติที่เคยทำ ไม่ว่าจะตรวจสอบรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีอย่างไร ก็ทำไปตามนั้น และดูว่าผลงานที่ออกมากับสิ่งที่สัญญากับประชาชนตรงกันหรือไม่ และนำพาประเทศไปสู่ทางไหน เรื่องบุคคลภายนอกคิดว่าไม่ได้เป็นปัจจัยสำคัญ
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงกระแสพรรคประชาธิปัตย์ จะเข้าร่วมรัฐบาล จะทำให้กระทบกับการทำงานของฝ่ายค้านหรือไม่ว่า ได้คุยกับตัวแทนจากพรรคประชา ธิปัตย์ที่เข้าร่วมประชุมฝ่ายค้าน บอกว่านายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้แจ้งแล้วว่ายังไม่มีการเทียบเชิญใด ๆ ให้เข้าร่วมรัฐบาล จึงยังไม่มีกระบวนการใดๆ อย่างเป็นทางการ และพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่มีการนัดประชุม เพื่อพูดคุยกันในเรื่องนี้
คิดว่าควรจะต้องรอข้อเท็จจริงถึงจะตัดสินได้ แต่หากในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์ร่วมรัฐบาลจริงๆ ก็ไม่มีปัญหาในการทำงานของพรรคฝ่ายค้าน เพราะเราก็ต้องเดินหน้าต่อ ไม่มีปัญหา
อ่านข่าว “พปชร.” ส่งหนังสือถึงนายกฯ ให้ส่งแบบกรอกข้อมูล “รมต.” ให้ “พัชรวาท”
ท่าทีพรรคประชาธิปัตย์ หลังสะพัดร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่าหากพรรคพลังประชารัฐ ต้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยมีส่วนของพลอ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ต้องกลายมาเป็นฝ่ายค้าน พรรคประชาชนจะต้องเตรียมตัวอย่างไร
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า หากเกิดเหตุการณ์ 1 พรรค 2 ระบบ ไม่แน่ใจในกระ บวนการว่าสามารถนับเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านได้หรือไม่ เพราะไม่ว่าจะกลุ่มใดพรรคใดก็ตาม มีความประสงค์แล้วแจ้งมาว่าจะทำงานเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านก็เปิดรับทุกพรรค โดยอาจจะต้องมีการพูดคุยการทำงานว่าเรื่องไหนไปด้วยกันได้ จะเอาอย่างไร เพราะปกติ
ยืนยันมาตลอดว่าสภาพของพรรคร่วมฝ่ายค้าน คือพรรคที่ไม่ถูกเชิญไปร่วมรัฐบาล ดังนั้นทุกเรื่องไม่จำเป็นต้องเห็นตรงกัน
เมื่อถามถึงกระบวนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ดูเหมือนจะเป็นการลอยแพพรรคประชาชนให้เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ไม่เพราะในอดีตที่ผ่านมาก็เคยเห็นมาแล้ว อาจจะมีสภาวะที่เป็นฝ่ายค้านแทบจะพรรคเดียว ตอนนี้ก็ยังมีพรรคเป็นธรรม และพรรคไทยก้าวหน้าที่เป็นฝ่ายค้านอยู่
ส่วนพรรคไทยสร้างไทย ก็ยังยืนยันว่าในอนาคตยังอยากที่จะทำงานร่วมกับฝ่ายค้านอยู่และไม่ได้มีความคิดจะไปร่วมรัฐบาล ส่วนในอนาคตก็ต้องดูกันต่อไป
อ่านข่าว
สั่งย้าย-สอบโทษวินัย “ปลัดอำเภอ” ทำร้าย พนง.ร้านอาหารสระแก้ว
ไทม์ไลน์ “ผู้ว่าฯ พุฒิพงศ์” คุมน้ำท่วม ตรงวัน “อนุทิน” ลงเชียงราย