วันนี้ (12 ก.ย.2567) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ผู้นำฝ่ายค้าน ลุกขึ้นอภิปรายการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อรัฐสภา โดยตั้งคำถาม เพื่อส่งผ่านไปยังรัฐบาล สส.และสว.ว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ต้องมาอภิปรายนโยบายของรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลครบรอบ 1 ปี รอบก่อน 11 ก.ย.2566 เป็นรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน ที่มาแถลงนโยบายต่อรัฐสภา และวันนี้ (12 ก.ย.)เป็นรัฐบาล ของน.ส.แพทองธารว่า เป็นเพราะปัญหาหลักนิติรัฐ
1 ปีสูญเปล่า 3 ปีเจ๊าหรือเจ๊ง เพื่อถามว่าวันนี้รัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผ่านมา 1 ปี ยังไม่สามารถส่งมอบนโยบายได้
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า หลักการนิติรัฐ มีใจความเรียบง่ายว่า ประเทศที่ถูกปกครองด้วยกฎหมาย ไม่ได้ถูกปกครองตามอำเภอใจของผู้มีอำจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งการแสดงความเห็นของบุคคลที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในเวทีสาธารณะ แสดงถึงการขาดระบบนิติรัฐ ที่คนมีอคติใช้อำนาจมาทุบทำลายประหารชีวิตพรรคก้าวไกล ที่วันนี้กลายเป็นพรรคประชาชน
อ่านข่าว เปิดคำแถลงนโยบาย “รัฐบาลแพทองธาร” ต่อรัฐสภา ฉบับเต็ม
ตั้งฉายารัฐบาล 3 นาย-เรือธงดิจิทัลไม่ถึงฝัน
หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ไม่ใช่พรรคก้าวไกลที่ตกเป็นเหยื่อ แต่คณะรัฐมนตรี และประชาชนทุกคนกำลังตกเป็นเหยื่อของระบบการเมืองในวันนี้ จากที่บอกระบบนิติรัฐแบบนี้ เพราะ 1 ปีที่สูญเปล่าจากการตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้วไม่มีประชาชนในสมการการตัดสินใจ
3 ปีนี้จากนี้เรียกว่ารัฐบาล 3 นาย นายใหญ่ นายทุน นายหน้า ที่มีแต่เจ๊ากับเจ๊งไม่มีอนาคตที่ดีขึ้น หากยังอยู่ในระบบการเมืองแบบนี้ เพราะสยบต่อระบบการเมืองแบบเพราะกำลังสยมยอมนิติสงครามที่ทำลายหลักนิติรัฐ
ครบรอบ 1 ปีรัฐบาลไม่ได้อะไรจากคำมั่นสัญญาของรัฐบาลเพื่อไทย กลุ่มคนยากไร้ เงินใหม่ยังไม่เข้าหนี้เก่ายังไม่แก้ ส่วนกลุ่มเกษตรกรเจอปัญหาหมูเถื่อนปลาหมอคางดำ กลุ่มธุรกิจเจอต้นทุนพลังงานสินค้าล้นทะลัก และประชาชนขาดความมั่นคงในชีวิต และรัฐบาลขาดอำนาจนำในการบริหารราชการแผ่นดิน
นโยยายเรือธงเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท บอกจะแจกทันที แจกพร้อมกัน เพื่อสร้างพายุหมุนเศรษฐกิจ จนถึงวันนี้เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ซ้ำยังต้องปรับแผนกำลังทยอยจ่ายผ่านระบบบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เริ่มกำลังวลว่าโยบายเรือธงดิจิทัลวอลเล็ตที่ไม่เหลือเค้าโครง ไม่รู้ให้ประชาชนขึ้น หรือให้นายคนไหนขึ้น
นอกจากนี้ เรื่องของการแก้หนี้ให้กับประชาชน เรื่องการจัดสวัสดิการสังคม ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการเด็กเล็ก 600 บาทถ้วนหน้าที่ทุกพรรคเคยหาเสียงไว้ รวมทั้งสวัสดิการการผู้อายุที่เคยมีในรัฐบาลปีก่อนแต่ครั้งนี้ไม่ได้ถูกบรรจุในการแถลงนโยบายรัฐบาลแพทองธาร ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่ต้องแลกมา
ขณะที่นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร มีข้อครหาว่าจะล็อกการประมูลเอื้อประโยชน์บางกลุ่ม เป็นนโยบายเรือธงให้นายทุนหรือไม่ และนโยบายการเวนคืนที่ดินมากมาย เป็นนโยบายที่เอื้อนายหน้าค้าที่ดินหรือไม่
นายณัฐพงษ์ กล่าวอีกว่าในรัฐบาลนายเศรษฐา เคยมีข้อสั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรี 193 เรื่องไปยังหน่วยงานต่างๆ เป็นข้อสั่งการ 132 เรื่อง ขอ 27 เรื่อง มอบหมาย 17 เรื่อง ส่งต่อไปถึง 251 หน่วยงานของรัฐ และมีถึง 163 เรื่องที่ไม่ได้กำหนดกรอบเวลาไว้ ทำให้มีเพียง 10 เรื่องเท่านั้น ที่หน่วยงานนำกลับมารายงานให้นายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่า อาจมีปัญหาว่านายกรัฐมนตรีไม่เข้ากลไกการทำงานของระบบราชการ หรือรัฐบาลไม่มีอำนาจนำ
อ่านข่าว ถ่ายทอดสด “ครม.แพทองธาร” แถลงนโยบายต่อรัฐสภา วันแรก 12 ก.ย.
นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร มีข้อครหาว่าจะล็อกการประมูลเอื้อประโยชน์บางกลุ่ม เป็นนโยบายเรือธงให้นายทุนหรือไม่ และนโยบายการเวนคืนที่ดินมากมาย เป็นนโยบายที่เอื้อนายหน้าค้าที่ดินหรือไม่
ขอสปิริตผู้นำนายกรัฐมนตรี
นายณัฐพงษ์ ฝากข้อความถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรงว่า ในฐานะที่ตนเองและนายกรัฐมนตรี เพิ่งมาดำรงตำแหน่งสูงสุดในแต่ละซีกฝั่งการเมืองนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเช่นเดียวกัน ตนเองและท่านเกิดและเติบโตมาในสังคมยุคเดียวกัน ถูกหล่อหลอมมาจากสถานการณ์การเมืองประเทศนี้มาแบบเดียวกัน
วันนี้ท่านมาดำรงตำแหน่งนายกฯ ส่วนตัวผมเป็นหัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ถูกคาดหมายได้ว่าจะได้เสนอชื่อเป็นผู้นำฝ่ายค้านในอนาคตนอกจากบริบทและสถานการณ์พาไป ที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรา 2 คน ตัดสินใจมาเพื่อเดินหน้าต่อให้คนที่อยู่ข้างหลังของพวกเรา
นายณัฐพงษ์ ระบุว่า ต้องการให้นายกรัฐมนตรีแสดงบทบาทความเป็นผู้นำ ผู้นำที่ดีนอกจากการรับฟังความเห็นสมาชิกแล้ว ยังต้องชี้นำความคิดที่ถูกที่ควรให้กับสังคมด้วย และหวังว่านายกรัฐมนตรี จะลุกขึ้นตอบว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นวาระด่วนของประเทศนี้ รวมทั้งการแก้ไขมาตรฐานจริยธรรม ยกเลิกมาตรา 279 เพื่อเร่งรัดยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช. เพิ่มหมวดป้องกันและต่อต้านรัฐประหาร ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ