ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้ ‘สส.พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน’ ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และ ‘สส. ภราดร ปริศนานันทกุล’ ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง
วันนี้ (ก.ย.2567) ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส. จ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายภราดร ปริศนานันทกุล สส. จ.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ยืนยันพร้อมทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลาง ขับเคลื่อนงานของรัฐสภา เพื่อประโยชน์สูงสุดของสมาชิกรัฐสภา และประชาชน
วาระพิจารณาการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจากนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ได้พ้นจากตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ก่อนครบวาระ เนื่องจากขาดสมาชิกภาพสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 118 (1) เป็นเหตุให้ตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่งว่างลง ประกอบกับนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ได้ทำหนังสือแจ้งความประสงค์ขอลาออกจาตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.67 จึงทำให้ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมจึงขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ดำเนินการเลือกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง แทนตำแหน่งที่ว่าง และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง แทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรฯ ข้อ 7 ประกอบข้อ 6 ได้ให้ สส.แต่ละคนมีสิทธิเสนอชื่อได้ 1 คน และต้องมี สส. รับรองไม่น้อยกว่า 20 คน โดยที่ผู้ที่ถูกเสนอชื่อต้องแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และในกรณีที่มีการเสนอเพียงรายชื่อเดียวก็ถือว่าผู้นั้นได้เลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่หากมีการเสนอหลายชื่อก็ต้องใช้วิธีการลงคะแนนลับ
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ และในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้เสนอชื่อนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส. จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง โดยไม่มี สส. เสนอชื่อบุคคลอื่น จึงถือว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง จึงเป็นไปตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมทั้งต้องให้แสดงวิสัยทัศน์ด้วย
นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ว่า จะปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ตามภารกิจของรัฐสภา โดยยึดหลัก 3 ประการ คือ
1. ตรากฎหมาย ตรวจสอบ หรือยกเลิกกฎหมาย
2. ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของฝ่ายบริหาร
3. ให้ความเห็นชอบเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อประชาชน
พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแก้ไขปัญหาของประเทศ โดยให้สภาผู้แทนราษฎรใกล้ชิดประชาชนมากขึ้น อาทิ การจัดตั้งสำนักงานรัฐสภาประจำจังหวัด เริ่มทดลองอย่างน้อย 5 จังหวัด การนำรัฐสภามุ่งสู่การเป็น Smart Parliament , Green Parliament และ Zero Carbon นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการบริหารองค์กรนำไปสู่รัฐสภาดิจิทัล มีการปรับปรุงรัฐสภาให้มีความสมบูรณ์ภายหลังจากที่ได้รับมอบงานมาแล้ว 3 เดือน สร้างท่าเทียบเรือฝั่ง สส. และ สว. ภายในปี 2568 การก่อสร้างที่จอดรถภายในบริเวณอาคารรัฐสภาเพิ่มอีก 3,000 คัน ให้ถูกต้องตามกฎหมายของกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งจัดให้มีการบริหารความปลอดภัยภายในอาคารรัฐสภาอย่างเร่งด่วน มีการเตรียมพร้อมชุดป้องกันอัคคีภัยให้เร็วที่สุด ตลอดจนทำหน้าที่ช่วยประธานสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการประชุมสภาให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีมีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของ สส. ให้มีความรู้และประสบการณ์เพื่อนำไปพัฒนาท้องถิ่นของตนเองให้ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด สุดท้ายตนจะทำหน้าที่ช่วยประธานสภาผู้แทนราษฎรในการขับเคลื่อนรัฐสภาไทยก้าวไปสู่การเป็นรัฐสภาผู้นำในระดับอาเซียน และในระดับเอเชียต่อไป
ต่อมา นายสรวงศ์ เทียนทอง สส. จังหวัดสระแก้ว พรรคเพื่อไทย เสนอชื่อ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส. จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ให้เป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง โดยไม่มี สส. เสนอชื่อบุคคลอื่น ถือว่า นายภราดร ปริศนานันทกุล ได้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรฯ
นายภราดร ปริศนานันทกุล กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ว่า รู้สึกเป็นเกียรติและขอบคุณพรรคภูมิใจไทยที่ได้เสนอชื่อตนเองให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง และเป็นผู้ช่วยประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถือว่าเป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ตนใช้เวลาทำงานในสภาถึง 17 ปี มีความผูกพันกับองค์กรแห่งนี้จนเปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่สองของตนเอง จึงมีความคาดหวังที่จะทำให้รัฐสภาไทยมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นที่เชื่อมั่น และศรัทธาของประชาชน ซึ่งการจะทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นได้นั้นจะต้องเกิดขึ้นจากการทำงานของ สส. ทั้ง 493 คน ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ ดังนั้น ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 คน จึงมีหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ สส. สามารถแสดงศักยภาพของตนเองให้มากที่สุด สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ ตนขอให้คำมั่นสัญญากับประธานสภาผู้แทนราษฎร และ สส. ในที่ประชุมแห่งนี้ว่า ตนจะไม่เป็น รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง หรือ สส. ฝ่ายรัฐบาล เท่านั้น แต่จะเป็น รองประธานสภาผู้แทนราษฎรของสภาแห่งนี้ ที่มี สส. ทั้ง 493 คน พร้อมทั้งจะปฏิบัติหน้าที่ตามที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และช่วยทำให้รัฐสภาเป็นสภาของประชาชนคนไทยทั้งหมด พื้นที่ในส่วนที่เป็นอาคารสถานที่ประชาชนจะได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งลานประชาชน และห้องสมุดรัฐสภา เช่นเดียวกับเรื่องข้อมูลข่าวสารของสภาผู้แทนราษฎรจะเปิดให้ประชาชนเข้าถึงให้ได้มากที่สุด ทำให้รัฐสภามีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นสภาของประชาชน
พร้อมขอย้ำว่าตนจะไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อฉวยโอกาสสร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับพรรคการเมืองหรือกับตนเอง จากวันนี้เป็นต้นไปจนวันสุดท้ายที่ปฏิบัติหน้าที่ ขอยืนยันว่าจะทำหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่สอง ให้ดีที่สุด เพื่อสร้างศรัทธา ความเชื่อมั่น และสร้างเกียรติยศให้กับสภาแห่งนี้ให้เป็นที่ยอมรับจากประชาชน
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเลือกนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส. จังหวัดเชียงราย พรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายภราดร ปริศนานันทกุล สส. จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทั้งนี้ จะรีบดำเนินการเพื่อนำความกราบบังคลทูลฯ เพื่อให้มีการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 2 ตำแหน่ง เพื่อให้มาทำงานขับเคลื่อนรัฐสภาในช่วง 3 ปีข้างหน้าให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้เกิดประโยชน์กับสมาชิกรัฐสภา และประชาชนต่อไป