สถานะไม่ชัดเจน แต่ไฉไลกว่าเดิม สำหรับ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” แม้ชื่อยังอยู่ในพรรคเก่า แต่ส่ง 3 รัฐมนตรี น้องชาย “อัครา พรหมเผ่า” และ “อิทธิ ศิริลัทยากร” รวมทั้ง “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” ไปนั่งในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วย ในนามพรรคกล้าธรรม แถมย้ำชัดเจนว่า ไม่ได้เป็นฝ่ายค้านแต่อยู่พรรคร่วมรัฐบาล และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารพรรคพลังประชารัฐอีกแล้ว
โดยตำแหน่งในสภานั้น ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 จ.พะเยา และทำหน้าที่สนับสนุนรัฐบาล … ฝ่ายรัฐบาลที่มีอยู่ในพรรคฝ่ายค้าน หรือ ฝ่ายค้านที่มีอยู่ในฝั่งรัฐบาล ประชาชนสับสน หรือไม่ ไม่รู้ แต่ที่แน่ ๆ ในการประชุมสภาเพื่อพิจารณางบประมาณปี 2568 ในวันนี้ (3 ก.ย.2567) ฝั่งของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้นั่งอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะฝ่ายค้าน แต่ยกพลไปอยู่ฝั่งเพื่อไทย
แม้ก่อนหน้านี้ ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะระบุว่าการประชุมใหญ่สามัญครั้งหน้าไม่มีวาระการขับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกจากพรรค และไม่มีใครจะขับครอบครัวตัวเองและยังมีความสุขที่จะอยู่ด้วยกัน โดยในวันที่ 6 ก.ย. จะมีประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2/2567 ที่พรรคพลังประชารัฐ เพื่อพิจารณาตั้งกรรมการบริหารพรรค และกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งเพิ่มเติม เนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคลาออก จึงต้องตั้งเพิ่มเติมให้ครบถ้วน แต่งานนี้ไม่ต้องบอก ก็คงพอจะเดาทางล่วงหน้าได้ว่า กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส คงไม่ได้เข้าร่วมแน่นอน
โผ ครม.แพทองธาร สะเด็ดน้ำแล้ว หลังก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า รายชื่อผู้ที่ได้รับการเสนอ 11 คนไม่ผ่านด่านตรวจเข้ม และล่าสุดมี 2 ราย ที่ไม่ผ่านการตรวจคุณสมบัติ ยังไม่ปรากฏรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง แต่ในที่สุด เจ้าพ่อลุ่มน้ำสะแกกรัง แห่งจ.อุทัยธานี “ชาดา ไทยเศรษฐ์” รักษาการ มท.3 ขอไม่ไปต่อ
แต่ส่งไม้ต่อให้ “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์” บุตรสาวคนที่ 2 รับหน้าที่แทน เป็นรัฐมนตรีหน้าใหม่ในวัย 39 ปี และได้ฝึกงานการเมืองกับบิดามาก่อนหน้านี้ โดยอยู่ในทีมคณะทำงานของ รมช.มหาดไทย ในยุครัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน
ศึกในพรรคจบแล้ว แต่ศึกท้องถิ่น เพิ่งจะเคลียร์ลงตัวระหว่าง “เผด็จ นุ้ยปรี” คนสนิท และ “มนัญญา ไทยเศรษฐ์” น้องสาว ของนายชาดา ที่ต่างมุ่งมั่นจะลงชิงเก้านายก อบจ.อุทัยธานี ในครั้งนี้ ก่อนที่ “มนัญญา” จะมาเป็น รมช.กระทรวงเกษตรฯ และ รมช.มหาดไทย ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เคยได้รับเลือกให้เป็น นายกฯ อบจ.เมืองอุทัยธานี ในปี 2562 และเมื่อวานนี้ (2 ก.ย.2567) ได้เดินทางไปสมัครรับเลือกตั้ง แต่ในที่สุดก็ยอมถอย
“การลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.อุทัยธานี ครั้งนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะทะเลาะกับใคร เพียงแนวคิดทางการเมืองที่ไม่ตรงกัน ไม่เกี่ยวกับปัญหาภายในครอบครัว” มนัญญา ระบุ สำหรับชนวนปัญหาที่ทำให้ มนัญญา ตัดสินใจลงสมัคร ด้วยเหตุจากการจัดสรรตำแหน่ง รวมถึงการบริหารงานในพื้นที่ และหากนายเผด็จ ลงสมัครในนามกลุ่มคุณธรรมเพียงคนเดียว จะต้องมีสัญญาใจว่านายเผด็จ ต้องไปขอโทษ น.ส.มนัญญา เพื่อเคลียร์ปัญหาในอดีตที่เกิดขึ้น
เสียงเตือนด้วยหวังดี ถาวร เสนเนียม สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ นายกหุ่นเชิดของ “เตี่ย” มีหลายตอนระบุไว้น่าสนใจ … อีกไม่กี่วันประเทศของเราก็จะได้นายกฯ และรัฐบาลมาบริหารประเทศภายใต้การกำกับของ “เตี่ย” ผมคาดการณ์ว่า “เตี่ย” ไม่ได้หยุดอยู่กับการเลี้ยงหลานและไม่ได้แคร์ความรู้สึกของประชาชนแม้แต่น้อย “เตี่ย” จะกำกับการแสดงเอง นายกฯ จะฟังเสียง “เตี่ย” และ “อาอ้วน”
การร่วมรัฐบาล ต้องเพื่อการพัฒนาประเทศและเพื่อแก้ปัญหาของบ้านเมือง โปรดอย่าอ้างเพื่อ “ก้าวข้ามความขัดแย้ง” เพราะถ้าเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งปัญหาใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นปัญหาเรื้อรัง ของบ้านเมืองจะไม่ได้รับการแก้ไข คือ ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมรัฐบาลจะแก้ไขปัญหานี้ด้วยการแจกเงินและหวังว่าคะแนนเสียงจะดีขึ้น โดยไม่สนใจการแก้ไขปัญหาที่แท้จริงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
… ทุกภาคส่วนต้องการเห็นนักการเมืองสุจริต ไม่มีการทุจริตคอร์รัปชัน มีองค์กรอิสระที่ทำงานรวดเร็วมีความเป็นอิสระใช้อำนาจตรงไปตรงมาเชื่อถือได้ทดังนั้นถ้ารัฐบาลโดยการนำของนายกที่จะเข้ามาบริหารในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ถ้ายังเป็นการเมือง “น้ำเน่า” “น่าขยะแขยง” ภาพนักการเมืองยังติดลบมุ่งหาผลประโยชน์
“อาเตี่ย” ยังกำกับควบคุม นายกฯยังเป็น “หุ่นเชิด” “หุ่นกระบอก” “คุณหนูหลงตัวเอง” นายกฯ เป็นดาราของเตี่ย และ “เตี่ย” ยังเป็นผู้ชนะสิบทิศส่อทุจริตมีผลประโยชน์ทับซ้อน ทำลายกระบวนการยุติธรรม … รัฐบาลหุ่นกระบอก หุ่นเชิดจะไม่ครบยก หรืออาจโดน “หมัดเดียวปิดบัญชี” ถูกนับสิบยกแรก
แก้ขวย หลังถูกโซเชียลถล่มยับ เข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย “วิรัช ร่มเย็น” นายทะเบียนสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หลังเดินสายจัดโครงการฝึกอบรมให้ความรู้สมาชิกพรรค และแกนนำเครือข่ายประชาธิปัตย์ทั่วประเทศ พบปะสมาชิกเก่า และรับสมัครสมาชิกใหม่ ในเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา มี ประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมอุดมการณ์ทางการเมือง กับพรรคฯ โดยขอสมัครเป็นสมาชิกใหม่จำนวน 5,208 คน
โดยเฉพาะภาคใต้ได้สมาชิก จำนวน 3,851 คน, ภาคอีสาน 749 คน, กทม. 244 คน, ภาคกลาง 230 คน, ภาคเหนือ 134 คน ส่วนตัวเลขของสมาชิกที่ลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ มีเพียง 77 คน
อ่านข่าว
สว. เห็นชอบ “ประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ” ประธานศาลปกครองสูงสุด